แจงบัญชี “กองทุนราษฎรฯ” หลายล้าน ประกันผู้ชุมนุมถูกจับล่าสุด พบยังเหลือเกือบพัน-จยย.อีกเพียบ ที่ต้องใช้เงินหลายสิบล้าน แนวร่วมเทแล้ว “ม็อบรุนแรง” 3 นิ้วทำเสื่อม กดขี่ จิกด่าคนไปทั่ว “ตร.” จ้องปิดเกมสมรภูมิดินแดง
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (9 ก.ย. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น ล้วงเงิน “กองทุนราษฎรฯ” หลายล้าน ประกันผู้ชุมนุมโดนจับเกือบพัน-จยย.โดนยึดเกือบ 100
โดยมีเนื้อหาระบุว่า เพจ กองทุนราษฎรประสงค์ โพสต์ชี้แจงการใช้เงินกองทุนฯ ดังนี้
1. เบิกเงินจำนวน 332,500 บาท เพื่อใช้วางประกันประชาชน 9 คน ที่ถูกจับกุมจากบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ที่มีการชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊ส เมื่อวันที่ 7 ก.ย. 64 ทั้ง 9 คน ถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ โดยมีหนึ่งคนถูกแจ้งข้อหามียุทธภัณฑ์ คือ เสื้อเกราะ ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลอาญารัชดาฯ เรียกหลักทรัพย์วางประกันคนละ 35,000 บาท
ยกเว้นหนึ่งคนที่เป็นชาวกัมพูชา ซึ่งถูกแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวฯเพิ่มเติมด้วยนั้น ศาลให้วางประกันที่ 52,500 บาท... กรณีเหตุชุมนุมนี้ ยังมีผู้ถูกจับกุมที่เป็นเยาวชนอีก 5 คน ซึ่งศาลเยาวชนฯให้ประกันโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ แต่หากผิดสัญญาประกันจะปรับเงินเป็นจำนวน 5,000 บาท
2. เบิกเงิน 60,000 บาท เพื่อใช้วางประกันประชาชน 3 คน ที่ถูกสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 สั่งฟ้องในฐานความผิดฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันที่ 7 ส.ค. 64 ซึ่งเป็นวันนัดหมายชุมนุมโดยกลุ่มเยาวชนปลดแอก
คดีนี้เดิมในชั้นพนักงานสอบสวน ศาลแขวงดุสิตเคยให้ประกันด้วยการสาบานตนโดยไม่ต้องวางหลักประกัน แต่ในชั้นสั่งฟ้องโดยอัยการ ศาลให้วางหลักประกันคนละ 20,000 บาท รวม 3 คน 60,000 บาท
3. รับเงินประกันจำนวน 300,000 บาท คืนจากศาลจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นเงินประกันคดี 112 จำนวน 2 คดีของ บาส มงคล ถิระโคตร ในชั้นฝากขังของพนักงานสอบสวน ทั้งสองคดีนี้อัยการได้สั่งฟ้องไปเมื่อวันที่ 25 ส.ค. และกองทุนฯได้วางประกันใหม่ในชั้นอัยการไปแล้ว นายประกันจึงทำเรื่องขอรับเงินประกันชั้นพนักงานสอบสวนคืน
ภายหลังยอดเบิกจ่ายและรับคืนข้างต้น ยอดเงินคงเหลือในบัญชีคือ 2,722,769.05 บาท #กองทุนราษฎรประสงค์ซึ่งใน 2 กรณีนี้ ทางกองทุนราษฎรประสงค์ ต้องใช้เงินกว่า 392,500 บาท ปัจจุบัน มียอดเงินคงกว่า 2.7 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ (29 ก.ย.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้เปิดประมูลผลงานศิลปะที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทือกเขา Ama Dablam ในเนปาล ฝีมือนายธนาธร โดยเงินที่ได้จากการนี้ จะนำไปเพื่อช่วยเหลือกองทุนของฝ่ายประชาธิปไตย 4 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนราษฎรประสงค์, กองทุนดาตอร์ปิโด, ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
ต่อมามีรายงานว่า การประมูลผลงานของนายธนาธร จบที่ราคา 652,475 บาท โดยไม่เปิดเผยรายชื่อของผู้ประมูล
และจากการตรวจสอบของทีมข่าวเดอะทรูธ เกี่ยวกับการดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 64 เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดรถของกลางทั้งสิ้น 202 คัน ตรวจสอบดำเนินคดีแล้ว 145 คัน อยู่ระหว่างตรวจสอบ 56 คัน และการดำเนินคดีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 64 ถึงปัจจุบัน รวม 179 คดี ผู้ต้องหาทั้งหมด 684 คน สามารถติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 427 คน
เมื่อเป็นเช่นนี้ การใช้เงินประกันตัวผู้ต้องหาในแต่ละราย ก็จะมีวงเงินประกันที่แตกต่างกันออกไป ตามคดีของแต่ละคน ซึ่งขณะนี้มีผู้ชุมนุมถูกจับกุมจำนวนมาก ขณะที่เงินจากกองทุนราษฎรประสงค์ เหลือเพียง 2.7 ล้านบาท ซึ่งถ้าต้องประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด อาจต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก รวมทั้งยังมีรถจักรยานยนต์ที่ถูกยึดไปอีกที่ต้องใช้เงินเพื่อนำรถออกมาอีกกว่า 200 คัน
นอกจากนี้ ยังพบว่า ชื่อบัญชีที่ใช้ในการรับบริจาคนั้น คือ ชลิตา บัณฑุวงศ์ และ น.ส.ไอดา อรุณวงศ์ ณ อยุธยา โดยการเปิดรับบริจาคของคณะราษฎร กองทุนราษฎรประสงค์ ได้ปิดบัญชีเดิมลงแล้วเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา (บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ในชื่อ ชลิตา บัณฑุวงศ์ และ/หรือ ไอดา อรุณวงศ์) ซึ่งเคยเปิดมาตั้งแต่ปี 2561 และเปิดบัญชีใหม่ขึ้นแทนในวันเดียวกัน ซึ่งบัญชีดังกล่าวมีไว้ใช้สำหรับการระดมทุนสาธารณะเพื่อการประกันตัวและเงินค่าปรับในคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง
ซึ่งทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า เงินสนับสนุนในกองทุนราษฎรประสงค์นั้น มาจากนายทุนคนไหน หรือมีท่อน้ำเลี้ยงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา กองทุนราษฎรประสงค์มีการใช้เงินประกันตัวผู้ต้องหาหลายล้านบาท และยังมีเงินที่ใช้ในการซื้อของเยี่ยมให้กับแกนนำคณะราษฎรที่ถูกคุมตัวอยู่ในเรือนจำด้วย
ถ้าลองคำนวณจากจำนวนผู้ชุมนุมที่ถูกคดีเกือบ 1,000 คน หากถูกดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะถูกปรับไม่เกิน 40,000 บาท จะใช้เงิน หลายสิบล้านบาท เลยทีเดียว
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น แนวร่วมแห่เท “สามนิ้ว” คนเริ่มไม่ให้ราคา มีแต่วัยรุ่นทำเอาเท่ ชอบใช้ความรุนแรง !
โดยระบุว่า ในทวิตเตอร์มีการเคลื่อนไหวของ “แนวร่วม” กลุ่มคณะราษฎร ที่มีการสนับสนุนการชุมนุมมาโดยตลอด โพสต์หลายข้อความว่า
“คิดเหมือนกันนะว่า คนสนใจม็อบน้อยลง ขนาดตัวเราเองยังรู้สึกเลยอะว่า ตัวเองสนใจม็อบน้อยลง” ซึ่งมีคนรีทวีตเกือบ 3 หมื่นคน
นอกจากนี้ แนวร่วมอีกหลายคนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ว่า เพราะคนไปม็อบบางคนแบ่งชนชั้นและสุดโต่งเกินไปค่ะ ตัวอย่างหาได้ตามทวีตที่เตือนม็อบเลี่ยงเขต รพ.เด็ก ม็อบยังมาด่าเลย ว่าให้มึงไปบอกอี คฝ. ทั้งที่เค้าไม่ได้ห้าม แค่เลี่ยง ม็อบบางคนไปม็อบแต่มาแบ่งชนชั้นคนไม่ไปม็อบ ว่าคือ พวกกระดิกตีxนอนอยู่บ้าน, อิกนอร์, พวกอยู่ในกะลา เพราะงี้ล่ะค่ะ
ไม่ได้เป็นกะทินะคะ แต่เริ่มตามน้อยลงตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกๆ ที่ก้าวพลาด ช่วงแรกเกือบชนะแล้วค่ะ ใครๆ ก็ดูออก แต่เล่นเอาเรื่องโน้นมาผสม เรื่องนี้มาผสม ถ้าเล่นที่ตัว รฐบ.อย่างเดียว ชนะไปตั้งแต่ช่วงแรก นี่ไปเล่น เอาสิ่งที่สูงกว่ามาเล่น แทนที่จะตีแผ่ข้อมูลความจริง ไหนเอาสิทธิเรื่องเพศอีก
เป็นเหมือนกันเลยค่ะ รู้ว่าเรากำลังจะเป็นอย่างที่พวกมันอยากให้เป็น ให้เราสู้จนหมดแรงกันไปเอง ใครที่ยังลงม็อบต่อก็เริ่มใช้ความรุนแรงขึ้น แต่ตอนนี้ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ ทั้งเรื่องโดนหักเงินเดือน เพราะ WFH เรื่องบ้าน เรื่องโควิด เหมือนว่ายอยู่กลางทะเลกำลังหมดแรงเลย ชีวิตตอนนี้
ม็อบใช้ความรุนแรงเกินไปในบางที เหมือนลืมว่า อุดมการณ์แรกเราตั้งไว้ว่าอะไรกัน ตอนแรกๆ ดีมากใช้เสียงให้มากที่สุดใช้ความคิดเขย่าให้ได้มากที่สุด แต่ตอนนี้แทบจะไม่มีความสามัคคีกันแล้ว เด็กวัยรุ่นบางคนก็ไปเอาเท่มัน เลยทำให้เลิกติดตามม็อบแต่อุดมการณ์เรายังเหมือนเดิม
บางอันก็ไร้สาระ ยืดเยื้อ-นาน ปาระเบิx ซึ่งม็อบประกาศว่ามาอย่างสันติ แกนนำหายไปไม่ค่อยมีซีน พิษโควิด คนไม่สนใจม็อบ เพราะตอนนี้ต้องเอาตัวเองให้รอด ม็อบไม่มีแบบแผน ไม่เห็นอนาคต เราแค่แสดง คห.เท่านั้นนะคะไม่ได้โจมตีม็อบ
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน THE TRUTH โพสต์ประเด็น โดนทั้งขบวน! บช.น.ส่งสัญญาณ ปิดเกม “แยกดินแดง” จ่อหมายจับคนหนุนหลัง “ทะลุแก๊ส” ป่วนเมือง
โดยระบุว่า หลังจากที่เกิดการชุมนุมและตอบโต้อย่างหนัก ในพื้นที่แยกดินแดง มาร่วมระยะเวลาเกือบเดือน ยังไม่มีทีท่าว่าการชุมนุมของกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มทะลุแก๊สจะสงบลง...
ล่าสุด พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เผยว่า วันนี้ยังคงมีการนัดหมายชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊ส บริเวณแยกดินแดงเช่นเคย จึงย้ำเตือนว่า กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมมั่วสุม มีความผิดตามกฎหมาย ส่วนการชุมนุมเมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา ยังคงพบมีการก่อความวุ่นวาย และละเมิดกฎหมายหลายข้อหา ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีการบันทึกภาพและเสียง เพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดทุกคนมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสืบสวน คาดว่า น่าจะออกหมายจับผู้สนับสนุน หรือร่วมนำอาวุธอุปกรณ์ต่างๆ มาส่ง มาจำหน่าย และนำมาใช้ในการชุมนุมได้ภายในสัปดาห์หน้า อย่างน้อย 3 คน แต่ยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงถึงกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลัง
ทั้งนี้ รอง ผบช.น. เผยด้วยว่า จะไม่ให้มีการชุมนุมที่แยกดินแดงอีกต่อไป ส่วนจะได้ผลหรือไม่ ต้องติดตามต่อไป
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กลุ่มทะลุแก๊ส เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานและเข้ามายึดพื้นที่ชุมนุมป่วนบริเวณแยกดินแดง จนทำให้กลายเป็นพื้นที่เสี่ยง ที่แม้แต่ม็อบของนายณัฐวุฒิ และ บก.ลายจุด ต่างพยายามเลี่ยง ไม่เคลื่อนขบวนคาร์ม็อบผ่านเส้นทางนี้ แต่ก็ยังให้การชื่นชม สนับสนุนการปะทะของทะลุแก๊ส จนเหตุการณ์เริ่มบานปลาย ทำให้น่าจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งเรื่องการปิดเกมที่แยกดินแดง และการชุมนุมใหญ่ที่กลุ่มม็อบอ้างว่า จะรวมตัวอีกครั้งในวันที่ 19 ก.ย.
งานนี้กลุ่มทะลุแก๊สอาจไม่ยอมเลิกราง่ายๆ หรือหากเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้มาตรการเด็ดขาด ก็ไม่แน่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก่อนจะถึงวันที่ 19 ก.ย.?
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ คือ การชุมนุมของม็อบ 3 นิ้ว จะไปต่ออย่างไร ปล่อยให้มีทะลุแก๊สป่วนเมือง ทั้งที่นับวัน ด้อยค่า การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอยู่ทุกวัน โดยผู้บริจาคหรือผู้ให้ทุนสนับสนุน ไม่สนใจว่า จะใช้วิธีเสื่อมเสียในสายตาสาธารณชนหรือไม่ หรือจะมีการปรับเปลี่ยนให้สังคมยอมรับได้มากกว่านี้?
อย่าบอกนะว่า ทะลุแก๊สไม่เกี่ยวกัน เพราะใช้เงินกองทุนเดียวกันในการประกันตัวผู้ต้องหา จึงหลีกไม่พ้นเป็นพวกเดียวกัน และถ้าการใช้ความรุนแรง สร้างความเสื่อมเสียขึ้นมา ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
และถ้าจะว่าไปแล้ว ม็อบ 3 นิ้วของกลุ่มราษฎร ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากลุ่มทะลุแก๊สแต่อย่างใด เพราะทุกครั้งที่มีการชุมนุม ก็มักมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมมาตลอด ไม่ว่า สาดสี ทำลายทรัพย์สิน สัญลักษณ์ของสถาบันฯ รวมทั้งจาบจ้วงสถาบันฯ จนแกนนำมีคดีติดตัวมากมาย อย่างที่เป็นอยู่ในเวลานี้ เพียงแต่พักหลังทำอะไรไม่ถนัด เพราะมีเงื่อนไขปล่อยตัวชั่วคราวของศาลผูกมัดอยู่เท่านั้น
แล้วถ้ามองถึงกระแสแนวร่วมที่เริ่มไม่เห็นด้วยอย่างมากกับการชุมนุมด้วยความรุนแรง และสาวก 3 นิ้ว เที่ยวโจมตีคนที่ไม่ไปร่วมม็อบ แบ่งแยกชนชั้น ยกตัวเองสูงส่ง จิกด่าคนอื่น ด้อยค่าสารพัดนั้น ดูเหมือนว่า ต่อให้มีกองทุนสนับสนุนมากมาย ก็คงได้แค่ผลาญไปวันๆ เท่านั้น ไม่มีทางที่จะทำให้คนไทยเห็นดีด้วยแต่อย่างใด
ยิ่งคนไทยส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยกับแนวทางปฏิรูปสถาบันฯของ ม็อบ 3 นิ้วอยู่แล้ว ก็ยิ่งไปกันใหญ่
หันไปทางม็อบ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ บก.ลายจุด ก็ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะดูเหมือนจะจุดไม่ติดเสียแล้ว งานนี้ทำเอาคนแดนไกลม้วยคาสภาฯไม่พอ ยังม้วยคาม็อบด้วย
ดังนั้น สถานการณ์ม็อบที่เป็นอยู่ นอกจากทำได้แค่กลุ่มป่วนเมืองแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้คนไทยเห็นประโยชน์ที่จะออกมาชุมนุมอีกต่อไป แม้แต่แนวร่วมหลายคนก็ยังไม่เอาด้วย
ที่ดันทุรังอยู่ต่อ และก่อความวุ่นวายให้บ้านเมือง ก็เพราะ “อีแอบ” อยู่เบื้องหลังยังไม่ยอมเลิกราเท่านั้นเอง เพราะพวกเขายังฝันกลางวันแสกๆ อยู่ว่า วันหนึ่งจะเกิดความรุนแรงสุกงอม ถึงขั้นทำให้ประชาชนลุกฮือขึ้นมาร่วมกับม็อบ อยู่ที่ว่าใครจะปลุกให้พวกเขาตื่นขึ้นได้ เท่านั้นเอง จึงจะจบปัญหาทุกอย่างลง?