พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงการชุมนุมวานนี้ (6 ก.ย.64) มีผู้ชุมนุม 2 กลุ่ม คือ กลุ่มของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่แยกอโศก ซึ่งไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรง ส่วนที่แยกดินแดง เป็นการชุมนุมของกลุ่มทะลุแก๊ส ยังคงมีพฤติกรรมละเมิดกฎหมาย ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการปิดการจราจร การขว้างปาวัตถุระเบิดใส่สถานที่ของทางราชการและเอกชน การวางเพลิงเผาทรัพย์ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการจับกุม 18 ราย ในจำนวนนี้เป็นเยาวชน 9 ราย ซึ่งจะเรียกผู้ปกครองมาสอบสวน พร้อมยึดของกลางรถจักรยานยนต์ 30 คัน รถเครื่องเสียง 1 คัน พร้อมผู้ต้องหา 3 ราย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจค้นตัวผู้ก่อเหตุแล้วตรวจยึดระเบิดปิงปอง ระเบิดแสวงเครื่อง และอาวุธ
สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 ถึงปัจจุบัน มีจำนวน 179 คดี มีผู้ต้องหา 684 ราย สามารถติดตามมาดำเนินคดีได้แล้ว 427 ราย ส่วนรถจักยานยนต์ของกลาง 202 คัน ได้ตรวจยึดไว้แล้ว 115 คัน ส่วนอีก 56 คัน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า การปฏิบัติมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยเป็นไปตามมาตรฐานสากลและสมควรแก่เหตุ ส่วนความรุนแรงที่เกิดขึ้น มาจากจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ชุมนุม ไม่ว่าจะมีมาตรการรองรับอย่างไรก็ไม่สามารถป้องกันได้ พร้อมย้ำว่า ผู้ก่อเหตุไม่ใช่ผู้ชุมนุม ไม่ใช่ผู้เดือดร้อน ไม่ใช่ผู้เรียกร้องทางการเมืองใดๆ เลย เป็นผู้ละเมิดกฎหมายอาญาในหลายบทบัญญัติ และเป็นบุคคลที่เป็นอันตราย
ขณะที่วันนี้มีการประกาศเชิญชวนร่วมชุมนุม 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายณัฐพงศ์ ปานมาก นัดชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.00 น. กลุ่มของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นัดชุมนุมที่แยกอโศก ในเวลา 16.00 น. กลุ่มทะลุฟ้า นำโดยนายทรงพล สนธิรักษ์ นัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเวลา 16.00 น.และกลุ่มทะลุแก๊ส ที่ก่อเหตุละเมิดกฎหมาย นัดชุมนุมที่แยกดินแดง ในเวลา 17.30 น.
ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอเตือนว่า กรุงเทพมหานครยังคงเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การประกาศรวมตัวทำกิจกรรม การชุมนุม หรือรวมตัวกันที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรค จะมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ