เปิดหน้าให้เห็นชัดๆ! นักสิทธิมนุษยชนอเมริกัน หนุนสามนิ้วจาบจ้วงสถาบันฯ ลากต่อไม่ไหว “เต้น” อ้างเลี่ยงรุนแรงหากตำรวจนำหมายจับหน้าเวที งดม็อบแยกอโศก “บก.ลายจุด” ยอมรับมวลชนมาน้อย รอดูจุดติด-ไม่ติด
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (8 ก.ย. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น เปิดหน้า! นักสิทธิมนุษยชนอเมริกัน เบื้องหลังหนุนชุมนุมจาบจ้วงสถาบันไทย?
โดยระบุว่า ฟอร์ด เส้นทางสีแดง หรือ อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ นักกิจกรรมทางการเมือง แนวร่วมกลุ่มราษฎร ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงบุคคลหนึ่ง ซึ่งมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวในไทย???
ทั้งนี้ “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” ได้แชร์ข้อความ ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ชื่อว่า Ann Norman ก่อนโพสต์เฟซบุ๊กตัวเองว่า
“สำหรับนักเคลื่อนไหว หรือคนรักประชาธิปไตย ที่เข้าใจภาษาอังกฤษ ผมขอเชิญชวนให้ร่วมกลุ่มนี้ที่ก่อตั้งโดยคุณ Ann Norman นักสิทธิมนุษยชนชาวอเมริกัน ที่ชื่นชอบการเมืองไทย และเป็นหนึ่งในขบวนการประชาธิปไตยในต่างแดน”
อย่างไรก็ตาม ข้อความและเฟซบุ๊กที่ฟอร์ดแชร์มานั้น มาจากเฟซบุ๊ก Ann Norman ซึ่งระบุวันเวลาโพสต์ไว้ว่า
6 กันยายน เวลา 11:24 น.
ประกาศ : ฉันจะพยายามฟื้นฟูกลุ่มเพลงแห่งเสรีภาพไทย (สําหรับการแปลเพลงประท้วงไทยสําหรับผู้ชมที่พูดภาษาอังกฤษ) เพราะ 1) ฉันมีเพลงใหม่มากมายให้แชร์ (และฉันแน่ใจว่าคุณทําเช่นนั้น) 2) พื้นที่สําหรับการพูดคุยเกี่ยวกับบางเรื่องในประเทศไทยเปิดกว้างมาก 3) นักดนตรี นักเคลื่อนไหว จํานวนมากในคุกตอนนี้ และฉันต้องการช่วยให้โลกเข้าใจพวกเขาผ่านเพลงของพวกเขา กรุณาเข้าร่วมและเชิญคนอื่นๆ ให้เข้าร่วมหากคุณปลอดภัยที่จะทําเช่นนั้น ขอบคุณ!
นั่นเองที่ทำให้ทีมข่าวเดอะทรูธ ได้เข้าตรวจสอบ โดยพบว่า มีชื่อเฟซบุ๊กดังกล่าวจริง รวมทั้งเจ้าของเฟซบุ๊ก ที่สำคัญ บุคคลดังกล่าวได้โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับผู้ชุมนุมในไทย และเรื่องราวเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยไว้ด้วย ซึ่งความเคลื่อนไหวบ่งบอกไปในลักษณะที่ชัดเจนว่า สนับสนุนกลุ่มม็อบในประเทศไทย ที่ต้องการปฏิรูปสถาบัน แต่ใช้วิธีที่หยาบคายจาบจ้วงรุนแรง โดยการโพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ บางข้อความ มีเนื้อหาที่ไม่สามารถนำมาเผยแพร่ต่อได้ ซึ่งสำหรับโพสต์ล่าสุดระบุไว้ว่า
Ann Norman 7 กันยายน เวลา 00:36 น.
เพลงนี้ให้เกียรติรุ้งรุ้ง (ผู้หญิงที่นําเสนอ 10 Demands เพื่อปฏิรูปพระมหากษัตริย์ไทย) น่าทึ่ง มันโดยสามัญชน และมี Jacobi ของ Rap Against Dictatorhship ชื่อของรุ้งหมายถึง สายรุ้ง ซึ่งให้ตัวเองยืมภาพบทกวีแต่เป็นโบนัสภาพนั้นไร้ศาสนา! ในเพลงนี้รุ้งสร้างสะพานจากดินสู่สวรรค์ (และมองไปยังหนุ่มสาว SKATEBOARD ขึ้นลงเหมือนไม่มีอะไร) พวกเขาไม่กลัวสวรรค์หรือรู้สึกว่าไม่มีความพึงพอใจ สวรรค์และดินเชื่อมโยงกันและสําหรับทุกคน นอกจากนี้ ยังตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาของ Adam Michaelangelo สัมผัสภาพพระหัตถ์ของพระเจ้า พระเจ้าต่างหากที่กําลังร้องขออะไรบางอย่างจากมนุษย์! ใช่แล้ว!
กระนั้นจึงความน่าสนใจเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวสนับสนุนผู้หญิงที่ Ann Norman อ้างถึง นั่นก็คือ รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่ได้ปราศรัยข้อเรียกร้อง 10 ข้อ เกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบัน จากการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต
ต่อมาวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย และอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กชื่อ Suvinai Pornavalai ระบุถึงเรื่อง 10 ข้อเสนอของ รุ้ง ไว้ว่า
“เรื่องใหญ่ที่เป็นข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์คือ รุ้งสารภาพเองว่าเพิ่งรับโพยเรื่องข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ 10 ข้อของอาจารย์สมศักดิ์ เจียม ก่อนขึ้นพูดบนเวทีธรรมศาสตร์รังสิตในค่ำวันที่ 10 สิงหาคม 2020 เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง เรียกว่า “ตกกระไดพลอยโจนโดยเต็มใจ”
ผมมีคำถามที่อยากทราบคำตอบจากรุ้งนะว่า …ใครคือคนบงการที่อยู่เบื้องหลังยื่นโพยยัดใส่มือรุ้งให้ออกไปเรียกร้องข้อเสนอปฏิรูปสถาบัน 10 ข้อ เพราะนี่คือ ไอ้โม่งตัวจริง ซึ่งผมมองว่า มีหลายคนสุมหัวกันใช้เด็กบังหน้า”
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น เทม็อบแล้ว “เต้น ณัฐวุฒิ” อ้างเสี่ยงหมายจับ งดชุมนุมแยกอโศก “บก.ลายจุด” ยอมรับมวลชนมาน้อย ไปต่อหรือพอแค่นี้ อยู่ที่จุดติด-ไม่ติด
เนื้อหาระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ประกาศจัดชุมนุมที่แยกอโศกฯ ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. เป็นต้นไป และจะมาปักหลักที่จุดนี้ทุกวัน จนกว่านายกฯจะลาออก
และเมื่อวันที่ 6 ก.ย. บก.ลายจุด กล่าวว่า จะมีการปรับแผน กลับไปใช้แบบคาร์ม็อบเหมือนเดิม และเคลื่อนขบวนเข้ามายังเวทีปราศรัยที่อโศก ซึ่งคาดว่าเนื่องมาจากกลุ่มมวลชนที่เดินทางมาน้อย และมีฝนตกลงมาทุกเย็น ทำให้บรรยากาศการชุมนุมไม่คึกคัก ผิดคาดที่ประเมินไว้
และเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา บก.ลายจุด นำทีมไบค์ม็อบ วิ่งเส้นทางนานา พระโขนง แล้ววนกลับแยกอโศกมนตรี เพื่อดึงคนเข้ามายังพื้นที่ชุมนุม และยังยอมรับว่า ขณะนี้จะต้องปั้นม็อบให้จุดติดก่อน ก่อนจะไปสู่ม็อบขนาดใหญ่ โดยจะใช้เวลาประเมิน 1 สัปดาห์ หากไปต่อได้ก็จะไปต่อ แต่หากไปต่อไม่ได้ก็จะต้องมาทบทวน ซึ่งสัญญาณการจุดม็อบติดนั้น คือ ปริมาณมวลชนที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น และเติบโตขึ้น และเมื่อจุดติดแล้วก็จะประกาศวาระการชุมนุมใหญ่ โดยวาระที่จะถึงคือวันครบรอบ 15 ปี รัฐประหาร 19 กันยายนนี้ ซึ่งจะเป็นวาระสำคัญที่จะประกาศนัดชุมนุมใหญ่ ส่วนป้อมค่ายที่อโศกจะตั้งสำเร็จหรือไม่ ก็จะใช้เวลาประเมิน 10 วันก่อนถึง 19 กันยายน
ล่าสุด นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “วันนี้น่าจะเป็นช่วงบ่ายตำรวจจะไปยื่นขอหมายจับ ศาลอนุมัติหรือไม่ คงทราบใกล้เวลานัดที่อโศก 4 โมงเย็น ถ้าหมายจับออกคงจับกันที่เวที ยืนยันว่า การชุมนุมโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ถ้าจะดำเนินคดีผมพร้อมเข้ากระบวนการ แต่การควบคุมตัวกลางที่ชุมนุมคือการสร้างเงื่อนไขเผชิญหน้า เราไม่เล่นเกมนี้
ขอยกเลิกนัดหมายชุมนุมที่แยกอโศกวันนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์หมายจับให้แน่ชัด ถ้าออกหมายผมกับบก.ลายจุดจะไปมอบตัวทันที หากศาลไม่อนุมัติหมายจับโปรดติดตามนัดหมายครั้งต่อไป รู้ว่าเขามีอำนาจ แต่เขาก็ต้องรู้ว่าเรามีหัวใจ และหัวใจนี้ยังสู้เสมอ
หมายเหตุ : เพื่อนมิตรฝ่ายประชาธิปไตยสั่งอาหารไว้บริการพี่น้องที่แยกอโศก วันนี้ไม่มีการชุมนุมจะแจกจ่ายให้พี่น้องละแวกนั้นตอน 5 โมงเย็นนะครับ”
ขณะที่เฟซบุ๊กของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด โพสต์ข้อความว่า “ดร.เสกสกล (แรมโบ้) ไปแจ้งความว่าผมกับเต้นเป็นกบฏ ด้วย ม.113 และ 116
ผมจะเรียนพี่แรมโบ้ว่า คนที่เคยมีสถานะเป็นกบฏ คือ พลเอก ประยุทธ์ นายใหม่ของโบ้นั่นแหละ ผมเป็นนักต่อต้านการยึดอำนาจ แต่โดนจับทุกที ส่วนไอ้คนฉีกรัฐธรรมนูญแมร่งเป็นรัฐบาล ส่วนที่ตำรวจจะไปออกหมายจับ ถ้าศาลยอมออกให้วันนี้ ผมจะไปมอบตัวเอง ไม่ต้องแห่กันมาจับ นิสสันมาร์ชผมยังใช้งานได้ดีอยู่”
อย่างไรก็ตาม การประกาศงดชุมนุมในวันนี้ โดยมีการยกเรื่องหมายจับเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจจะมองได้ 2 แง่มุม ว่า ทั้ง 2 แกนนำจะถูกหมายจับในเย็นนี้ ตามที่เจ้าตัวรู้ชะตาของตนเอง อีกทั้งการชุมนุมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกว่า ยังจุดไม่ติด คนมาร่วมม็อบน้อยมาก เมื่อเทียบกับคาร์ม็อบที่เคยจัด ทำให้ทั้งคู่ต้องหาทางลงแบบเร่งด่วน ก่อนจะไปประเมินความพร้อม และออกมาชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 19 ก.ย.
เพราะหลังจากที่ประกาศว่าจะมาชุมนุมที่แยกอโศกทุกวัน แต่บรรยากาศถือว่าปลุกไม่ขึ้น มวลชนไม่ถึงหลักพัน จึงทำให้นายณัฐวุฒิและบก.ลายจุด หาทางลงก่อนในเวลานี้
แน่นอน, ทั้งสองโพสต์ มีความน่าสนใจแตกต่างกัน โพสต์แรก เห็นได้ชัดว่า มีบางกลุ่มที่อยู่นอกประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนต่างประเทศ ที่ให้การสนับสนุนการชุมนุมในประเทศไทย โดยเฉพาะประเด็น “ปฏิรูปสถาบัน” มีความพยายามอย่างสูง ที่จะชักชวนคนไทย เข้าร่วมกลุ่มให้ข้อมูลทางความคิดเกี่ยวกับสถาบัน หรืออาจมีการบิดเบือนข้อมูล ปลุกระดม ฯลฯ
จึงนับว่า อันตรายอย่างมาก หากหลายคนที่หลงเข้าไปในกลุ่ม แล้วไม่มีภูมิคุ้มกันด้านข้อมูลที่มากพอ ก็จะตกเป็นทาสทางความคิด หลงเชื่อข้อมูลที่บิดเบือน จนยอมแม้กระทั่งทำลายความมั่นคงของประเทศตัวเอง
อย่าลืมว่า ที่มีม็อบ 3 นิ้ว หรือ สามกีบ ออกมาเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ และจาบจ้วงสถาบันอย่างสาดเสียเทเสีย ก็เพราะหลงเชื่อการปลุกปั่นยุยง ขายความคิดของคนบางกลุ่ม ให้ต่อต้านสถาบัน และต้องการปฏิรูปสถาบัน
ทั้งที่ความจริง ปัญหาใหญ่อยู่ที่นักการเมืองไม่มีสำนึกในการพัฒนาประชาธิปไตยที่ดีพอ และไม่มีสำนึกรับผิดชอบที่จะทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมาต่างแก่งแย่งช่วงชิงอำนาจ จนสร้างเงื่อนไขให้เกิดการรัฐประหาร ทำไมไม่โทษนักการเมือง เพราะตัวเองก็เป็นนักการเมือง หวังประโยชน์ทางการเมืองเช่นกันใช่หรือไม่
คิดดู เมื่อไหร่ก็ตาม ถ้าพวกเขา (กลุ่มอีแอบ) ได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน เมื่อนั้น ก็ยิ่งจะไม่เห็นหัวประชาชน เพราะทุกวันนี้ก็ไม่เห็นหัวอยู่แล้ว เพียงใช้เป็นข้ออ้างเทานั้น
ทั้งยังมีความพยายามที่จะทำ (ปฏิรูปสถาบัน) ในสิ่งที่คนไทยไม่เห็นด้วย อย่างชนิดข่มขืนใจจัดม็อบออกมา ท้าทาย ต่อรอง กดดัน บีบคั้นด้วย คนไทยลองคิดดูว่าจริงหรือไม่
ส่วนประเด็นของ “เต้น” ณัฐวุฒิ กับ บก.ลายจุดนั้น ทุกคนทราบดีว่า ทำได้อย่างดี ก็แค่ป่วนเมืองเท่านั้น จะไม่มีผลอะไรกับการขับไล่พล.อ.ประยุทธ์อย่างที่ประกาศไว้ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ม็อบสองกลุ่มนี้มีเจ้าของ มีเงินทุนสนับสนุน และขึ้นชื่อสองคนนี้ ทุกคนก็จะคิดถึงคนแดนไกล “นายใหญ่” คนเสื้อแดง ที่อีกด้านหนึ่ง เจ้าตัวก็อาศัย “คลับเฮาส์” โจมตี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประจำไปแล้ว
คำถาม ที่คนไทยอยากรู้ ก็คือ ทั้งสองประเด็นดังกล่าว ประชาชนคนไทยที่กำลังเผชิญโรคระบาดโควิด-19 อย่างรุนแรง ล้มตายเป็นจำนวนมาก และ กระทบกับเศรษฐกิจปากท้องอย่างแสนสาหัสอยู่ในเวลานี้
การชุมนุมทางการเมือง การเรียกร้องปฏิรูปสถาบัน การปะทะกับตำรวจ คฝ. การเผาป้อมตำรวจ ทรัพย์สินทางราชการทุกวัน คนไทยได้อะไร???