xs
xsm
sm
md
lg

ปากกล้าขาสั่น? สามกีบเสียงแตก ไม่เล่นด้วย “ปลดแอกบุกวัง” ดิ้นผิดสังเกต “ปิยบุตร” ด่าเหี้.. “ไชยันต์” จี้ถูกจุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ ขาเริ่มสั่นกันแล้ว!? สามกีบเสียงแตก ไม่เอาด้วย “ปลดแอกบุกวัง” ขอบคุณภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
“ปลดแอก” เสี่ยงพาคนไปตาย สามกีบเสียงแตก ไม่เอาด้วย จับตาผู้อยู่เบื้องหลังเปลี่ยนเกมหรือไม่? “ปิยบุตร” โกรธจัด เป็นเหี้..อะไรนักหนา “ไชยันต์” จี้ถูกจุด “บุกวัง” 7 สิงหา ต่อด้วย 10 สิงหา ช่วง “ปิยบุตร” ไม่อยู่เมืองไทย

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (6 ส.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น ขาเริ่มสั่นกันแล้ว!? สามกีบเสียงแตก ไม่เอาด้วย “ปลดแอกบุกวัง” เริ่มตั้งข้อสงสัย ผู้อยู่เบื้องหลัง ต้องการล่อประชาชนไปตาย!?

ภาพ สิ่งที่ม็อบปลดแอกปลุกเร้ามวลชนให้เข้าร่วมในวันที่ 7 สิงหาคม ขอบคุณภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
โดยระบุว่า เรียกได้ว่ายังปลุกปั่นอย่างหนักหน่วงรุนแรง สำหรับ เพจเยาวชนปลดแอก เพื่อยั่วยุให้เกิดการชุมนุมในเขตพระราชฐาน โดยโพสต์ล่าสุดของเยาวชนปลดแอก นอกจากโยงไปที่ “วันเสียงปืนแตก” แล้ว ยังได้ทิ้งท้ายข้อความว่า NO GODS NO KINGS ONLY HUMANS ซึ่งก็แปลได้ตรงตัวคือ “ไม่มีพระเจ้า ไม่มีกษัตริย์ มีแค่มนุษย์” ชัดเจนว่า ปลดแอก มีแนวคิดไม่ได้การสถาบันฯ

แต่ก็มีหลายกระแสข่าวหลุดออกมาว่า การปลุกปั่นในครั้งนี้ของเยาวชนปลดแอก เป็น “แกงหม้อใหญ่” หรือ จริงๆ แล้วแค่ต้องการหลอกเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่อาจจะเปลี่ยนแผนจุดชุมนุม ก่อนเวลาชุมนุม ก็อาจเป็นได้

ทั้งนี้ เนื่องจากช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา อาจมีการหยั่งเสียงผู้สนับสนุนการชุมนุมแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ออกมาไม่เห็นด้วยกับการบุกเขตพระราชวัง เพราะมีความเสี่ยงสูง อาจมีการปะทะอย่างรุนแรง และคนที่ต้องรับผิดคือคนที่เข้าร่วมชุมนุม ส่วนแกนนำคาดว่าไม่มีใครมาอย่างแน่นอน เนื่องจากได้ประกาศชัดว่าจะไม่มีการปราศรัยใดๆ

อย่างไรก็ตาม หลังเยาวชนปลดแอก ได้โพสต์เชิญชวนการชุมนุม 7 สิงหา ก็มีแนวร่วมจำนวนมาก ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ให้เปลี่ยนแผนใหม่ ให้ใช้สติมากกว่านี้ บางคนก็มองว่า การนำผู้ชุมนุมบุกเขตพระราชวัง เพื่อหวังให้ได้ภาพประชาชนปะทะเจ้าหน้าที่ หรือร้ายแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตก็เป็นได้ ดังต่อไปนี้

ภาพ เหตุการณ์ความรุุนแรง ที่เป็นบทเรียนได้ดี ขอบคุณภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
“ไม่สนับสนุนม็อบครั้งนี้ค่ะ การไปเขตนั้นสามารถใช้กระสุนจริงได้ แอดจะล่อให้คนไปตายหรอคะ?? ในทวีตก็เตือนกันเยอะมาก สเปซก็เตือน !!!!!!ยกเลิกม็อบวันที่ 7เถอะค่ะ!!!!!!”

“ผมว่าอย่าไปดีกว่าเขตพระราชวัง มันอันตรายกับมวลชนพี่น้องเราจะเจ็บกัน แล้วก้อโดนจับ ต้องวางแผนให้รอบคอบก่อนออกศึก เพราะรอบนี้พวก ค.ฝ.มันเอาจริง ถ้าเราไปมือเปล่ามันสู้พวกตำรวจไม่ได้ครับ”

“มันได้ไม่คุ้มเสียนะครับ สำหรับใครที่คิดจะไป เขตวังใช้กระสุนได้จริง ระเบิดได้จริง ทางออกมีหลายทางครับ อยากให้ทุกคนมีสติกว่านี้ครับ เกิดการสูญเสียขึ้นมา ใครรับผิดชอบครับ เป็นห่วงตัวเองด้วยนะครับทุกคน ||| #ได้ไม่คุ้มเสีย”

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของผู้ร่วมชุมนุม ขอให้แกนนำกลับไปพิจารณาใหม่ด้วยนะคะ มันเสี่ยงกับผู้ชุมนุมมากเกินไป และไม่มีแผนรองรับอะไรเลย ขอให้ระมัดระวังกันด้วยค่ะ”

ภาพ นายปิยบุตร แสงกนกกุล จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน วันนี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ซึ่งตอนนี้อยู่กับภรรยาที่ฝรั่งเศส โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ สุดยอดแห่งการเชื่อมโยง คิดเป็นตุเป็นตะ ของไชยันต์ ไชยพร โดยระบุว่า

“ผมมีภรรยาเป็นคนฝรั่งเศส คบกันมาเกือบ 10 ปี แต่งงานครบรอบ 5 ปี วันนี้พอดี

ภรรยาผมเดินทางรับทุนหลังปริญญาเอกไปหลายแห่ง ตั้งแต่เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ และพึ่งได้รับตำแหน่งอาจารย์ที่ปารีส จึงเดินทางกลับไปตั้งถิ่นฐานถาวรที่บ้านเกิด

ช่วงหลังๆ ผมเอง แทบไม่ได้เจอภรรยา ปีหนึ่ง 2 ครั้ง เต็มที่ 3 ครั้ง ยิ่งพอเกิดวิกฤต Covid-19 ขึ้นมา ยิ่งเดินทางลำบาก จนฝรั่งเศสพึ่งปลดล็อก ให้คนต่างชาติเข้าประเทศได้ ใครยังไม่ฉีดวัคซีน ก็เข้ามาได้ หากมีเหตุผลทางครอบครัว ผมจึงมีโอกาสเดินทางมาช่วงนี้

ในช่วงปกติ ผมก็มาฝรั่งเศสเป็นประจำ ปีละ 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม

ส่วนเรื่องเขียนงานเกี่ยวกับปฏิวัติฝรั่งเศส เรื่องปฏิวัติที่ต่างๆ ทั่วโลก เรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องประเทศฝรั่งเศส ผมก็เขียนประจำ โพสต์ลงเพจส่วนตัวบ่อยมาก เมื่อก่อน ก็มีคอลัมน์ในมติชนสุดสัปดาห์ด้วย พอมาเป็นนักการเมือง ก็ยังเขียนเล่าลงเพจสาธารณะอยู่

ก็เลยไม่ทราบว่า คนแบบอาจารย์ไชยันต์และพวก จะอะไรกันนักกันหนากับผม

ถ้าจะพูดภาษาบ้านๆ ที่ทนความรำคาญไม่ไหว คงพูดว่า…
“พวกมึงเป็นเหี้ยอะไรกับกูนักหนา แค่กูเดินทางมาฝรั่งเศส มาเจอเมีย แค่เนี้ย”

อย่าอ่อนไหวกันนักเลยครับ

โตเป็นผู้ใหญ่ ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่บ้าง ให้เยาวชนคนรุ่นหลังเขาเคารพกันบ้าง

ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างอาจารย์ไชยันต์ กับนักวิชาการอีกฝ่าย ผมเอง ยังคิดเสมอว่า ผมน่าจะเป็นคนที่สนทนาแลกเปลี่ยนกับอาจารย์ได้ สัมภาษณ์สื่อที่มักคุ้นกับอาจารย์เมื่อหลายเดือนก่อน ผมยังถามไถ่ถึง และยังบอกว่า พร้อมจัดวงพูดคุยกันกับแกเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

ไม่นึกว่า อาจารย์ไชยันต์จะ “ไปไกล” ขนาดนี้ ผูกโยงเรื่อง เป็นตุเป็นตะ

อ่านแล้ว คิดว่า ดาวสยาม ยานเกราะ กลับมาเกิดใหม่

ไม่รู้ว่ามีวัตถุประสงค์อะไร คุณธรรมน้ำมิตรในหมู่นักวิชาการ ไม่ต้องมีกันอีกแล้วหรือ ถึงขั้นต้องกุเรื่องทำลายผม ปลุกระดมความเกลียดชังต่อผม

บ้ากันขนาดนี้ คงเคารพนับถือกันต่อไปไม่ไหว

ถ้าหากอ่านข้อเสนอผม แล้วคิดดีๆ เสียบ้าง สมองแบบไชยันต์และพวก ก็จะรู้ว่า การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ คือ ทางออกจริงๆ

แต่กลับไม่พิจารณา ไม่สนทนา สาดน้ำมันเข้าใส่ ให้ไฟมันแรงกว่าเดิม

ก็ทำกันแบบนี้แหละ ถึงหาทางลงกันไม่ได้เสียที

ถ้าผมใช้แท็กติกแบบไชยันต์และพวกบ้าง ก็คงต้องบอกว่า หากสถานการณ์ในประเทศไทยลื่นไถลไปไกลจนไม่มีใครคาดคิด ไม่มีใครควบคุมได้ ก็เพราะคนแบบไชยันต์นั่นเอง

นายปิยบุตร ยังโพสต์ในทวิตเตอร์ด้วยว่า มารำลึกครบรอบ 5 ปีวันแต่งงาน ที่ Étretat เมืองที่เป็นฉากหลายตอนในนิยาย Aiguille creuse หรือ Arsène Lupin ว่าแต่ว่า… ไชยันต์ ไชยพร จะไปอ่านนิยายเรื่องนี้แล้วมาโยงเรื่อง Lupin เข้ากับผมอีกหรือเปล่านะ???

เดี๋ยวพรุ่งนี้ ไทยโพสต์และชาวคณะ ก็คงพาดหัวว่า “ปิยบุตรคิดถึงเมีย ไม่มานำม็อบ” อีกมั้ง ตกลงพวกเมิงงงต้องการอะไรจากกรู อยู่ไทย ก็ไล่ให้ออกนอกประเทศไปอยู่กับเมีย มาเจอเมีย ก็บอกให้กลับมานำม็อบ

ภาพ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร จากแฟ้ม
สำหรับจุดที่ “ปิยบุตร” ถูกจี้จนต้องออกมาดิ้นพล่านผิดสังเกต จากที่เป็นคนค่อนข้างสุขุมลุ่มลึก ไม่ด่าใครง่ายๆ หรือแม้แต่ฟ้องร้องเป็นคดี ก็คือ
วานนี้ (5 ส.ค. 64) ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร แห่งภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Chaiyan Chaiyaporn กล่าวถึงการนัดชุมนุมของเพจเยาวชนปลดแอกในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ และเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมปลุกระดมม็อบวันที่ 10 สิงหาคมนี้ว่า ทำไมต้อง 7 สิงหา? และ 10 สิงหา ?

“วันที่ 7 สิงหา 2508 เป็นวันที่กองกำลังของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ปะทะด้วยกำลังอาวุธปืนเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นครั้งแรกที่บ้านนาบัว อ.เรณูนคร จังหวัดนครพนม เป็นข่าวใหญ่ของประเทศในเวลานั้น

ดังนั้น การที่ในวันที่ 1 สิงหาที่ผ่านมา เพนกวิน ได้ปราศัยว่า “..เรามาทวงชื่อถนน วิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นของ “เจ้า” ไม่ให้เป็นของเจ้าอีกต่อไป .. มันเป็นถนนของประชาชน ของราษฎร” จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแบบปากพาไป ในขณะที่กำลังปลุกระดมอยู่บนถนนวิภาวดี เพราะในปี พ.ศ. 2520 พระองค์เจ้าวิภาวดี ทรงถูกยิง ขณะเสด็จไปรับตำรวจตระเวนชายแดนที่บาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิด ที่ตำบลบ้านส้อง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ผู้ก่อการร้ายได้ระดมยิงมาที่เฮลิคอปเตอร์ที่ประทับ การที่ เพนกวิน กล่าวเช่นนั้น เท่ากับให้ความชอบธรรมกับผู้ก่อการร้าย และ นัดชุมนุม “บุกวัง” ในวันเสาร์ที่ 7 สิงหา 2564

ทำไมต้อง “บุกวัง” และมีนัด “10 สิงหา 2564” เพราะ ย้อนกลับไปฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1792 “การก่อการปฏิวัติโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ หรืออีกนัยหนึ่งคือฉีกรัฐธรรมนูญ ค.ศ. 1791 เกิดขึ้นในวันที่ 10 สิงหาคม กลุ่มปฏิวัติได้จัดตั้งรัฐบาลคณะปฏิวัติแห่งปารีสขึ้น และยื่นกำหนดเส้นตายให้สภานิติบัญญัติประกาศยุติสถานะความเป็นกษัตริย์ของพระเจ้าหลุยส์ฯเป็นการชั่วคราว

แต่เมื่อสภาไม่ปฏิบัติตาม กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ใช้กำลังเข้าจู่โจมพระราชวัง และได้เกิดการจลาจลขึ้น พระเจ้าหลุยส์ฯและพระราชินีทรงเสด็จไปยังสภาเพื่อความปลอดภัย สภาไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องทำตามความต้องการของคณะปฏิวัติ ออกประกาศยุติสถานะของพระเจ้าหลุยส์ฯ และต่อมา สภาได้ตกอยู่ในสภาพที่หมดอำนาจใดๆ และรัฐบาลคณะปฏิวัติได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งสภาแห่งชาติ (National Convention) ที่จะทำการพิพากษาพระเจ้าหลุยส์ฯ และทำการร่างรัฐธรรมนูญที่ให้ฝรั่งเศสปกครองในระบอบสาธารณรัฐ

และวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ. 1792 ถือเป็นการปฏิวัติของฝรั่งเศสครั้งที่สองต่อจากการปฏิวัติ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 1789 และเป็นการสิ้นสุดสถาบันพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสครั้งที่หนึ่ง” (ดูบทความในคอมเมนท์) ก่อนหน้านี้ ในวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

รศ.ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล ได้บรรยายพิเศษ #ตลาดวิชาอนาคตใหม่ ของ Common School ในหัวข้อ “บทบาทของสมาชิกสภาแห่งชาติในการกรุยทางปฏิวัติ 1789" พูดถึงความสำคัญของสมาชิกสภาในการเป็นจุดชี้ขาดของการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่หรือปฏิวัติ และกล่าวถึงการที่ประชาชนบุกพระราชวังตุยเลอรี อันนำมาซึ่ง การปฏิวัติฝรั่งเศสครั้งที่ 2 และการสิ้นสุดของสถาบันกษัตริย์ฝรั่งเศสครั้งแรก

โดยอาจารย์ปิยบุตรบรรยายจากฝรั่งเศส เพราะเดินทางไปเยี่ยมครอบครัว ทำไมต้องไปช่วงนี้ และทำไมจึงเกิดการวางแผน “บุกวัง” ช่วงที่เขาไม่อยู่ในประเทศไทย ?...”

แน่นอน, ไม่ว่า ม็อบ 7 สิงหาจะเกิดขึ้นหรือไม่ และถ้าเกิดจะยังคงยึดเป้าหมายเดิมหรือไม่ แต่สิ่งที่คนไทยมีความชัดแจ้งอย่างยิ่งก็คือ แท้จริงแล้วม็อบต้องการ “ปฏิรูปแบบปฏิวัติ” หรือ พูดง่ายๆ ถ้าไม่ยอมแต่โดยดี ก็จะนำไปสู่การปฏิวัตินั่นเอง นั่นหมายถึงเป้าหมายที่แท้จริง ไม่ใช่ไล่พล.อ.ประยุทธ์ เรียกร้องเรื่องวัคซีน หรือแม้แต่แก้รัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งถือเป็นเรื่องเล็กทั้งสิ้น และเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะได้ออกมาชุมนุมเท่านั้น โดยโหนกระแส เพื่อให้มีประเด็นร่วมกับกระแสหลักที่เป็นอยู่

แต่สิ่งที่ต้องการ และพฤติกรรมที่แสดงออก ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ก็คือ ต้องการ “ปฏิรูปแบบปฏิวัติ” ที่ “ปิยบุตร” พูดเอาไว้อย่างชัดเจน แล้วม็อบก็ขานรับอย่างสอดคล้องต้องกัน?

เมื่อเป็นเช่นนี้ ประเด็นจึงอยู่ที่ว่า การสร้างพลังต่อรองของม็อบ 3 นิ้ว นับแต่นี้ จะถูกจับจ้อง และต่อต้านมากขึ้น จากอีกฝ่ายที่มีความจงรักภักดี รวมถึงความรุนแรงที่อาจเกิดการปะทะกันตามมา ซึ่งเท่ากับถูกแบ่งฝ่ายเรียบร้อย

จึงไม่แปลก ที่ “ปิยบุตร” จะเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที เมื่อ อ.ไชยันต์ จี้ถูกจุด และโยงให้เห็นชัดว่า มันเกี่ยวอะไรกับ “ปฏิวัติฝรั่งเศส” ที่ เขาคลั่งนักคลั่งหนา แล้วทำไมม็อบ 3 นิ้ว จะต้องเดินตามการชี้เป้าแทบทุกครั้ง ใครว่าไม่น่าคิด

แก้ตัวทำได้ แต่ถามว่า ใครจะเชื่อ? ดิ้นพล่านขนาดนี้ เป็นอีกเรื่องหนึ่งอย่างแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น