MGR Online - รองฯ ต๊ะ เผย รวบม็อบ 10 ราย ผิดหลายข้อหา คุมตัวสอบ ตชด.ภาค 1 และ บช.ปส.เตรียมฝากขัง ตำรวจเจ็บ 10 กว่านาย ถูกปาสิ่งของ ประทัด และจากการผลักดัน ชี้ เป็นยุทธวิธีระดับสากล รับมือแม่น้ำหลายสาย หลักฐานชัดทำลายทรัพย์สิน ยันภาพปืนจ่อหัวแค่ตักเตือน เพราะใกล้เคอร์ฟิว สถานการณ์เสี่ยงเกิดอันตราย ปัดใช้กระสุนจริง บช.น.ติดสัญลักษณ์ชัดเจน อุบยุทธวิธีการชุมนุม 7 ส.ค. วอนประเทศบอบช้ำอย่าซ้ำเติม
วันนี้ (2 ส.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงกรณีการชุมนุมเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.) ในพื้นที่กรุงเทพฯ จนเกิดการปะทะระหว่างตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุม เป็นเหตุได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ว่า ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ 3 ราย ขณะเดียวกันจับกุมผู้ก่อเหตุในพื้นที่ จ.นนทบุรี ได้อีก 7 ราย เนื่องจากฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.บ.จราจรทางบก จึงนำตัวทั้งหมดไปควบคุมที่ บก.ตชด.ภ.1 จ.ปทุมธานี และ บช.ปส.อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้ต้องหา ภายในวันนี้จะฝากขังผ่านระบบ video conference หากไม่ทันก็จะเลื่อนออกไปวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.)
เหตุการณ์ดังกล่าวมีตำรวจได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ 13 นาย ส่วนใหญ่ถูกขว้างปาสิ่งของ และประทัดจากผู้ชุมนุม รวมถึงการผลักดันผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ ยืนยันว่า การปฏิบัติของตำรวจเป็นไปตามขั้นตอน และยุทธวิธีระดับสากลที่ทั่วโลกยอมรับ เพื่อรับมือการชุมนุมในลักษณะรวมตัวกันหลายกลุ่ม หรือเรียกว่า “แม่น้ำหลายสาย” ประกอบด้วย กลุ่มผู้ชุมนุมทั่วกรุงเทพฯ จ.นนทบุรี และ จ.นครปฐม โดยมุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ชุมนุมที่นัดหมายไว้ ตำรวจมีหลักฐานเป็นภาพและวิดีโอที่ยืนยันว่า ผู้ชุมนุมได้ทำลายทรัพย์สินของราชการ และลุกลามเข้ามาในพื้นที่ของตำรวจก่อน อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ดำเนินคดีออกหมายเรียกเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา
กรณีปรากฏภาพคล้ายตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ใช้อาวุธปืนลูกซองจ่อศีรษะผู้ชุมนุม ที่กำลังขับรถจักรยานยนต์บนถนนวิภาวดีรังสิตนั้น เป็นรูปแบบทางยุทธวิธีที่เรียกว่า cover and contact ตามมาตรฐานสากล ยืนยันว่า เป็นเพียงการตักเตือนผู้ชุมนุมให้กลับเคหสถาน เนื่องจากใกล้เวลาเคอร์ฟิวแล้ว โดยมีขั้นตอนคือระหว่างที่มีตำรวจไปเจรจา ก็ต้องมีตำรวจอีกนายคอยควบคุม เนื่องจากเป็นสถานการณ์ที่ผู้ชุมนุมกระจายตัวออกจากพื้นที่ และตำรวจเห็นว่าผู้ชุมนุมบางคนอาจเป็นภัยคุกคาม หรือเกิดอันตรายต่อตำรวจได้
โดยอาวุธปืนที่ใช้ บช.น.ติดสติกเกอร์เป็นสัญลักษณ์ไว้ เพื่อระบุว่าเป็นกระสุนยาง ในภาพดังกล่าวไม่ได้มีการยิงผู้ชุมนุมแต่อย่างใด และไม่ได้กระทำเกินกว่าเหตุ เพราะสถานการณ์ในขณะนั้นค่อนข้างเสี่ยง เพราะก่อนหน้านี้ผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรง กรณีที่ผู้ชุมนุมอ้างว่ามีการใช้กระสุนจริงนั้น ยืนยันว่า บช.น.ได้กำชับและตรวจสอบไม่ให้ตำรวจที่เข้าไปควบคุมสถานการณ์ นำอาวุธชนิดอื่นเข้าไปใช้งานโดยเด็ดขาด นอกจาก แก๊สน้ำตา ปืนลูกซองกระสุนยาง ปืนยิงตาข่ายควบคุมตัว และโล่กระบอง
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า ส่วนการรับมือการชุมนุมในวันที่ 7 ส.ค.นี้ บช.น.อยู่ระหว่างหารือแนวทางการปฏิบัติ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงในลักษณะดังกล่าวอีก ส่วนรูปแบบและยุทธวิธียังไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งนี้ ขอเตือนผู้ชุมนุมว่า ขณะนี้ประเทศบอบช้ำมากพอแล้วอย่าได้ซ้ำเติมอีกเลย กรณีเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.) ที่ผู้ชุมนุมมีการปิดถนนวิภาวดีรังสิต เส้นดังกล่าวมีโรงพยาบาลหลายแห่ง ทำให้รถพยาบาล และรถของบุคลากรทางการแพทย์ ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้สะดวก ตำรวจต้องใช้เวลาในการเคลียร์พื้นที่ สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม ที่ถูกดำเนินคดีในหลายครั้ง ศาลสามารถเพิ่มโทษได้ในแต่ละครั้ง แต่ละฐานความผิด ต่างกรรมต่างวาระ