MGR Online - บช.น.สรุปเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในการชุมนุม 5 กลุ่ม ผิดแล้วหลายข้อหา น.1 กำชับรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีทุกราย ตำรวจเจ็บ 4 นาย โดนทั้งลูกหิน ระเบิด
วันนี้ (1 ส.ค.) เวลา 20.50 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจํานงค์ รอง ผบช.ภ.2 ในฐานะโฆษก ตร.กล่าวถึงกรณีมีการประกาศชุมนุมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ว่า ประกอบด้วย 1. กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม 2. กลุ่ม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 3. กลุ่มคาร์ม็อบ นำโดย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด 4. กลุ่มคาร์ม็อบแท็กซี่ไม่ทน นำโดย นายวรพล แกมขุนทด 5. กลุ่มคาร์ม็อบเครือข่ายนนทบุรี นำโดย นายเจษฎา ศรีปลั่ง
ยืนยันว่าการชุมนุมในวันนี้เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ นอกจากนี้ ยังเป็นการปิดกั้นกีดขวางการจราจร ก่อความเดือดร้อนรำคาญ และเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค แม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนจะใช้ยานพาหนะ แต่ยังมีบางส่วนที่รวมตัวชุมนุม ตำรวจมีการประกาศแจ้งเตือน ประชาสัมพันธ์ ถึงการละเมิดกฎหมายของกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งก่อนและระหว่างการชุมนุมอยู่ตลอดเวลา
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า โดยทั้ง 5 กลุ่ม ได้มีการประกาศเชิญชวนนัดหมายชุมนุมตั้งแต่ เวลา 10.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แยกราชประสงค์ หน้าสนามบินดอนเมือง ปั๊ม ปตท.ถนนเลียบด่วนรามอินทรา สถานีรถไฟฟ้าพระนั่งเกล้า จากนั้นได้เคลื่อนขบวนมาที่ถนนวิภาวดีรังสิต กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ภายในเป็นที่ตั้งบ้านพักนายกรัฐมนตรี กระทั่งเวลา 16.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการปิดการจราจร ถนนวิภาวดีฯ ขาออก ทำให้การจราจรติดขัดเป็นจำนวนมาก ประชาชนได้รับความเดือดร้อน
นอกจากนี้ มีการใช้เครื่องกระจายเสียง และบีบแตรก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ รวมทั้งมีการปิดการจราจรมาถึงหน้า รพ.ทหารผ่านศึก ตำรวจได้มีการประกาศเตือน ประชาสัมพันธ์ ให้หยุดการกระทำที่ผิดกฎหมายดังกล่าว โดยให้เลิกและยุติกิจกรรม แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่หยุดการกระทำ ยังมีการใช้ลูกแก้ว ลูกหิน ประทัด ระเบิดเพลิง และระเบิดควันยิงใส่ตำรวจ ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณดังกล่าว เป็นเหตุให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย จึงนำตัวส่ง รพ.ตำรวจ เพื่อทำการตรวจรักษา
ตำรวจมีความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการผลักดัน กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่เพื่อเปิดการจราจร ต่อมา เวลา 20.00 น. ตำรวจทำการเปิดการจราจร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ทั้งนี้ ผบช.น.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อัศวยุทธ นุชพุ่ม ผบก.น.2 เป็นผู้ควบคุมเหตุการณ์และสั่งการในวันนี้ และได้สั่งการ สน.ที่เกี่ยวข้อง ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิด โดยให้ดำเนินคดีตามความผิดที่เกิดขึ้นทุกราย
เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวมีส่วนกระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.บ.จราจรทางบก, พ.ร.บ.การใช้เครื่องขยายเสียงฯ รวมถึงประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และมาตรา 216 กรณีสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และเจ้าหน้าที่สั่งให้ยุติแต่ไม่ดำเนินการตามคำสั่ง อยู่ระหว่างสอบสวนดำเนินคดี กับกลุ่มผู้กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า ขณะนี้สามารถควบคุมตัวผู้กระทำผิด นำตัวส่งพนักงานสอบสวนแล้ว จำนวน 3 ราย รายละเอียดต้องรวบรวมพยานหลักฐาน และพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ส่วนผู้กระทำผิดที่เหลือจะเรียกตัวมาดำเนินคดีต่อไป สำหรับการกระทำความผิดของบุคคลบางกลุ่มในขณะนี้ เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดเจน ตำรวจมีความจำเป็นจะต้องดำเนินการจับกุมตามกฎหมาย
“ยืนยันว่า การกระทำเช่นนั้นเป็นการละเมิดกฎหมายอย่างชัดเจน และใกล้เวลาห้ามเดินทางออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ฉะนั้น กลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ ตำรวจจะมีการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนความวุ่นวายที่สามเหลี่ยมดินแดงตอนนี้กำลังเราพร้อม” น.2 กล่าว
