xs
xsm
sm
md
lg

ฝืน กม.-เสี่ยงโควิด! “สามกีบ” สุดท้าทาย “7 สิงหา” ไป พระบรมมหาราชวัง “อานนท์” จอด “อีแอบ” เอาตัวรอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ “ไมค์ ภาณุพงศ์” ปลุกม็อบ 7 สิงหา คือบุคคลในประวัติศาสตร์ ขอบคุณภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
“ปฏิรูปแบบปฏิวัติ” ได้ฤกษ์ “7 สิงหา” ตามคำชี้นำของ “ปิยบุตร” ประกาศเคลื่อนทัพไปพระบรมมหาราชวัง “ไมค์” ปลุกร่วมเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ รอบนี้ต้องจบ “อานนท์” ส่อจอด อัยการยื่นถอนประกันเอง “อีแอบ” หนีหายเอาตัวรอด

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (5 ส.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น คุกหยุดไม่อยู่!? “ไมค์ ภาณุพงศ์” คุยโว ม็อบ 7 สิงหา มวลชนที่ออกมา คือ บุคคลในประวัติศาสตร์ สามกีบยุต่อ รอบนี้ทุกอย่างต้องจบ

โดยระบุว่า หลังจากที่กลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศจัดม็อบในวันที่ 7 ส.ค.นี้ พร้อมจะเคลื่อนขบวนไปยังพระบรมมหาราชวัง และมีเหล่าแกนนำม็อบราษฎร จะมาร่วมชุมนุมด้วยนั้น พบว่า บรรดาแกนนำต่างโพสต์ปลุกระดม หวังจะดึงมวลชนออกมาร่วมชุมนุมให้ได้มากที่สุด
อย่างล่าสุด ไมค์ ภาณุพงศ์ หนึ่งในแกนนำราษฎร ออกมาเคลื่อนไหวในทวิตเตอร์ โดยทวีตข้อความ ว่า

“พวกคุณอยากเห็นอะไรเปลี่ยนแปลง ก็แค่ออกมาเปลี่ยนมัน คุณอาจไม่ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นในยุคประยุทธ์ แต่คุณได้ใช้ชีวิตนักต่อสู้ คุณคือบุคคลในประวัติศาสตร์ 7 สิงหานี้เจอกัน!”

โดยมีคอมเมนต์จากม็อบ 3 นิ้ว บอกว่า งานนี้สู้โว้ย ออกมาแน่ๆ รวมทั้งยังบอกว่า รอบนี้น่าจะเป็นการจบทุกอย่างได้แล้ว อยากให้ทุกอย่างจบ แล้วพวกเราชนะ หาทางหนีทีไล่ดีๆ สำหรับมวลชนเยอะๆ ไว้ด้วยนะคะ ไม่งั้นไปแบบไม่มีกลยุทธ์เหมือนทุกครั้ง ก็มีแต่จะเจ็บตัวบอบช้ำกลับมา ฝากไว้พิจารณาด้วยนะคะ

ภาพ ประกาศเป้าหมายการชุมนุมของม็อบ 3 นิ้ว ขอบคุณภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ขณะที่คอมเมนต์อื่นๆ บอกว่า เราไม่ได้อยากเป็นนักสู้นะ แค่อยากกลับไปใช้ชีวิตปกติ นอกจากนี้ ยังมีบางคนถาม ไมค์ ภาณุพงศ์ ด้วยว่า ที่ออกไปทุกครั้ง ได้อะไรกลับมาบ้าง บอกหน่อย, ทำไมรอบนี้ต่างปลุกระดมกันยกใหญ่ เรียกหาคนไปเพียบเลย กลัวจะแป้กหรอ และได้มีคอมเมนต์เตือนสติผู้ชุมนุมกันเองด้วยว่า เอาแต่พอดีก็ได้นะ เพราะเกิดเรื่องมาก็เดือดร้อน ขนาดเสื้อแดงที่ตาย เผลอๆ ไม่มีใครจำชื่อได้สักคน

อย่างไรก็ตาม ยังมีการเคลื่อนไหวของทนายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบราษฎร ที่แท็กข้อความหา ไมค์ เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ด้วย ระบุว่า “มันเริ่มสร้างเงื่อนไขความรุนแรงกับเราขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวมันอ้างตำรวจเอาไม่อยู่ เดี๋ยวมันจ้องจะใช้ทหาร กฎอัยการศึก แน่นอน ดูแล้วมันไม่มีประนีประนอมแน่ เราต้องขุดรากถอนโคนแล้วล่ะ”

ขณะเดียวกัน มีข่าวด่วน กรณี “อัยการ” ยื่นถอนประกันอานนท์เอง โดยแจ้งว่า ผิดเงื่อนไข มีหลักฐานมากมาย

เนื้อหาระบุว่า จากที่ นายอานนท์ นำภา ปราศรัยเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม จาบจ้วงสถาบันอย่างรุนแรง พร้อมทั้งยังได้ส่งสัญญาณปลดแอกแล้วนำไปเผาข้างกำแพงวัง จนทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า การกระทำดังกล่าวในหลายๆ ครั้ง ของบรรดาแกนนำเข้าเงื่อนไขสมควรถอนประกันตัวแล้วหรือไม่???

ล่าสุด วันนี้ เฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีการถอนประกันนายอานนท์ว่า

“เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 64 พนักงานอัยการ สํานักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 สํานักงานอัยการสูงสุด ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลอาญาเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว “อานนท์ นำภา” ในคดี #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร โดยอ้างเหตุเนื่องจากเข้าร่วมชุมนุมคาร์ม็อบเมื่อวันที่ 10 และ 18 กรกฎาคม 2564 รวมถึงการโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องการนัดชุมนุมและโพสต์เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์

ภาพ ความรุนแรงจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ของม็อบ 3 นิ้วที่ผ่านมา ขอบคุณภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
อัยการได้แนบเอกสารที่มีเป็นรายงานการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจหัวข้อ “ความเคลื่อนไหวของนายอานนท์ นำภา” โดยมี พ.ต.ท.โชคอำนวย วงษ์บุญฤทธิ์ รองผู้กำกับสอบสวน สน.ชนะสงคราม เป็นผู้ลงนามในชุดรายงาน

เอกสารดังกล่าวมีการรวบรวมภาพสเตตัสเฟซบุ๊กของอานนท์ นำภา ในช่วงเวลาต่างๆ ตลอดเดือนกรกฎาคม 64 โดยเป็นสเตตัสที่โพสต์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนไปร่วมชุมนุมคาร์ม็อบในวันและเวลาต่างๆ และการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล รวมไปถึง สเตตัสเฟซบุ๊กซึ่งวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ อาทิ เรื่องการนำเข้าวัคซีน การเขียนถึงข้อเสนอต่อการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ รวมจำนวนทั้งหมด 47 ข้อความ

อัยการสรุปว่า พฤติการณ์ดังกล่าวของอานนท์ เป็นการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลที่พิจารณาให้ปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งห้ามจำเลยเข้าร่วมกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และเป็นการกระทำซึ่งกระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางเสื่อมเสีย จึงขอให้ศาลเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวจำเลย เนื่องจากผิดเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราว ทั้งนี้ ศาลอาญา รัชดา ได้นัดไต่สวนคำร้องขอให้เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวในวันที่ 7 ก.ย. 64 เวลา 09.00 น.”

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 64 ศาลอาญาได้อ่านคำสั่งขอปล่อยชั่วคราว นายอานนท์ นำภา จำเลยที่ 2 และ นายภาณุพงศ์ หรือ ไมค์ จาดนอก จำเลยที่ 6 ในคดีหมายเลขดำที่ อ.287/2564 ที่พนักงานอัยการฟ้องยื่นฟ้อง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฏรกับพวก รวม 22 คน ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง เเละยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, 116 เเละข้อหาอื่นๆ จากการชุมนุม 19 กันยา ทวงคืนอำนาจ ที่ ม.ธรรมศาสตร์ และปักหมุดคณะราษฎรที่สนามหลวง

ภาพ นายอานนท์ นำภา ปราศรัยเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม จาบจ้วงสถาบันอย่างรุนแรง  ขอบคุณภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ต่อมาศาลอาญา มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวนายอานนท์ และ นายภาณุพงศ์ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีมีประเด็นให้พิจารณาว่า จำเลยทั้งสองคนมีการมาพบพนักงานอัยการตามที่ถูกนัดหมายทุกครั้ง ไม่แสดงพฤติกรรมว่าจะหลบหนี หลักฐานพยานในคดีถูกรวบรวมเรียบร้อยแล้ว และจำเลยทั้งสองคนสมัครใจที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลประกอบด้วยจะไม่ทำกิจกรรมใดที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ไม่กระทำการใดๆ ให้สถาบันพระมหากษัตริย์เกิดความเสื่อมเสีย และไม่เดินทางออกนอกประเทศ พร้อมที่จะเดินทางมาศาลตามที่มีการนัดหมายทุกครั้ง

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวจะไม่กระทบต่อรูปคดี และไม่มีเหตุผลให้ไม่ปล่อย จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาโดยกำหนดเงื่อนไขให้ผู้ต้องหาไม่ไปกระทำกิจกรรมที่กระทำความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ร่วมการชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรให้มาศาลตามนัด

ทั้งนี้ นายธนินท์ ศิริวรรณ นักวิชาการอิสระ จะเป็นผู้กำกับดูแลนายภานุพงศ์ ส่วน นายสมชาย หอมลออ ทนายความที่นายอานนท์ ให้ความเคารพ จะเป็นผู้กำกับดูแลนายอานนท์ ให้จำเลยแต่ละคนปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาล ทั้งสองคนใช้หลักทรัพย์ในการประกันตัวคนละ 200,000 บาท

ภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ขอบคุณภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน THE TRUTH ได้ตั้งข้อสังเกตถึง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กรณีจะมีความเคลื่อนไหวที่ท้าทายดังกล่าว

โดยระบุว่า จากกรณีกลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศนัดหมายชุมนุมในวันที่ 7 สิงหานี้ เวลา 14:00 น. โดยจะเริ่มจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เคลื่อนพลไปพระบรมมหาราชวัง ซึ่งสอดรับกับที่ “ปิยบุตร” ได้ออกมาพูดเมื่อไม่นานมานี้ถึงประเด็นของการยกระดับในการปฏิรูปสถาบัน โดยบอกว่า ปฏิรูปแบบปฏิวัติ ไต่เพดานให้มากที่สุด เท่าที่เป็นไปได้ภายใต้ระบอบที่เป็นอยู่ พร้อมกับยืนยัน ยกระดับให้ข้อเสนอนี้เป็นข้อเสนอขั้นต่ำที่เราจะไม่ถอยไปมากกว่านี้ หากข้อเสนอนี้ไม่ได้รับการสนองตอบ สถานการณ์จะสุกงอมจนลื่นไถลให้ปฏิรูปกลายเป็นปฏิวัติ นี่คือ ปฏิรูปแบบปฏิวัติ...

สำหรับ “ปิยบุตร” ตอนนี้อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสกับครอบครัว และอ้างว่า จะกลับประเทศแน่นอน? แต่หลายคนเชื่อว่า หนีเอาตัวรอดระหว่างการชุมนุมส่อว่าจะรุนแรงแล้ว

ขณะที่ “ธนาธร” ก่อนหน้านี้ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรการวิเคราะห์ธุรกิจและวิทยาการข้อมูลคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เคยโพสต์เฟซบุ๊กเอาไว้ว่า

“ไอ้ตี๋จะไปไหน จะไปทำอะไร ไปดูไบ ไปเจนีวา ด้วย
ขาไป EK385 18/08/2021
BKK – DUBAI-JENEVA
ออกจาก BKK เวลา 23.45
ขากลับ EK378 21/9/2021
DUBAI-PHUKET เวลา 12.30
ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านหรือไม่?”

ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุใด “ธนาธร” มีเที่ยวบินเจาะจง “ดูไบ” ซึ่งก็รู้กันดีว่า ทักษิณ ได้หนีคดี และ มีบ้านอาศัยอยู่ที่นั่น จึงสงสัยว่า ธนาธร กำลังจะไปพบใครเป็นพิเศษหรือไม่?

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวเดอะทรูธ ได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ยิ่งเข้าใกล้วันแตกหัก 7 ส.ค. 64 สัญญาณก็เริ่มชัดมากขึ้น
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 64 ที่ผ่านมา อานนท์ ได้นำม็อบ ปราศรัยที่บริเวณหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ แม้ว่าคนจะมีไม่มาก แต่คำปราศรัยสุดหยาบเกินจะรับไหว แถมยังทิ้งท้ายส่งสัญญาณชัด

“ให้ทุกคนปลดแอกแล้วเอาไปเผาทิ้งที่กำแพงวัง” ตอกย้ำว่าจะเกิดความรุนแรงหรือไม่

อีกสัญญาณคือตัว “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หลังจากมีข่าวหลุดจากฝ่ายความมั่นคงว่า เตรียมบินตรงไปดูไบ ในวันที่ 18 ส.ค. 64 โดยใช้สายการบิน EK385 ซึ่งเป็นสายการบินประจำชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

โดยสายการบินนี้ เป็นเที่ยวบินที่มุ่งหน้าไป “ดูไบ” โดยออกจากกรุงเทพฯในเวลา 23.45 น. และบินกลับ ในวันที่ 21 ก.ย. 64 โดยใช้สายการบิน EK378 โดยตีตั๋วจาก “ดูไบ” มา “ภูเก็ต” แต่สุดท้ายก็ต้องยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าว หลังจากแผนการเดินทางหลุดออกมา ยิ่งตอกย้ำความชัดเจนว่า เรื่องดังกล่าวเป็นความจริง เพราะ ธนาธร ไม่ขยับออกมาแก้ข่าว หรือแก้ต่างแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ธนาธร กำลังเตรียมการเดินทางไปดูไบอีกครั้ง ซึ่งกำลังหาช่อง และโอกาส จะขยับอะไรผลีผลามไม่ได้ เพราะรู้ตัวว่าถูกจับจ้องจากฝ่ายความมั่นคง แต่ความเงียบผิดปกติ ของ ธนาธร ก่อนที่จะถึงการชุมนุม 7 ส.ค. 64 ก็คือสัญญาณที่สำคัญ เพราะทุกครั้งก่อนจะมีการชุมนุม มักจะเคลื่อนไหวควบคู่ไปกับ ปิยบุตร อยู่ตลอดเวลา...

แน่นอน, ที่น่าคิดประการแรกก็คือ สามกีบจะกล้าม็อบตามที่ประกาศไว้หรือไม่ เพราะดูเหมือนการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ตรงไปตรงมาว่า จะไป “พระบรมมหาราชวัง” แค่นี้ก็แทบไม่ต้องขยายความอีกแล้ว ว่า เป้าหมายคืออะไร

ที่เจ็บปวดก็คือ คนที่ปลุก “ปฏิรูปแบบปฏิวัติ” หนีเอาตัวรอดไปอยู่ต่างประเทศแล้ว คนที่เข้าร่วมม็อบครั้งนี้จะต้องรับผิดชอบตัวเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

กระนั้นยังไม่สำคัญเท่ากับ “ความรุนแรง” ที่อาจเกิดขึ้น เพราะฟังสัญญาณจากแกนนำ และจับสังเกตจากพวก “อีแอบ” ที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ดูแปลกๆ เหมือนรอให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็มีแผนอะไรที่จะตามมาหรือไม่

อีกทั้งเงื่อนไขที่แกนนำอาจถูกถอนประกันทั้งหมด อาจกลายเป็นเชื้อปะทุให้ม็อบประท้วงลุกลามบานปลายด้วยวิธีการใช้ความรุนแรงเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่ หลังจากปะทะกันมาหลายรอบ จนอาจเก็บใจแค้น สรรหาอาวุธมาตอบโต้ก็เป็นได้ รวมทั้งแกนนำยังส่งสัญญาณไม่สนใจสันติวิธีแล้วด้วย

เหนืออื่นใด เป้าหมายครั้งนี้ เป็นเป้าหมายต้องห้าม เป็นเป้าหมายที่เจ้าหน้าที่จะยอมไม่ได้ เป็นเป้าหมายที่ถ้าม็อบจะไปให้ถึงเป้าหมายให้ได้ หลีกไม่พ้นที่จะต้องปะทะกันแน่นอน อยู่ที่ว่า จบสวยหรือไม่สวยเท่านั้น ไม่เชื่อคอยดู!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น