วันนี้ (18 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่ประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีมติเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ว่า ขอแสดงความยินดี กับคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค และมีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งตนขอแสดงความรู้สึกว่า การทำงานพรรคการเมือง หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคต้องเข้าขากันและไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อที่จะนำพาพรรคไปได้ด้วยดิ ซึ่งตนเชื่อว่าการที่หัวหน้าพรรคและเลขาฯสนิทสนมกันมากๆ ก็จะทำให้งานบ้างส่วนที่อยากจะทำเดินไปได้ด้วยดี ก็ไม่มีอะไรมากมาย ซึ่งตนก็จะให้ความร่วมมือและทำงานตามแนวทางของพรรค
เมื่อถามว่าคิดว่าร.อ.ธรรมนัสจะทำงานขับเคลื่อนการเลือกตั้งได้ดีกว่านายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตเลขาฯ หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็เป็นความหวังของพรรคที่จะต้องได้รับความนิยมจากพี่น้องประชาชน จะไปพูดถึงอนาคตอันไกลคงไม่ได้ ซึ่งในส่วนงานของพรรคที่รับผิดชอบอยู่ในแต่ละกระทรวง ก็ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะเราเหลือเวลาอีก 1 ปี กับอีก 9 เดือน ที่จะหมดเวลาของรัฐบาล
เมื่อถามว่าหน้าฉากมีภาพของความยินดีแต่เบื้องหลังภายในพรรคเองก็มีกลุ่มก้อนกันอยู่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่อยู่เบื้องหลังตนไม่ทราบ แต่สำหรับตนนั้นทำงานเต็มที่ไม่มีวันหยุด ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายในกระทรวง ทั้งเรื่องเรือนจำความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายที่จะออกมาใหม่ๆ และเรื่องการปราบปรามยาเสพติด
เมื่อถามว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงยังไม่ปรับครม.เร็วๆนี้ หากดูจากสถานการณ์ ทั้งนี้รัฐมนตรีเองก็มีหน้าที่ทำงานให้เต็มที่ ถามถึงกระแสข่าวว่าจะมีการยุบโคต้ากระทรวงในส่วนของโคต้าสามมิตร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ไม่เป็นไรเป็นเรื่องของอนาคต ก็ว่ากันไป
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ต้องเสียดุลอำนาจในพรรคพปชร. นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ยังไม่ได้เสียดุลอำนาจอะไรไปเราก็มีปากมีเสียงมีแนวทางในการวิพากษ์วิจารณ์เพราะหัวหน้าพรรคฟังทุกคนและรักอยู่แล้ว ซึ่งหัวหน้าพรรคตัดสินใจปรับเปลี่ยนแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค เพราะเราให้ความไว้วางใจกับหัวหน้าพรรค หัวหน้าพรรคก็ต้องขับเคลื่อนไปด้วยความตั้งใจ ซึ่งเรายอมรับและยินดีที่จะทำให้หัวหน้าพรรคประสบความสำเร็จ