“สมศักดิ์” ไม่น้อยใจ พปชร.เปลี่ยนเลขาฯ พรรค เพราะอยู่ไปก็ไม่ได้มีหน้าที่อะไร ย้ำ “บิ๊กป้อม”ตัดสินใจอย่างไรก็ตามนั้น
วันนี้ (18 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าร่วมประชุมใหญ่พรรค ถึงกระแสข่าวเปลี่ยนเลขาธิการและกรรมการบริหารพรรค นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ไม่มีอะไร ได้มีการพูดคุยกันแล้ว ว่าหัวหน้าพรรคตัดสินใจอย่างไร ก็เป็นไปตามนั้น พรรคต้องมีเอกภาพ เรื่องที่เราต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องของประชาชน โควิด-19 ที่จะต้องร่วมกันแก้ปัญหา สำหรับตนและพี่น้องที่ทำงานร่วมกันมาก็ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามถึงความชัดเจนในการเปลี่ยนเลขาธิการพรรค นายสมศักดิ์ ยังไม่ทราบว่าจะเปลี่ยน หรือเปลี่ยนอย่างไร หัวหน้าพรรคให้มาว่ากันในที่ประชุม โดยไม่ต้องลาออกหรือทำอะไร โดยขอให้พวกเรารักกัน ซึ่งยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามต่อว่า ถ้าจะเปลี่ยนแปลงเลขาธิการพรรค กลุ่มสามมิตรจะน้อยใจหรือไม่ เป็นเลขาธิการก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะน้อยใจอะไร เพียงแต่อยากให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ด้วยดี และพรรคการเมืองที่เป็นส่วนหนึ่งของผู้บริหารสมควรทำให้เกิดความเรียบร้อย ไม่รุ่มร่าม เพราะมีเรื่องใหญ่รอให้แก้ปัญหาอยู่ ส่วนการปรับเปลี่ยนจะทำให้พรรคดีขึ้นหรือไม่ นายสมศักดิ์ ระบุว่า เท่าที่ทราบตอนนี้มีหลายคนเป็นแคนดิเดตเลขาธิการ ซึ่งก็แล้วแต่หัวหน้าและที่ประชุมของพรรค หากตัดสินอะไรก็ต้องเป็นแบบนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง เรามีประสบการณ์กันมามากแล้ว ไม่สมควรจะถือตัวเองเป็นเอกเทศ ถ้าไม่ได้อย่างที่ตัวเองคิด ก็จะพากันทำลายอะไรต่าง ๆ ซึ่งไม่ใช่ลักษณะนี้แน่นอน เราต้องประคองกันไปให้ผ่านพ้น ซึ่งกว่าจะเลือกตั้งใหม่ก็เกือบ 2 ปี
เมื่อถามว่า การปรับโครงสร้างพรรคจะไม่กระทบต่อเก้าอี้รัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปพูดถึงเรื่องผลกระทบกันเลย ที่ผ่านมา เท่าที่อยู่กันมาก็พึงพอใจตามอัตภาพ เพราะตอนนี้สถานการณ์รัฐบาลคือเป็นพรรคร่วม จะไปตีอกชกตัวว่าอยากได้ตรงนั้นแล้วไม่ได้ และต้องมีปัญหาต่าง ๆ เราอย่าไปทำอย่างนั้น ซึ่งสังคมจะไม่ยอมรับ วันนี้ตนไม่ทราบว่าจะกระทบตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ และไม่กล้าตอบ เพราะไม่มีสูตรตายตัวอยู่แล้ว
เมื่อถามต่อว่า บทบาทของกลุ่มสามมิตรภายในพรรคจะลดลงหรือไม่ นายสมศักดิ์ อาจจะลดอย่างหนึ่งและไปเพิ่มอย่างหนึ่ง แต่พวกเราไม่มีคำว่ากลุ่มสามมิตร มีแต่สื่อมวลชนที่ยังให้เกรียติเรียกอยู่ แต่ก็ไม่ต้องให้เกรียติเรา เพราะเราไม่ค่อยอยากจะได้ยิน