“อนุชา” ปัดวุ่นข่าวไขก๊อกเลขาฯ ลั่นร่วมประชุมพรรคที่ขอนแก่น “ธรรมนัส” เผย “ลุงป้อม” ยอมรับมีปรับ กก.บห.พรรครับเลือกตั้ง แบะท่าพร้อมนั่งเลขาฯพรรค ถ้าสมาชิกพรรคไว้วางใจ ไม่ต้องเคลียร์ใจ “เสี่ยแฮงค์”
วานนี้ (17 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสข่าวว่า นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก่อนที่จะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคพลังประชารัฐ ที่จัดขึ้นในวันนี้ (18 มิ.ย.) ที่ จ.ขอนแก่น โดยมีการระบุด้วยว่า นายอนุชาจะแถลงข่าวลาออกที่อาคารรัฐสภา
“อนุชา” ปฏิเสธข่าวไขก๊อก
อย่างไรก็ตามหลังกระแสข่าวแพร่สะพัดไม่นาน นายอนุชา ได้ออกมาปฏิเสธว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และณ ตอนนี้ เวลานี้ ยังไม่ได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ หรือยื่นเอกสารอะไรๆ พร้อมยืนยันว่า จะเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น ด้วย
"กระแสข่าวเรื่องการลาออกนี้มีมาหลายวันแล้ว ถือเป็นเรื่องปกติที่มีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพรรค แต่คงต้องแล้วแต่สมาชิกพรรค กรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรคที่จะตัดสินใจอย่างไรในเรื่องนี้ เพราะไม่มีใครชี้นำได้ ทั้งนี้วาระการประชุมใหญ่ในวันนี้ (18 มิ.ย.) ไม่มีวาระการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกรรรมการบริหารพรรค ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไรมาจากหัวหน้าพรรค แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับที่ประชุมพรรค ส่วนตัวยังเดินหน้าทำงานให้พรรคต่อไป เพื่อให้พรรคพลังประชารัฐเป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็งต่อไป" นายอนุชา ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวการลาออกเป็นการเขย่าหรือกดดันเพื่อบีบให้ลาออกหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่ถึงขนาดนั้น และมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เชื่อว่าหัวหน้าพรรคยังมีบารมีที่จะเดินหน้าพรรคไปได้ด้วยดี และยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งภายในพรรคแต่อย่างใด
“ดาวฤกษ์”ยันยังอยู่ พปชร.
ด้าน น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แกนนำกลุ่มดาวฤกษ์ กล่าวถึงกระแสข่าวย้ายพรรคของ นายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.เขตหนองจอก กทม. พรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นสมาชิกกลุ่มดาวฤกษ์ว่า นายศิริพงษ์ ได้ปฏิเสธไปแล้วว่า ไม่เป็นความจริง และเป็นปัญหาภายในของพรรคประชาธิปัตย์เองที่มีข่าวว่า จะดึงนายศิริพงษ์ไปร่วมงาน
"ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ทุกคน วันนี้ยังเป็น ส.ส.ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ไม่ทราบจริงๆว่า เกิดอะไรขึ้น ถึงมีเหตุการณ์ในลักษณะที่นายสำราญออกมาให้สัมภาษณ์ แต่ขอยืนยัน พวกเราไม่ได้คิดเรื่องย้ายพรรค เพราะเวลานี้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากวิกฤตโควิด-19 ทั้งเรื่องวัคซีนและช่วยชาวบ้าน" น.ส.วทันยาระบุ
ยก “บิ๊กป้อม” แม่ทัพเมืองหลวง
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่กลุ่มดาวฤกษ์ จะไม่อยู่กับพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่คิดเรื่องย้ายหรือไม่ย้ายพรรค แต่ในทางการเมืองก็เป็นเรื่องปกติที่จะได้รับการทาบทาม หรือชักชวน ซึ่งก็ไม่ใช่กลุ่มเราแค่กลุ่มเดียว แล้วถ้าฟังจากที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะอยู่จนครบเทอมนั้น แสดงว่าอนาคตยังอีกยาว จึงยังไม่ใช่เวลามานั่งคิดว่าจะย้ายพรรค หรือไม่ย้ายพรรค ส่วนกระแสที่ถูกหลายพรรคชัดชวนนั้น ก็เป็นเรื่องของคนที่รู้จักกันถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันเท่านั้น
น.ส.วทันยา ยังกล่าวถึงโครงสร้างการบริหารในพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะกลุ่มส.ส.กทม.ว่า หลังจาก นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ลาออก และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ถูกดำเนินคดี ทางพรรคยังไม่ได้แต่งตั้งใครมาดูแลแทนว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรค จึงเป็นแม่ทัพหลัก ที่ดูแลส.ส.กทม.ในตอนนี้ ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ซึ่งมีข่าวว่าได้รับมอบหมายดูแลการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.นั้น น.ส.วทันยา กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ ส.ส.กทม.และ ส.ส.ภาคอื่นๆ ให้ความเคารพ ดังนั้นในการทำงานที่ต้องขอคำชี้แนะ และความช่วยเหลือ บรรดา ส.ส. จึงไปขอความช่วยเหลือ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ
“ธรรมนัส” แบะท่ารับเลขาฯ
ที่ จ.ขอนแก่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ให้แก่ประชาชน ณ ที่ว่าการ อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคพลังประชารัฐว่า วาระสำคัญในการประชุมคือ การปิดงบดุลประจำปี แต่ก็ยังมีวาระอื่นๆ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเดินทางมาด้วยตนเอง คงจะมอบนโยบายตอนเช้าว่า จะให้ทำอะไรบ้าง
ส่วนกระแสข่าวจะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ค่อนข้างจะแน่นอนแล้วว่า จะมีการปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคใหม่ ส่วนที่มีข่าวว่าตนเองจะถูกเสนอให้เป็นเลขาธิการพรรคนั้น อันนี้ไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อมีการเสนอชื่อมาแล้ว สมาชิกพรรคเลือกหรือไม่
“ถ้าพี่น้องสมาชิกพรรคพลังประชารัฐให้ความไว้วางใจ ตนก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
แย้มปรับทัพสู้เลือกตั้ง
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา คอการเมืองอาจมองว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคเฉพาะกิจ ก็อยากจะกราบเรียนว่าตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ตนพยายามจะแสดงให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐ โดยการนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เราไม่ได้เป็นพรรคเฉพาะกิจ เราเตรียมที่จะปรับแผนสู้ศึกการเลือกตั้งในครั้งหน้า
“การประชุมครั้งนี้จะเป็นการกำหนดทิศทาง เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจอีกต่อไป เราจะเป็นสถาบันการเมืองที่มีความมั่นคง” ร.อ.ธรรมนัส ระบุ
เชื่อไม่ขัดแย้ง “อนุชา”
เมื่อถามว่ามีการมองกันว่า การปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้ เพราะเกิดความขัดแย้งภายในสูง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง พล.อ.ประวิตรเข้าสู่เวทีการเมือง มาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐปีกว่าแล้ว มองออกว่าจะต้องทำอะไรให้กับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อกำหนดทิศทางในอนาคต
“คิดว่าหลังจากวันนี้ น่าจะไม่มีกลุ่มก๊วนอะไร เราคือพลังประชารัฐ คือครอบครัวพลังประชารัฐ” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
เมื่อถามว่าหากสมาชิกพรรคเสนอชื่อ ร.อ.ธรรมนัส เป็นเลขาธิการพรรค จะต้องเคลียร์ใจกับ นายอนุชา เลขาธิการพรรคคนปัจจุบันหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ส่วนตัวแล้วผมกับพี่แฮงค์ (นายอนุชา) มีความสนิทสนมกันอยู่แล้ว ผมไม่เคยมีปัญหากับพี่แฮงค์และไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่สื่อออกมาเหมือนกับเรามีปัญหากันจริงๆ ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วไม่มี เราพี่น้องกัน”
“บิ๊กป้อม” ลาออกก่อนล้างไพ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่จ.ขอนแก่น ในวันนี้ (18 มิ.ย.) จะมีส.ส.ของพรรคเกือบทั้งหมด รวมถึงกลุ่มสามมิตร และกลุ่มดาวฤกษ์ เข้าร่วมประชุมด้วย ขณะที่สมาชิกพรรคจะมาจาก จ.นครราชสีมา 120 คน และจากขอนแก่น 250 คน ส่วนการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ใหม่นั้น ในระหว่างการประชุม พล.อ.ประวิตร จะลาออกจากหัวหน้าพรรค จากนั้นที่ประชุมจะเลือกตั้ง กก.บห. พรรคชุดใหม่ โดยที่ประชุมจะกำหนดจำนวนกก.บห. ก่อน จากนั้นจะเสนอชื่อผู้ที่จะเป็นหัวหน้าพรรคเลขาธิการพรรค เหรัญญิก และนายทะเบียน และลงคะแนนตามลำดับ
โดย พล.อ.ประวิตร จะถูกเสนอชื่อกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคตามเดิม ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคจะเสนอชื่อร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ จากเดิมเป็นรองหัวหน้าพรรค แทนนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ดัน “สมศักดิ์” คุมยุทธศาสตร์
ขณะที่ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการพรรค นั้น เป็นอำนาจหัวหน้าพรรคแต่งตั้งในภายหลังได้ แต่ได้กำหนดจำนวนรองหัวหน้าพรรคเหลือเพียง 4 คน จากเดิมที่มี 10 คน โดย 4 คนประกอบด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ซึ่งปัจจุบันเป็น ผอ.พรรค, นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ทั้งนี้ ในส่วนของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่เป็นรองหัวหน้าพรรคอยู่ จะยังเป็น กก.บห. และจะได้รับตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรค ซึ่งเป็นตำแหน่งเดิมของพล.อ.ประวิตร ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค
2 ส.ส.กทม.แทน “ตั้น-บี”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงสร้างพรรคดังกล่าวเป็นที่ตกลงกันได้ของแกนนำพรรคทุกกลุ่มนอกจากนั้น ในส่วนของรายชื่อกก.บห. ส่วนใหญ่สัดส่วนแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะมีนายจักรพันธ์ พรนิมิตร และนายประสิทธิ์ มะหะหมัดส.ส.กทม. เข้ามาแทนที่ในกก.บห. แทนนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ที่ต้องคดีชุมนุมกลุ่มกปปส. จนต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี และส่งผลกระทบกับตำแหน่งภายในพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายเมื่อ 17 มิ.ย. นายสุริยะ และนายสมศักดิ์ ได้เข้าพบพล.อ. ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ โดยพล.อ.ประวิตร ได้กล่าวกับทั้ง 2 คนว่า จำเป็นต้องปรับโครงสร้าง ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคก็ให้ขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรคในการประชุมใหญ่ และอยากให้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดเพื่อให้เห็นความเป็นเอกภาพ.
วานนี้ (17 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสข่าวว่า นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจยื่นใบลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก่อนที่จะมีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคพลังประชารัฐ ที่จัดขึ้นในวันนี้ (18 มิ.ย.) ที่ จ.ขอนแก่น โดยมีการระบุด้วยว่า นายอนุชาจะแถลงข่าวลาออกที่อาคารรัฐสภา
“อนุชา” ปฏิเสธข่าวไขก๊อก
อย่างไรก็ตามหลังกระแสข่าวแพร่สะพัดไม่นาน นายอนุชา ได้ออกมาปฏิเสธว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และณ ตอนนี้ เวลานี้ ยังไม่ได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ หรือยื่นเอกสารอะไรๆ พร้อมยืนยันว่า จะเข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จ.ขอนแก่น ด้วย
"กระแสข่าวเรื่องการลาออกนี้มีมาหลายวันแล้ว ถือเป็นเรื่องปกติที่มีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพรรค แต่คงต้องแล้วแต่สมาชิกพรรค กรรมการบริหารพรรค และหัวหน้าพรรคที่จะตัดสินใจอย่างไรในเรื่องนี้ เพราะไม่มีใครชี้นำได้ ทั้งนี้วาระการประชุมใหญ่ในวันนี้ (18 มิ.ย.) ไม่มีวาระการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกรรรมการบริหารพรรค ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไรมาจากหัวหน้าพรรค แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับที่ประชุมพรรค ส่วนตัวยังเดินหน้าทำงานให้พรรคต่อไป เพื่อให้พรรคพลังประชารัฐเป็นสถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็งต่อไป" นายอนุชา ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวการลาออกเป็นการเขย่าหรือกดดันเพื่อบีบให้ลาออกหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่ถึงขนาดนั้น และมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เชื่อว่าหัวหน้าพรรคยังมีบารมีที่จะเดินหน้าพรรคไปได้ด้วยดี และยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งภายในพรรคแต่อย่างใด
“ดาวฤกษ์”ยันยังอยู่ พปชร.
ด้าน น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แกนนำกลุ่มดาวฤกษ์ กล่าวถึงกระแสข่าวย้ายพรรคของ นายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.เขตหนองจอก กทม. พรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นสมาชิกกลุ่มดาวฤกษ์ว่า นายศิริพงษ์ ได้ปฏิเสธไปแล้วว่า ไม่เป็นความจริง และเป็นปัญหาภายในของพรรคประชาธิปัตย์เองที่มีข่าวว่า จะดึงนายศิริพงษ์ไปร่วมงาน
"ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ทุกคน วันนี้ยังเป็น ส.ส.ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ไม่ทราบจริงๆว่า เกิดอะไรขึ้น ถึงมีเหตุการณ์ในลักษณะที่นายสำราญออกมาให้สัมภาษณ์ แต่ขอยืนยัน พวกเราไม่ได้คิดเรื่องย้ายพรรค เพราะเวลานี้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากวิกฤตโควิด-19 ทั้งเรื่องวัคซีนและช่วยชาวบ้าน" น.ส.วทันยาระบุ
ยก “บิ๊กป้อม” แม่ทัพเมืองหลวง
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่กลุ่มดาวฤกษ์ จะไม่อยู่กับพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่คิดเรื่องย้ายหรือไม่ย้ายพรรค แต่ในทางการเมืองก็เป็นเรื่องปกติที่จะได้รับการทาบทาม หรือชักชวน ซึ่งก็ไม่ใช่กลุ่มเราแค่กลุ่มเดียว แล้วถ้าฟังจากที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะอยู่จนครบเทอมนั้น แสดงว่าอนาคตยังอีกยาว จึงยังไม่ใช่เวลามานั่งคิดว่าจะย้ายพรรค หรือไม่ย้ายพรรค ส่วนกระแสที่ถูกหลายพรรคชัดชวนนั้น ก็เป็นเรื่องของคนที่รู้จักกันถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันเท่านั้น
น.ส.วทันยา ยังกล่าวถึงโครงสร้างการบริหารในพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะกลุ่มส.ส.กทม.ว่า หลังจาก นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ลาออก และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ถูกดำเนินคดี ทางพรรคยังไม่ได้แต่งตั้งใครมาดูแลแทนว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรค จึงเป็นแม่ทัพหลัก ที่ดูแลส.ส.กทม.ในตอนนี้ ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ซึ่งมีข่าวว่าได้รับมอบหมายดูแลการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.นั้น น.ส.วทันยา กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ ส.ส.กทม.และ ส.ส.ภาคอื่นๆ ให้ความเคารพ ดังนั้นในการทำงานที่ต้องขอคำชี้แนะ และความช่วยเหลือ บรรดา ส.ส. จึงไปขอความช่วยเหลือ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ
“ธรรมนัส” แบะท่ารับเลขาฯ
ที่ จ.ขอนแก่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) ให้แก่ประชาชน ณ ที่ว่าการ อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น ถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคพลังประชารัฐว่า วาระสำคัญในการประชุมคือ การปิดงบดุลประจำปี แต่ก็ยังมีวาระอื่นๆ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเดินทางมาด้วยตนเอง คงจะมอบนโยบายตอนเช้าว่า จะให้ทำอะไรบ้าง
ส่วนกระแสข่าวจะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ค่อนข้างจะแน่นอนแล้วว่า จะมีการปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคใหม่ ส่วนที่มีข่าวว่าตนเองจะถูกเสนอให้เป็นเลขาธิการพรรคนั้น อันนี้ไม่ทราบ ขึ้นอยู่กับว่าเมื่อมีการเสนอชื่อมาแล้ว สมาชิกพรรคเลือกหรือไม่
“ถ้าพี่น้องสมาชิกพรรคพลังประชารัฐให้ความไว้วางใจ ตนก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
แย้มปรับทัพสู้เลือกตั้ง
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา คอการเมืองอาจมองว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคเฉพาะกิจ ก็อยากจะกราบเรียนว่าตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ตนพยายามจะแสดงให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐ โดยการนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เราไม่ได้เป็นพรรคเฉพาะกิจ เราเตรียมที่จะปรับแผนสู้ศึกการเลือกตั้งในครั้งหน้า
“การประชุมครั้งนี้จะเป็นการกำหนดทิศทาง เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจอีกต่อไป เราจะเป็นสถาบันการเมืองที่มีความมั่นคง” ร.อ.ธรรมนัส ระบุ
เชื่อไม่ขัดแย้ง “อนุชา”
เมื่อถามว่ามีการมองกันว่า การปรับโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้ เพราะเกิดความขัดแย้งภายในสูง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง พล.อ.ประวิตรเข้าสู่เวทีการเมือง มาเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐปีกว่าแล้ว มองออกว่าจะต้องทำอะไรให้กับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อกำหนดทิศทางในอนาคต
“คิดว่าหลังจากวันนี้ น่าจะไม่มีกลุ่มก๊วนอะไร เราคือพลังประชารัฐ คือครอบครัวพลังประชารัฐ” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
เมื่อถามว่าหากสมาชิกพรรคเสนอชื่อ ร.อ.ธรรมนัส เป็นเลขาธิการพรรค จะต้องเคลียร์ใจกับ นายอนุชา เลขาธิการพรรคคนปัจจุบันหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ส่วนตัวแล้วผมกับพี่แฮงค์ (นายอนุชา) มีความสนิทสนมกันอยู่แล้ว ผมไม่เคยมีปัญหากับพี่แฮงค์และไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่สื่อออกมาเหมือนกับเรามีปัญหากันจริงๆ ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วไม่มี เราพี่น้องกัน”
“บิ๊กป้อม” ลาออกก่อนล้างไพ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่จ.ขอนแก่น ในวันนี้ (18 มิ.ย.) จะมีส.ส.ของพรรคเกือบทั้งหมด รวมถึงกลุ่มสามมิตร และกลุ่มดาวฤกษ์ เข้าร่วมประชุมด้วย ขณะที่สมาชิกพรรคจะมาจาก จ.นครราชสีมา 120 คน และจากขอนแก่น 250 คน ส่วนการปรับโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ใหม่นั้น ในระหว่างการประชุม พล.อ.ประวิตร จะลาออกจากหัวหน้าพรรค จากนั้นที่ประชุมจะเลือกตั้ง กก.บห. พรรคชุดใหม่ โดยที่ประชุมจะกำหนดจำนวนกก.บห. ก่อน จากนั้นจะเสนอชื่อผู้ที่จะเป็นหัวหน้าพรรคเลขาธิการพรรค เหรัญญิก และนายทะเบียน และลงคะแนนตามลำดับ
โดย พล.อ.ประวิตร จะถูกเสนอชื่อกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคตามเดิม ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคจะเสนอชื่อร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ จากเดิมเป็นรองหัวหน้าพรรค แทนนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ดัน “สมศักดิ์” คุมยุทธศาสตร์
ขณะที่ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการพรรค นั้น เป็นอำนาจหัวหน้าพรรคแต่งตั้งในภายหลังได้ แต่ได้กำหนดจำนวนรองหัวหน้าพรรคเหลือเพียง 4 คน จากเดิมที่มี 10 คน โดย 4 คนประกอบด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ซึ่งปัจจุบันเป็น ผอ.พรรค, นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ทั้งนี้ ในส่วนของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ที่เป็นรองหัวหน้าพรรคอยู่ จะยังเป็น กก.บห. และจะได้รับตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรค ซึ่งเป็นตำแหน่งเดิมของพล.อ.ประวิตร ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค
2 ส.ส.กทม.แทน “ตั้น-บี”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงสร้างพรรคดังกล่าวเป็นที่ตกลงกันได้ของแกนนำพรรคทุกกลุ่มนอกจากนั้น ในส่วนของรายชื่อกก.บห. ส่วนใหญ่สัดส่วนแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะมีนายจักรพันธ์ พรนิมิตร และนายประสิทธิ์ มะหะหมัดส.ส.กทม. เข้ามาแทนที่ในกก.บห. แทนนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ที่ต้องคดีชุมนุมกลุ่มกปปส. จนต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี และส่งผลกระทบกับตำแหน่งภายในพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายเมื่อ 17 มิ.ย. นายสุริยะ และนายสมศักดิ์ ได้เข้าพบพล.อ. ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ โดยพล.อ.ประวิตร ได้กล่าวกับทั้ง 2 คนว่า จำเป็นต้องปรับโครงสร้าง ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคก็ให้ขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรคในการประชุมใหญ่ และอยากให้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดเพื่อให้เห็นความเป็นเอกภาพ.