“ท่านใหม่” ยกย่องในหลวงพระปรีชาสามารถล้ำลึกยิ่ง พูดเป็นนัย อีกไม่นานจะทราบความหมาย “สามกีบ” วุ่นหนัก “ก๊วนยุทธเลิศ” เตรียมแฉเทปลับ “แอมมี่” จี้ “บุ๊ง-ทราย” ออกมาพูดความจริงปมเงินบริจาค “Redem ใหม่” ปลุกอย่างไรก็ไม่ขึ้น
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง กรณีเฟซบุ๊ก จุลเจิม ยุคล ของ ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ “ท่านใหม่” โพสต์ข้อความ ระบุว่า
“ทรงพระปรีชาสามารถยิ่ง***
1 ในช่วงที่มีการปล่อยข่าวลืออัปมงคล ทุกอย่างเงียบสนิท ไม่มีการตอบโต้หรือชี้แจงใดๆ ทำให้ขบวนการปล่อยข่าวลือ กดดันกันเองอย่างหนัก เมื่อถึงเวลาอันสมควร ทั้งสองพระองค์ก็ทรงเสด็จฯออกปฏิบัติพระราชภารกิจ คนปล่อยข่าวลือได้ตายไปพร้อมกับข่าวลือแล้ว เพราะเท่ากับข่าวลือนั้น ได้ทำลายขบวนการข่าวลือจนหมดความเชื่อถือ!!! นี่คือ อานุภาพของราชธรรมที่เรียกว่า ทมะและขันติ ซึ่งแปลว่า ความอดทนอดกลั้น ซึ่งเป็นราชธรรมที่มีอานุภาพมาก
2 ช่วงนี้ ทุกคนต้องสวมหน้ากาก เพื่อความปลอดภัย ทั้งสองพระองค์ก็ทรงปฏิบัติให้เป็นแบบอย่างแก่ราษฎร พระองค์ไม่ทรงดื้อดึง ปฏิบัติพระองค์ตามกฎหมาย และกฎระเบียบของบ้านเมืองเพื่อความปลอดภัย ในสุขภาพและชีวิตของพสกนิกร จะสังเกตว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงใช้ สี ประจำวันประสูติของสมเด็จพระนางเจ้า ในขณะที่สมเด็จพระนางเจ้า ทรงใช้สีประจำวันประสูติของพระเจ้าอยู่หัว*** (Cute (น่ารัก) พระพุทธเจ้าคะ) สังเกตเห็น มา 2 วาระติดๆ กันแล้ว!!! ทรงพระปรีชาสามารถล้ำลึกยิ่ง!!!
ทรงตั้งพระทัยเช่นนั้น อีกไม่นานคงจะทราบความหมายกัน***
ขอทั้งสองพระองค์ทรงพระเจริญ****”
ขณเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์หัวเรื่อง “ก๊วนยุทธเลิศ” เตรียมเปิด “เทปลับแอมมี่” จี้ “บุ๊ง-ทราย” ออกมาพูดความจริง เบื้องหลังเงินบริจาคม็อบสุดเน่า”
เนื้อหาระบุว่า “สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มี.ค. 64 ที่ผ่านมา หลังจาก นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ นักร้องหนุ่มชื่อดัง ที่พัวพันในคดีวางเพลิงพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หน้าเรือนจำคลองเปรม และ คดี ม.112 อีกหลายคดี ถูกบุกจับได้ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง หลังจากก่อคดี และหลัง แอมมี่ ถูกจับ ก็เริ่มมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มท่อน้ำเลี้ยง ปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ “เฮียบุ๊ง” และ อินทิรา เจริญปุระ หรือ “ทราย” ในทันที โดยโยนความผิดไปให้กับคนขับรถให้ แอมมี่ ในวันที่เกิดเหตุว่า เป็นคนชี้เป้าจับแอมมี่
ส่งผลให้ทางด้านของ นายยุทธเลิศ สิปปภาค หรือ “ต้อม” และศิลปินผู้พ่นกราฟิตี “นาฬิกาหรูประวิตร” และ “เสือดำ” คดีนายเปรมชัย ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก Headache Stencil แฉแม่ยกม็อบ พร้อมทั้งยังเปิดประเด็นนักต้มตุ๋นข้างตัวแกนนำ สั่งเด็กก่อความรุนแรง โดยเปิดเผยว่า การที่ แอมมี่ ถูกจับได้นั้น เนื่องจากมีคนสั่งเก็บ เพราะ แอมมี่ เริ่มสืบรู้ว่า เบื้องหลังม็อบนั้นไม่โปร่งใส พัวพันทุจริตหลายล้านจากเงินบริจาคม็อบ แถมยังได้ประกาศว่า รอแอมมี่ ออกมาพูดเอง
ซึ่งล่าสุด ในวันที่ 8 มิ.ย. 64 หลังจาก แอมมี่ ถูกปล่อยตัว ทางด้านของศิลปินคนดังกล่าว ก็ได้เคลื่อนไหวในทำนอง แม่ยกพ่อยก บุ๊ง-ทราย ต้องออกมาขอโทษและพูดความจริง โดยจะให้เวลา 3 วัน ก่อนจะแฉเรื่องที่กุข่าวแอมมี่ ไว้ โดยโพสต์ว่า
“ย้ำนะครับ ไอ้บุ๊ง ไอ้เซียนแว่น และลูกหาบนางฟ้าจอมปลอม ที่ออกมาถล่มกูทั้งหมด แค่การไม่ “เอาทัวร์มาลง” ไม่ใช่วิธีการขอโทษต่อสิ่งที่พวกมึงทำกูไว้เรื่องแอมมี่ ถ้าแค่ขอโทษกับสิ่งที่ทำผิดยังทำไม่ได้ กลัวอาย? แล้วจะมาทำม็อบเนี่ยนะ ประชาธิปไตยหรือหาแดก?”
นอกจากนี้ ยังได้โพสต์ข้อความแขวะไปที่ นายอธึกกิต แสวงสุข คอลัมนิสต์ และอดีตผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ เจ้าของนามปากกา “ใบตองแห้ง” ด้วยว่า ระวังจะหน้าแหกเป็น “ใบตองเห่า” หลังแอมมี่ออกมาแฉความจริง โดยระบุว่า
“ตอนเปิดเทปแฉ ขอให้ลุงใบตองแห้งที่กลายเป็นใบตองเห่า ช่วยมาฟังด้วยนะครับ ที่มึงมาแขวะกูกะพี่ต้อมน่ะ มึงโง่ตอนแก่ครับ รู้ตัวไว้ด้วย เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ หลังฟังเทปแฉ มึงช่วยถอนหงอกตัวเองออกเล่นด้วยนะ”
นอกจากนี้ ยังได้โพสต์ต่อด้วยว่า จะทำการเปิดโปงความเน่าข้างหลังม็อบ โดยมีรายละเอียดว่า
“แล้วการที่กูจะมาเปิดโปงมึงรอบนี้ มึงจะได้ไม่ต้องมาหาว่ากูจะพยายามทำลายขบวนการอะไรอีก เพราะตอนนี้มันไม่ได้มีซีนของม็อบ น่าจะเป็นเวลาที่ควรจะจัดการให้ “หลังบ้าน” ที่มึงชอบอ้าง โดนคนอื่นตรวจความสะอาดบ้างได้แล้ว เน่าไปหมดแล้ว”
และที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์หัวข้อ “3 กีบล่มสลาย!? Redem แป้ก หนีตั้งกลุ่มแชตใหม่ มีสมาชิกแค่หลักร้อย ลูกก๊วนโอดอยากเลิกม็อบแล้ว สู้ต่อก็ไม่ชนะ
#Redem #กลุ่มแชทใหม่ #เลิกม็อบ
โดยเนื้อหาจาก TRUTHFORYOU.CO ระบุว่า
“จากกรณีที่มีการแฉแชตลับในเทเลแกรมของกลุ่ม Redem ที่ตอนนี้เริ่มเสียงแตก มีการโจมตีกันเองอย่างดุเดือด สืบเนื่องมาจากการปั่นกระแสเฟกนิวส์ พอมาเจอข้อมูลจริง ก็เถียงไม่ออก จนบางคนก็บอกว่า ทำไมแอดมินถึงไม่คัดกรองข้อมูล ปล่อยให้เอาเรื่องโน้น เรื่องนี้ เข้ามาในกลุ่มได้อย่างไร ผิดวัตถุประสงค์
และได้ถามความคิดเห็นสมาชิกว่า จะไปเปิดกลุ่มใหม่ และอ้างว่า เนื่องจากมีพวกไม่หวังดี ประสงค์ที่จะบั่นทอนสมาชิกในกลุ่มด้วยถ้อยคำต่างๆ ซึ่งผลก็ออกมาว่า ให้ไปเปิดกลุ่มใหม่ ใช้ชื่อเดิม หรือไม่ก็เปิดกลุ่มใหม่และใช้ชื่อใหม่
ต่อมาได้มีการเปิดเผยภาพแชตของกลุ่ม Redem ที่มีข้อความบอกว่า ตอนนี้สมาชิกร้องเรียกหาแอดมิน ว่าไม่มีใครสนใจข้อความในกลุ่มเลย ไม่ตอบโต้ ทั้งๆ ที่มีแอดมิน 2 คน นอกจากนี้ ยังมีแชตเชิญชวนให้ไปเข้าร่วมกลุ่มใหม่ พร้อมบอกว่ากลุ่มปัจจุบันมีแอดมินปล่อยให้พวกบอทเข้ามาปั่น แต่กลุ่มใหม่มีแอดมินที่ไว้ใจได้ คุ้นเคยมาดูแล ซึ่งการกระทำที่ผ่านมาของกลุ่มนี้ จะเห็นว่ามีแต่ความย้อนแย้ง เพราะเวลาจะออกมาร่วมชุมนุม จะบอกว่าทุกคนคือแกนนำ มีสิทธิออกมาแสดงความเห็น เพราะพวกเราเป็นประชาธิปไตย แต่ที่จริงก็จะมีคนคอยดูแลกลุ่มแชต ห้องลับต่างๆ ไว้ปลุกระดมสมาชิก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ความย้อนแย้งของ 3 กีบ!!! Redem ปล่อยสมาชิกเคว้ง หนีตั้งกลุ่มใหม่ แฉยับ!! ตั้งแอดมินคุมห้องแชต แต่หลอกมวลชน ว่าทุกคนคือแกนนำ!?
ล่าสุด ในทวิตเตอร์ เจ๊จุก คลองสาม ได้เผยแพร่แชตใหม่ของกลุ่ม Redem อีกครั้ง ที่ตอนนี้มีสมาชิกจำนวน 230 รายเท่านั้น และยังมีข้อความที่คุยในแชตว่า อยากออกมาร่วมม็อบ ขณะที่สมาชิกบางคนก็บอกว่า อยากให้พอ เพราะแกนนำก็ออกจากคุกหมดแล้ว ปลุกระดมคงไม่ขึ้น
โดย เจ๊จุก ได้แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ไว้ด้วยว่า “ตั้งกลุ่มใหม่ขึ้นมาได้ 2 อาทิตย์แล้ว ยังหาพวกเข้าร่วมได้ไม่ถึง 250 คนเลย นี่ยังไม่ตัดจำนวนสายตำรวจ สายเจ๊จุกออกนะ แบบนี้อะเหรอคิดจะจัดชุมนุมล้มรัฐบาลกัน แค่หาคนมาเข้ากลุ่มยังไม่ได้เลย อย่ามัวแต่หาโทษโน่นนี่นั่นเพื่อปลอบใจตัวเองเลย ม็อบถ่อย สถุน ปล่อยแต่เฟกนิวส์ ใครจะไป”
อย่างไรก็ตาม ในแชตยังมีอีกหลายข้อความ ที่บอกว่า ม็อบเรามันจบแล้ว ต้องยอมรับ คนไม่อยากออกมาแล้ว, บางรายก็บอกว่า อยากให้กลุ่มเยาวชนปลดแอกออกมาเรียกมวลชน คนอาจจะกลับมาเยอะ, มีโรคโควิดระบาดอยู่ กำลังหนัก ไม่อยากออกมาม็อบหรอก ทั้งนี้ ทางฝั่ง ไมค์ แกนนำ 3 นิ้ว ได้ประกาศว่า คิดถึงมวลชน ทำให้ต้องจับตาดูอีกครั้ง ว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้จะกลับมาอีกหรือไม่ หากแกนนำออกมานำม็อบเอง ก็เข้าข่ายผิดเงื่อนไขศาลอย่างแน่นอน”
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ความเคลื่อนไหวของ ขบวนการ “3 นิ้ว” หลังห่างหายจากการชุมนุมไปนาน
แล้วก็พบว่า ยังมีความวุ่นวายอยู่กับปัญหาเดิมๆ นั่นก็คือ การทะเลาะกันเรื่องเงินบริจาคไม่โปรงใส ไม่ชี้แจงค่าใช้จ่าย และยอดบริจาคที่แท้จริง แถมก่อนหน้านี้ แกนนำบางคน ยังถูกแฉใช้เงินบริจาคไปใช้หนี้สินส่วนตัวอีกด้วย กระทั่งมีการโยงไปถึงการจับกุม “แอมมี่” ว่า เป็นแผนปิดปากที่แอบไปรู้เบื้องลึกเบื้องหลัง ซึ่งถ้ามีการเปิดเผย “เทปลับแอมมี่” อย่างที่มีการขู่เอาไว้จริง เชื่อว่า สนุกแน่ และอาจทำให้ปมเงินบริจาคชัดเจนขึ้นว่า ใครบ้างเป็นคน “อม” เข้ากระเป๋าตัวเอง
ส่วน กลุ่ม Redem หรือ ม็อบ 3 นิ้ว แบบไม่มีแกนนำ ก็ยิ่งสะท้อนความเสื่อมให้เห็นอย่างชัดเจน เพราะแม้แต่สาวกก็ยังมีความแตกแยกทางความคิด และหลายคนตีตัวออกห่าง เพราะไม่เชื่อมั่นในแนวทางต่อสู้อีกต่อไป และแม้จะไปตั้งกลุ่มใหม่ ก็ไม่มีความหมาย เพราะพฤติกรรมการต่อสู้ ไม่ได้เป็นไปอย่างสันติ ปราศจากอาวุธ อีกต่อไป เห็นได้จากการก่อเหตุความรุนแรงทุกครั้งที่มีการชุมนุมที่ผ่านมา
เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่น่าจับตามองก็คือ “ม็อบ” โดยการนำของคณะราษฎร 2563 จะใช้ความชอบธรรมอะไรในการชุมนุมทางการเมือง หลังสถานการณ์โควิด-19 เพราะหลายอย่างถูกเปิดโปงออกมาแทบหมดสิ้นแล้ว ว่า กำลังทำอะไร เพื่อใคร หรือ เป็นทาสทางความคิดของคนกลุ่มไหน ใครเป็น “อีแอบ”
เพราะนั่นจะยิ่งนำพาตัวเอง เข้าสู่ “สนามกระสุนตก” ของฝ่ายต่อต้าน และคดีความที่เกิดจากการทำผิดกฎหมาย ที่ซ้ำซากเกินกว่าสังคมจะให้อภัย อย่าลืมว่า สภาพการณ์อย่างนี้ “อีแอบ” คงไม่ออกมาร่วมรบและรับผิดชอบ เคียงบ่าเคียงไหล่อย่างแน่นอน เพราะแทบมองไม่เห็นว่าจะได้ประโยชน์อะไร หรือไม่จริง?