ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
สาขาวิชา Business Analytics and Intelligence
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล คือสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์หรือไม่ ไฉนสมศักดิ์ หรือหัวโตของเพื่อน 6 ตุลาคม 19 จึงได้กลายเป็นนักวิชาการที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ ตามอคติ ปล่อยข่าวลือโดยปราศจากหลักฐานและการกลั่นกรองใด ๆ อย่างที่นักประวัติศาสตร์ที่ดีเขาจะไม่ทำกัน
ข่าวลือเรื่องพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีทรงพระประชวรหนักที่เพิ่งปล่อยมาโดย สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล คือสิ่งที่สะท้อนว่าเขาคือนักวิชาการทางประวัติศาสตร์ที่เลวร้ายที่สุด
พลเอก หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ได้ทรงถามสมศักดิ์ว่า
คุณ (ไอ้) เจียม หงอก และสมุน ต่อไปจะสร้าง เฟคนิวส์ (ข่าวปลอม) เรื่องอะไร อีกต่อไป
วันนี้......ในหลวง-พระราชินี เสด็จออกพร้อมเจ้าคุณพระฯ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต .....โปรดเกล้าฯ นายเกษม จันทร์แก้ว องคมนตรี ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ทรงเจิมเทียนรุ่ง พระราชกุศล วิสาขบูชา ถวาย 7 พระอารามหลวง.....>>>>
ข่าวพระราชกรณียกิจที่เสด็จออกนั้น เป็นการสยบข่าวลือเรื่องพระสุขภาพอย่างได้ผลที่สุด แต่คำถามคือในฐานะนักวิชาการและนักประวัติศาสตร์ ทำไม ดร. สมศักดิ์ จึงเลือกใช้หลักฐานทางประวัติศาสตร์ร่วมสมัย แบบเก๊ ๆ หรือแบบปลอม ๆ มารับใช้อคติของตน โดยปราศจากการตรวจสอบหลักฐานเลยเล่า?
การวิพากษ์หลักฐานทางประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งที่นักประวัติศาสตร์จำเป็นต้องทำ ยกตัวอย่างเช่น การตรวจสอบสามเส้า (Triangulation) ที่นักประวัติศาสตร์ใช้กันในการตรวจสอบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งที่แม้แต่นิธิ เอียวศรีวงศ์ ก็สอน เขียนตำราคู่กับ ศาสตราจารย์ อาคม พัฒิยะ ผู้ล่วงลับ และเชื่อว่า ดร.สมศักดิ์ ย่อมได้เรียนมา ว่าหลักฐานประวัติศาสตร์นั้นต้องตรวจสอบว่า สถานที่ เวลา บริบท แรงจูงใจ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ หรือที่มาของเอกสารที่แตกต่างกัน ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องตรวจสอบสามเส้าจนมั่นใจว่าสิ่งที่นักประวัติศาสตร์จะเขียน ต้องเป็นความจริงสอดรับกัน ไม่ใช่ข่าวลืออันเลื่อนลอย
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ที่ผมเคยอ่านผลงาน แม้จะเป็นผลงานวิชาการที่มีอคติต่อสถาบัน แต่ก็เขียนบนหลักฐานทางวิชาการและทางประวัติศาสตร์ และหลายอย่างก็สร้างความฉงนให้ผมว่า สมศักดิ์ หาเอกสารได้เก่งมาก แม้แต่เอกสารลับที่ไม่ควรหลุดออกมา สมศักดิ์ก็หาได้ และเป็นของจริงเสียด้วย!!! น่ายกย่องมาก
การที่สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เขียนและปล่อยข่าวลือ โดยปราศจากการตรวจสอบหลักฐานทางประวัติศาสตร์เช่นนี้ ทำให้ผมเกิดความสงสัยมากว่าใช่สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลคนเดิมตัวจริงที่ผมเคยอ่านงานหรือไม่ แม้จะเป็นงานที่ผมไม่ชอบแต่ก็เป็นงานที่ทำตามหลักวิชาการและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ แต่อาจจะตีความตามอคติของตนไปบ้าง แต่ไม่ใช่กุหรือสร้างหลักฐานเท็จทางประวัติศาสตร์ ด้วยการใช้ข่าวลือและปล่อยข่าวลือ
ในรอบสองสามปีที่ผ่านมา มีข่าวว่า ดร.สมศักดิ์ ป่วยหนัก มีอาการเส้นเลือดในสมองแตกหรือเส้นเลือดในสมองตีบ และมีอาการอัมพาตหรืออัมพฤกษ์ครึ่งซีก และหายไปจากโลกออนไลน์ที่ปกติจะต้องมาเผยแพร่ข่าววงในในทางที่ไม่ดีต่อสถาบัน มาตลอด แต่การปล่อยข่าวของสมศักดิ์ ที่ผ่านมาก่อนป่วย มักเป็นไปอย่างมีหลักฐาน ไม่ใช่การปล่อยข่าวลือ
หาก สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลที่ปล่อยข่าวลือว่าในหลวงและพระราชินี ทรงพระประชวรหนัก เป็นตัวจริง
ผมคิดว่าวันนี้ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้ลดระดับความเป็นนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ของตัวเองลงมา อยู่ระดับเดียวกับ ณัฐพล ใจจริง ที่ปลอมแปลงเอกสารทางประวัติศาสตร์จน Bangkok Post ต้องออกมาแถลงแล้ว เรียกว่าเป็น Data Falsification และ แต่งนิยาย หรือแต่งข้อมูล (Data Fabrication) อย่างร้ายแรง โดยที่ ณัฐพล ใจจริง แต่งข้อมูลเท็จว่ากรมพระยาชัยนาทนเรนทร ทรงเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี โปรดอ่านได้จากบทความทองแท้ใยต้องกลัวไฟ นักวิชาการอะไรกลัวการสอบสวนทางวิชาการ https://mgronline.com/daily/detail/9640000029568
ในขณะที่ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล แต่งเรื่องว่า ในหลวงและพระราชินี ประชวรหนัก ทั้ง ๆ ที่สองพระองค์ทรงพระสุขภาพพลานามัยดี ทรงพระอักษรภาษาบาลี ทรงปฏิบัติธรรม ทรงกีฬา และทรงงานช่วยเหลือประชาชนในการรักษาป้องกันโควิด-19 อยู่ตลอดเวลา
ผมแค่สงสัยว่า นี่ใช่สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลตัวจริงหรือไม่ เหตุใดต้องลดระดับความเป็นนักวิชาการประวัติศาสตร์ระดับคลาสสิกที่ใช้หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องแต่ตีความตามอคติของตน ลงมาเป็นระดับเดียวกับณัฐพล ใจจริง ที่ทำ Data Falsification และ Data Fabrication อันผิดจริยธรรมทางวิชาการได้อย่างเหลือเชื่อ
หรือสมศักดิ์ เจียมธีรสกุลจะป่วยหนักจนสมองเสื่อมไปแล้ว?
หรือที่เขียน Facebook นั้น เป็นตัวปลอม อาจจะเป็นคนอื่นสวมรอยเข้ามาเขียนแทน?
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
สาขาวิชา Business Analytics and Intelligence
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล คือสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์หรือไม่ ไฉนสมศักดิ์ หรือหัวโตของเพื่อน 6 ตุลาคม 19 จึงได้กลายเป็นนักวิชาการที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ ตามอคติ ปล่อยข่าวลือโดยปราศจากหลักฐานและการกลั่นกรองใด ๆ อย่างที่นักประวัติศาสตร์ที่ดีเขาจะไม่ทำกัน
ข่าวลือเรื่องพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีทรงพระประชวรหนักที่เพิ่งปล่อยมาโดย สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล คือสิ่งที่สะท้อนว่าเขาคือนักวิชาการทางประวัติศาสตร์ที่เลวร้ายที่สุด
พลเอก หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ได้ทรงถามสมศักดิ์ว่า
คุณ (ไอ้) เจียม หงอก และสมุน ต่อไปจะสร้าง เฟคนิวส์ (ข่าวปลอม) เรื่องอะไร อีกต่อไป
วันนี้......ในหลวง-พระราชินี เสด็จออกพร้อมเจ้าคุณพระฯ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต .....โปรดเกล้าฯ นายเกษม จันทร์แก้ว องคมนตรี ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ทรงเจิมเทียนรุ่ง พระราชกุศล วิสาขบูชา ถวาย 7 พระอารามหลวง.....>>>>
ข่าวพระราชกรณียกิจที่เสด็จออกนั้น เป็นการสยบข่าวลือเรื่องพระสุขภาพอย่างได้ผลที่สุด แต่คำถามคือในฐานะนักวิชาการและนักประวัติศาสตร์ ทำไม ดร. สมศักดิ์ จึงเลือกใช้หลักฐานทางประวัติศาสตร์ร่วมสมัย แบบเก๊ ๆ หรือแบบปลอม ๆ มารับใช้อคติของตน โดยปราศจากการตรวจสอบหลักฐานเลยเล่า?
การวิพากษ์หลักฐานทางประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งที่นักประวัติศาสตร์จำเป็นต้องทำ ยกตัวอย่างเช่น การตรวจสอบสามเส้า (Triangulation) ที่นักประวัติศาสตร์ใช้กันในการตรวจสอบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เป็นสิ่งที่แม้แต่นิธิ เอียวศรีวงศ์ ก็สอน เขียนตำราคู่กับ ศาสตราจารย์ อาคม พัฒิยะ ผู้ล่วงลับ และเชื่อว่า ดร.สมศักดิ์ ย่อมได้เรียนมา ว่าหลักฐานประวัติศาสตร์นั้นต้องตรวจสอบว่า สถานที่ เวลา บริบท แรงจูงใจ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ หรือที่มาของเอกสารที่แตกต่างกัน ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องตรวจสอบสามเส้าจนมั่นใจว่าสิ่งที่นักประวัติศาสตร์จะเขียน ต้องเป็นความจริงสอดรับกัน ไม่ใช่ข่าวลืออันเลื่อนลอย
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ที่ผมเคยอ่านผลงาน แม้จะเป็นผลงานวิชาการที่มีอคติต่อสถาบัน แต่ก็เขียนบนหลักฐานทางวิชาการและทางประวัติศาสตร์ และหลายอย่างก็สร้างความฉงนให้ผมว่า สมศักดิ์ หาเอกสารได้เก่งมาก แม้แต่เอกสารลับที่ไม่ควรหลุดออกมา สมศักดิ์ก็หาได้ และเป็นของจริงเสียด้วย!!! น่ายกย่องมาก
การที่สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เขียนและปล่อยข่าวลือ โดยปราศจากการตรวจสอบหลักฐานทางประวัติศาสตร์เช่นนี้ ทำให้ผมเกิดความสงสัยมากว่าใช่สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลคนเดิมตัวจริงที่ผมเคยอ่านงานหรือไม่ แม้จะเป็นงานที่ผมไม่ชอบแต่ก็เป็นงานที่ทำตามหลักวิชาการและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ แต่อาจจะตีความตามอคติของตนไปบ้าง แต่ไม่ใช่กุหรือสร้างหลักฐานเท็จทางประวัติศาสตร์ ด้วยการใช้ข่าวลือและปล่อยข่าวลือ
ในรอบสองสามปีที่ผ่านมา มีข่าวว่า ดร.สมศักดิ์ ป่วยหนัก มีอาการเส้นเลือดในสมองแตกหรือเส้นเลือดในสมองตีบ และมีอาการอัมพาตหรืออัมพฤกษ์ครึ่งซีก และหายไปจากโลกออนไลน์ที่ปกติจะต้องมาเผยแพร่ข่าววงในในทางที่ไม่ดีต่อสถาบัน มาตลอด แต่การปล่อยข่าวของสมศักดิ์ ที่ผ่านมาก่อนป่วย มักเป็นไปอย่างมีหลักฐาน ไม่ใช่การปล่อยข่าวลือ
หาก สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลที่ปล่อยข่าวลือว่าในหลวงและพระราชินี ทรงพระประชวรหนัก เป็นตัวจริง
ผมคิดว่าวันนี้ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้ลดระดับความเป็นนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ของตัวเองลงมา อยู่ระดับเดียวกับ ณัฐพล ใจจริง ที่ปลอมแปลงเอกสารทางประวัติศาสตร์จน Bangkok Post ต้องออกมาแถลงแล้ว เรียกว่าเป็น Data Falsification และ แต่งนิยาย หรือแต่งข้อมูล (Data Fabrication) อย่างร้ายแรง โดยที่ ณัฐพล ใจจริง แต่งข้อมูลเท็จว่ากรมพระยาชัยนาทนเรนทร ทรงเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี โปรดอ่านได้จากบทความทองแท้ใยต้องกลัวไฟ นักวิชาการอะไรกลัวการสอบสวนทางวิชาการ https://mgronline.com/daily/detail/9640000029568
ในขณะที่ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล แต่งเรื่องว่า ในหลวงและพระราชินี ประชวรหนัก ทั้ง ๆ ที่สองพระองค์ทรงพระสุขภาพพลานามัยดี ทรงพระอักษรภาษาบาลี ทรงปฏิบัติธรรม ทรงกีฬา และทรงงานช่วยเหลือประชาชนในการรักษาป้องกันโควิด-19 อยู่ตลอดเวลา
ผมแค่สงสัยว่า นี่ใช่สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลตัวจริงหรือไม่ เหตุใดต้องลดระดับความเป็นนักวิชาการประวัติศาสตร์ระดับคลาสสิกที่ใช้หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องแต่ตีความตามอคติของตน ลงมาเป็นระดับเดียวกับณัฐพล ใจจริง ที่ทำ Data Falsification และ Data Fabrication อันผิดจริยธรรมทางวิชาการได้อย่างเหลือเชื่อ
หรือสมศักดิ์ เจียมธีรสกุลจะป่วยหนักจนสมองเสื่อมไปแล้ว?
หรือที่เขียน Facebook นั้น เป็นตัวปลอม อาจจะเป็นคนอื่นสวมรอยเข้ามาเขียนแทน?