ปั้นเมื่อไหร่เป็นได้เรื่อง! ทำเอา “พวกไม่เอาเจ้า” ดี๊ด๊ากันใหญ่ “เจี๊ยบ คอนถม” โพสต์ขึ้นมาลอยๆ มีที่ไหนขนาดคิดว่าเป็นแค่ข่าวลือก็ยังดีใจ “ยุกติ” หนักกว่า ถ้าไม่จริง ก็แปลงเป็นสาปแช่ง สุดท้ายเฉลย “ศักดิ์ เจียม” เจ้าเก่า “เฟกนิวส์”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (13 พ.ค. 64) เฟซบุ๊ก การเมืองไทย ในกะลา แชร์โพสต์ทวิตเตอร์ของ รศ.ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร อาจารย์คณะสังคมวิทยา และมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (12 พ.ค.) ระบุว่า
“ข่าวลือ ถ้าไม่จริง ก็แปลงเป็นคำสาปแช่งแล้วกันครับ”
https://twitter.com/iamcamnt/status/1392491401678446593?s=19
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ค. มีการปล่อยเฟกนิวส์ในโซเชียลกลุ่มล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีการวิพากษ์วิจารณ์โดยไร้ข้อเท็จจริง
ขณะที่บุคคลมีชื่อเสียงในกลุ่มต่อต้านรัฐบาล และเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์พากันโพสต์ข้อความ แบบไม่มีที่มาที่ไป และยืนยันไม่ได้ว่า เป็นเหตุการณ์เดียวกันหรือไม่
อาทิ นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thanapol Eawsakul ว่า โรงพยาบาลศิริราช สถานการณ์ยังปกติ ไม่มีการยกระดับการรักษาความปลอดภัย
ขณะที่ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือ “เจี๊ยบ นครปฐม” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ว่า มีที่ไหน ขนาดคิดว่าเป็นแค่ข่าวลือก็ยังดีใจ good night
โดยเฉพาะเฟซบุ๊กของนางอมรัตน์ มีผู้เข้าไปแสดงความเห็นหลายร้อยคน” (ข่าวไทยโพสต์)
อย่างไรก็ตาม ก่อนนั้น เฟซบุ๊ก Somsak Jeamteerasakul ของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ผู้ลี้ภัย คดี ม.112 ที่ฝรั่งเศส และมีอิทธิพลทางความคิดต่อขบวนการ 3 นิ้วในไทยอย่างสูง โพสต์ข้อความระบุว่า
“มีข่าวลือว่า ...ป่วย อยู่ศิริราช
มีใครยืนยันข่าวนี้ได้บ้าง?”
ล่าสุด วันนี้ เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ข้อความ ระบุว่า
“จากกรณีที่ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ผู้ถูกออกหมายจับตามความผิดมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศส ได้โพสต์ข้อความโดยบอกว่า มีข่าวลือว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวร และประทับอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งทำให้กลายเป็นประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากในโลกโซเชียล ขณะที่ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส. พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความในสื่อโซเชียลทุกช่องเกี่ยวกับข้อความดังกล่าวทันที
อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวเดอะทรูธ ได้ตรวจสอบถึงข้อความหมิ่นเหม่ดังกล่าว โดยได้ตรวจสอบไปที่โรงพยาบาลศิริราชแล้ว ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงตามข่าวลือ หรือข้อกล่าวอ้างจากนายสมศักดิ์แต่อย่างใด สำหรับ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ซึ่งเป็น ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ได้เข้าพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตามกฎหมาย ซึ่งบุคคลที่เข้ารับตำแหน่งทางการเมือง รัฐธรรมนูญทุกฉบับรวมไปถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจะกำหนดให้ ส.ส.และรัฐมนตรีจะต้องถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยมีข้อความดังนี้
“ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้า จะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ”
อ่านต่อได้ที่ลิงก์ : https://truthforyou.co/47669/?anm
สำหรับ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ก่อนหน้านี้เคยโพสต์ ข้อมูลที่ไม่มีหลักฐานยืนยันมาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง และก็ทำให้ขบวนการ 3 นิ้ว และ ส.ส. 3 นิ้ว เชื่อเป็นตุเป็นตะว่า เป็นเรื่องจริง
กล่าวคือ กรณีในโลกโซเชียลฯ มีการแชร์ข้อมูลพาดพิงถึงการประชุมใหญ่ของศาลฎีกา ระบุทำนองที่ประชุมศาลวุ่น ไม่ไว้วางใจประธานศาล ไม่ไว้ใจในกระบวนการยุติธรรมขณะนี้ และมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องการประกันตัวคดีความผิดตาม ป.อาญา ม.112 นั้น
ต่อมาวานนี้ (30 มี.ค. 2564) นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ชี้แจงว่า การประชุมใหญ่ของศาลฎีกาจะมีวาระพิจารณาอยู่ 2 ประเภท คือ ภารกิจตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย และการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย ซึ่งในการประชุมใหญ่ที่มีการกล่าวว่าเป็นการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น จะเป็นครั้งล่าสุด ที่มีการกำหนดวาระการประชุมไว้เพียง 2 วาระ คือ การพิจารณาคัดเลือกกรรมการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่ง กสทช. ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2564 ซึ่งถือเป็นภารกิจตามที่กฎหมายกำหนดให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาดำเนินการ
และอีกวาระ เป็นการพิจารณาข้อกฎหมายในคดีที่จะต้องอาศัยการลงมติของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา โดยมีผู้พิพากษาที่ปฏิบัติงานในศาลฎีกาเข้าประชุม จำนวน 245 คน ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่อาจเข้าร่วมประชุมได้และเป็นการประชุมลับ
ซึ่งไม่มีการพูดคุยหรือหารือกันเกี่ยวกับการปล่อยชั่วคราวแต่อย่างใด อีกทั้งในวันดังกล่าวได้มีการลงคะแนนลับของผู้พิพากษาในศาลฎีกาเพื่อเลือกกรรมการสรรหาฯ โดยไม่มีการลงมติในเรื่องอื่นใดอีกทั้งสิ้น ดังนั้น เรื่องราวตามที่มีการเผยแพร่ในสื่อโซเชียล จึงไม่เป็นความจริง เป็นการบิดเบือนและให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ อันก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และทำให้ศาลเป็นคู่กรณีกับฝ่ายต่างๆ
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ปล่อยข่าวคือ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ผู้ต้องการคดี 112 โดยวันที่ 29 มี.ค. 2564 ที่ผ่านมา บนเฟซบุ๊ก “Somsak Jeamteerasakul” โพสต์ว่า
ข่าวกรอง เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในการประชุมใหญ่ศาลฎีกา มีผู้พิพากษาศาลฎีกาท่านหนึ่งพูดในที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ว่า เรื่องคำสั่งไม่ให้ประกันตัวแกนนำม็อบ ยังไงก็เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่มีพฤติการณ์จะยุ่งเหยิงต่อพยานหลักฐาน จะไม่ให้ปล่อยตัวได้อย่างไร ประธานศาลฎีกาตอบว่า “มีบุคคลภายนอกสั่งมาอีกที”
ผู้พิพากษาศาลฎีกาอีกรายหนึ่ง ก็ตอบโต้ว่า “ศาลยุติธรรมเป็นองค์กรตุลาการ ถ้าคนที่เป็นประธานศาลฎีกายังพูดได้ว่า มีบุคคลภายนอกสั่งมาอีกที แล้ว ต่อไป ศาลยุติธรรมคงดำรงอยู่ต่อไปไม่ได้ และถ้าประธานศาลฎีกาปล่อยให้บุคคลภายนอกมาสั่งบงการ ก็น่าจะมีการเสนอเรื่องให้คณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) ตรวจสอบวินัยว่า คนแบบนี้ยังสมควรเป็นประธานศาลฎีกาอยู่อีกหรือไม่” เรื่องก็มีเพียงเท่านี้ ไม่มีการโหวตใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีการชูสามนิ้ว (จาก THE TRUTH)
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ายังไม่ลืม เรื่องนี้ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล และฐานะ กมธ.การกฎหมายฯ ได้ทำเรื่องหารือ กมธ. ที่จะเชิญประธานศาลฎีกา มาชี้แจงด้วย แต่หลายฝ่ายออกมาติงเตือนเอาไว้ก่อน เพราะไม่มีอาจ และตามรัฐธรรมูญ ก็แบ่งแยกอำนาจกันอย่างชัดเจนระหว่าง อำนาจนิติบัญญัติและตุลาการ เรื่องจึงเงียบไป
แน่นอน, สิ่งที่สะท้อนให้เห็นก็คือ ขบวนการ 3 กีบ หรือม็อบ 3 นิ้ว ได้รับอิทธิพลทางความคิด ความเชื่อ หรือ ใช้ข้อมูล การเคลื่อนไหว จากนายสมศักดิ์ เจียมฯมาตลอด ไม่ว่าข้อมูลที่ได้มานั้น จะจริงหรือไม่ก็ตาม ดังตัวอย่างที่มีให้เห็นดังกล่าว และไม่แค่สองกรณีนี้เท่านั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อเรียกร้อง 10 ข้อ ที่ “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำขึ้นไปอ่านบนเวที “ธรรมศาสตร์ไม่ทน” โดยมีคนยัดกระดาษใส่มือให้ เมื่อ 10 ส.ค. 63 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต นัยว่า เป็นข้อเสนอที่ สมศักดิ์ เจียมฯ เคยเสนอมาก่อนแล้ว ถึง 7 ข้อ โดยมีการขยายเพิ่มเป็น 10 ข้อ
นี่แทบไม่ต้องสงสัยว่า ขบวนการ “อีแอบ” ม็อบ 3 นิ้ว มีการวางแผนเคลื่อนไหวเพื่อ “ปฏิรูปสถาบันฯ” มานานแล้ว และถ้าใครยังคิดว่า พวก “เพนกวิน-รุ้ง” คือ ตัวจริงต้นคิดอยู่แล้วละก็ เลิกคิดได้เลย ทั้งหมดมันกำลังเปิดเผยความจริงออกมาด้วยตัวพวกเขาเอง