xs
xsm
sm
md
lg

เจอแล้ว! “แพทย์หญิง” หมิ่นเบื้องสูง ถูกลากไส้ แฝงตัวสามกีบ “โรม” โยงมั่ว 3 นิ้วไม่ได้ประกัน-ผู้ปกครองไม่ดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ “แพทย์หญิงชื่อดัง” ส่อหมิ่นเบื้องสูง ขอบคุณภาพ จาก TRUTHFORYOU.CO
ฝีมือชาวเน็ต ลากไส้ “แพทย์หญิงชื่อดัง” แฝงตัวโพสต์ข้อความหมิ่นเหม่ถึงสถาบันฯ เอาใจสามกีบ จี้ “รพ.ต้นสังกัด” เร่งตรวจสอบ “โรม” แผ่นเสียงตกร่องสิทธิตามกฎหมาย โยงมั่ว-ออกทะเล 3 นิ้ว ไม่ได้ประกัน เพราะผู้ปกครองไม่ดี

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (10 พ.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ข้อความ ระบุว่า

“เพจดังลากไส้ “แพทย์หญิงชื่อดัง” แฝงตัวโพสต์ข้อความหมิ่นเหม่ถึงสถาบันฯ เอาใจสามกีบ ปชช.จี้ รพ.ต้นสังกัด เร่งตรวจสอบ!!
#เพจดังลากไส้ #แพทย์หญิงชื่อดัง #แฝงตัวหมิ่นสถาบันฯ=

ขอบคุณภาพ จาก TRUTHFORYOU.CO
พร้อมแชร์ เนื้อหาจาก TRUTHFORYOU.CO ว่า
“ล่าสุด ในวันที่ 10 พ.ค. 64 ทางด้านของ เพจสาธารณะชื่อ ข่าวโฉดNewS ได้โพสต์เรื่องราวที่เรียกได้ว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ มีชื่อบัญชีทวิตเตอร์ ที่ใช้ชื่อว่า #เรารักในหลวงกิลกาเมช @_Kielsan_ซึ่งมักจะมีการเขียนข้อความหมิ่นเหม่จาบจ้วงพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ อยู่บ่อยครั้ง รวมถึงเป็นบุคคลที่แก๊งสามกีบให้ความสนใจ และแชร์ทวีตเป็นอย่างมาก

ยกตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 63 ที่ผ่านมา @_Kielsan_ เคยโพสต์ข้อความว่า “เราถูกบังคับให้รัก ให้ศรัทธากันมาตลอด โดยไม่สามารถวิจารณ์ ไม่สามารถตรวจสอบได้ ถูกสอนกันมาแบบไม่ให้ตั้งคำถาม”

รวมถึงการจี้ให้รัฐบาล ตรวจสอบงบต่างๆ ของโครงการในพระราชดำริ ทั้งที่ความเป็นจริงก็ได้มีการแจกแจงเป็นปกติอยู่แล้ว

ที่น่าสนใจเข้าไปอีก คือ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ดังกล่าว ได้เผลอลงลิงก์เพจอาหารบนเฟซบุ๊กของตัวเองในประวัติเอาไว้ ซึ่งก็คือ เพจที่ชื่อว่า Eat With DR.K ซึ่งเป็นเพจเกี่ยวกับการรีวิวอาหาร โดยทางเพจ ข่าวโฉดNewS ก็ได้สืบทราบอีกว่า เพจอาหารดังกล่าวนั้น เป็นของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า “Nagi Poipoi”

ซึ่งที่น่าตกใจเข้าไปใหญ่ ก็คือ เฟซบุ๊กบัญชีดังกล่าวนั้นเป็นของแพทย์หญิงสาวสวยคนหนึ่ง ซึ่งเป็นวิสัญญีแพทย์ อยู่ที่ รพ. .... ซึ่งหลังจากที่ เพจสาธารณะชื่อ “ข่าวโฉดNewS” ได้ลงข้อมูลดังกล่าวไปแล้วนั้น ทำให้มีประชาชนเป็นจำนวนมาก เรียกร้องให้ ทางด้านของ รพ.ต้นสังกัด ควรมีการตรวจสอบและเคลื่อนไหว เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความเคลือบแคลงใจ

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ว่า โยคีไม่เพลย์บอย @mmay_sasaa เคยออกมาพูดในประเด็นของ พญ.ชื่อดังคนดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยโพสต์ข้อความสุดแรงว่า

“ยิ่งขุดยิ่งเสื่อม ความจริง
“หมอxx” พญ.วิสัญญีแพทย์ มีแนวคิดแง่ลบต่อสถาบัน พฤติกรรมเสื่อม “ชังชาติหนัก” ชี้นำสังคมไปในทางที่ผิด” พร้อมกับลงข้อความของหมอสาวคนดังกล่าว ที่ค่อนข้างมีความหมิ่นเหม่

ถึงอย่างไรก็ตามล่าสุดในขณะนี้ บัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าวได้ถูกลบออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

ภาพ นายรังสิมันต์ โรม จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรมของ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล โพสต์หัวข้อ “ร่วมจับตา การไต่สวน คำขอประกันตัวของเพนกวิน แอมมี่ และไมค์ ในวันที่บ้านเมืองปกครองด้วยคนไม่ดี”

โดยระบุว่า “ในวันพรุ่งนี้ (อังคารที่ 11 พฤษภาคม 2564) เวลา 10.00 น. มีการนัดไต่สวนของศาลอาญา รัชดาฯ กรณีคำร้องขอประกันตัวทั้งคุณเพนกวิน คุณแอมมี่ และ คุณไมค์

อย่างที่ได้เคยพูดไปแล้วหลายครั้งหลายครา ว่า สิทธิการประกันตัวนั้น เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ที่ผู้ต้องหาทุกคนพึงได้รับ และในกรณีของผู้ต้องหาคดีการเมืองฝ่ายราษฎรที่ถูกทำร้ายอยู่ในขณะนี้ ก็ล้วนแต่ไม่ได้รับความเป็นธรรมทั้งสิ้น ไม่ว่าจะอ้างว่า ปล่อยไปแล้วจะกระทำซ้ำ ทั้งที่คดีความนั้นก็ยังไม่ตัดสินว่าผิด จนกลายเป็นหนุนเสริมให้ผู้คนทำร้ายกันด้วยกันแจ้งความฟ้องร้องกราดไปทั่ว กล่าวหากันไว้ก่อน เปลี่ยนให้ความยุติธรรมกลายเป็นอาวุธทางการเมืองที่สามารถทำร้ายกันได้จริง และในทางการเมืองนั้นต่างก็รู้กันดีครับว่าเป็นการลดระดับเพดานข้อเรียกร้องที่ประชาชนล้วนเสี่ยงออกมาเรียกร้องกันตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งนั้น

ความบิดเบี้ยวเช่นนี้ล้วนเกิดขึ้นจากน้ำมือของผู้มีอำนาจ ที่ต้องการให้ประชาชนปฏิบัติตัวเป็นเสมือนคนทั้งบอดและใบ้ ที่ไม่ว่าจะได้เห็นหรือได้ยินอะไรก็ต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นและไม่พูดเพื่อความปลอดภัยของตนเองและคนรอบข้าง ซึ่งสังคมแบบนี้คือสังคมดิบเถื่อนที่ดูดีแต่ฉากหน้า เหมือนยาพิษเคลือบด้วยน้ำตาล และไม่มีใครปลอดภัยจากอำนาจเถื่อนที่ครอบคลุมเหนือรัฐได้อย่างแท้จริง

และยิ่งน่าเศร้าปนโกรธแค้นมากขึ้นไปอีก เมื่อเราต่างก็ตระหนักได้ว่า สังคมนี้ได้มาถึงจุดที่คนเรียกร้องความเท่าเทียมทางสังคม คนที่ออกมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ล้วนแต่เป็นเพียงคนตัวเล็กๆ ที่ต่างก็พยายามสุดกำลังของเขา กลับต้องมาเผชิญกับความอยุติธรรม ใช้ชีวิตในเรือนจำดั่งผู้กระทำความผิด จะพ้นเงื้อมมือของพวกมารได้ก็จำต้องก้มหัวให้กับความบิดเบี้ยวนั้น

แต่กับคนบางคน และกับกลุ่มคนบางจำพวก ขอเพียงอยู่ข้างที่ถูก ข้างที่ใช่ ก็สามารถเปลี่ยนผิดให้เป็นถูกได้เปลี่ยนคนค้ายาให้เป็นรัฐมนตรีได้ ไม่สนแม้ว่าคนทั่วโลกมองลงมาแล้วจะหัวเราะเยาะขนาดไหน สังคมจะเสียโอกาสมากเท่าไหร่ก็ตาม

ที่สุดแล้วบ้านเมืองนี้จึงกลายเป็นเพียง บ้านเมืองที่คนไม่ดีได้ปกครองบ้านเมือง และคอยกดขี่ควบคุมคนดีไม่ให้มีอำนาจเพื่อก่อความเจริญให้ชาติบ้านเมืองและสังคมของพวกเขาได้

เรามาร่วมกันจับตากันครับ ว่าผลการไต่สวนในวันพรุ่งนี้ ถึงคำขอสิทธิขั้นพื้นฐานของพวกเขาจะออกมาเป็นอย่างไร”...

ขอบคุณภาพ จากเฟซบุ๊ก Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม
อย่างไรก็ตาม พบว่า จนถึงขณะนี้ มีแกนนำ-แนวร่วมที่เคลื่อนไหวกับม็อบสามนิ้วที่ถูกดำเนินคดีและยื่นฟ้องในข้อหาความผิดต่างๆ เช่น ผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 - ฝ่าฝืน พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน หลายคนทยอยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวกันแล้ว

ไล่เรียงตามลำดับเวลา ก็มีเช่น ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ หมอลำแบงค์ ได้รับการปล่อยตัว เมื่อวันที่ 9 เม.ย. จากนั้นวันที่ 23 เม.ย. ศาลอาญาให้ประกันตัว สมยศ พฤกษาเกษมสุข และ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ถัดมาเป็นคิวของ “ปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ หัวหน้ากลุ่มการ์ดวีโว่ ที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้ประกันตัวเมื่อวันที่ 5 พ.ค. จากนั้นวันรุ่งขึ้น วันที่ 6 พ.ค. ศาลอาญาให้ปล่อยตัว “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ตามด้วยวันที่ 7 พ.ค. ศาลอาญาธนบุรีให้ปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ ตี้ พะเยา และเมื่อวันเสาร์ที่ 8 พ.ค. ศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งให้ประกันตัว “ฟ้า” พรหมศร วีระธรรมจารี แกนนำ กลุ่มราษฎรมูเตลู แต่จะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษธัญบุรีในวันที่ 11 พ.ค.นี้...(ข้อมูลจากไทยโพสต์)

แน่นอน, สิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า เหตุใดแกนนำ 3 นิ้ว จึงดื้อดึงต่อสู้ในแนวทางที่ขัดขืน ประท้วงอดข้าว ไม่ยอมรับขบวนการตามกฎหมาย ถอนทนายความ เพื่อเป็นการยืนหยัดต่อสู้เรียกร้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ และเชื่อว่า การไม่ได้ประกันตามสิทธิที่ควรได้ตามกฎหมาย เป็นเพราะการต่อสู้เรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ ซึ่งก็ยืนหยัดที่จะไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลเช่นกัน เพราะเชื่อว่า ศาลถูกสั่งมาจากคนภายนอก อย่างที่ส.ส.และนักการเมืองบางกลุ่มพยายามจะ “ดิสเครดิต” หรือ ทำลายความน่าเชื่อถือของศาลประจานไปทั่วโลก อย่างที่มีการเผยแพร่ข่าว

ทั้งหมด มาได้ข้อสรุปชัดเจนจากโพสต์ของ “โรม” ด้วยชุดความเชื่อที่ปลูกฝังเช่นนี้ จาก “อีแอบ” ที่อยู่เบื้องหลัง และการหนุนหลังให้แกนนำม็อบ อย่ายอมทำตามเงื่อนไขศาล เพราะจะเท่ากับเป็นการยอมลดเพดานการต่อสู้ “ปฏิรูปสถาบัน” โดยอ้างว่า พวกเขาสู้มาไกลแล้ว ยอมไม่ได้ หรือ ที่ยังคงแข็งขืน อย่างที่เห็นว่า หลังได้ประกันตัว แกนนำแต่ละคนจะแสดงออกถึงการไม่ยอมรับเงื่อนไขศาล และยังเคลื่อนไหวเหมือนเดิม

เพราะถ้าทำตามเงื่อนไขการได้ประกันตัวแต่โดยดี ซึ่งก็อยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ใช่ตามอำเภอใจของศาลแต่อย่างใด ก็ไม่จำเป็นต้องอดข้าวประท้วง ไม่จำเป็นต้องให้แม่ๆ เดือดร้อน หรือบางคนต้องโกนหัวประท้วงศาลด้วย แต่ทั้งหมด ก็น่าจะรู้เห็นเป็นใจกันมากกว่าหรือไม่ เพราะถ้าไม่ยอมรับแนวทางการต่อสู้ของลูกก็ต้องเกลี้ยกล่อมให้ยอมรับเงื่อนไขของศาล แต่นี่กลับแสดงออกในลักษณะกดดันศาล ทำให้เห็นว่า ศาลไร้เมตตา ไร้ความยุติธรรม และประจานให้เป็นข่าว

อย่างนี้ คงยากปฏิเสธว่า ไม่มี “อีแอบ” อยู่เบื้องหลัง ทั้งยังอดหวนคิดถึง สิ่งที่ “รุ้ง” เคยบอกว่า มีคนเอาข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบัน 10 ข้อมายัดใส่มือให้ขึ้นอ่าน ก่อนขึ้นเวทีธรรมศาสตร์ไม่ทน ที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 63 ไม่กี่นาที โดยที่เธอก็ยังไม่ทันตั้งตัว(จากการให้สัมภาษณ์ของเธอเอง) น่าจะเป็นอีกหลักฐานหนึ่งได้อยู่แล้ว

เล่นกันขนาดนี้นี่เอง คนไทยส่วนใหญ่จึงรับไม่ได้ และตัดสินการเลือกตั้งไปแล้วถึงสองครั้ง ที่คณะก้าวหน้า (อดีตลูกพี่ส.ส.โรม) แพ้เลือกตั้งนายก อบจ.และ นายกเทศมนตรี ว่า คนไทยไม่ยอมรับการปฏิรูปสถาบันฯ ทั้งยังจงรักภักดีอย่างสูงอยู่นั่นเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น