กลุ่ม “ประชาชนคนไทย” บุกหน้าสถานทูตสหรัฐฯ จี้ทำตัวเป็นกลางหยุดแทรกแซง ทำลายความมั่นคงไทย ชี้มีเจ้าหน้าที่ฯ สัมพันธ์กลุ่มการเมืองล้มสถาบันฯ อย่างใกล้ชิด แถมเกี่ยวข้ององค์กรปฏิบัติการลับ ซัดละเมิดสิทธิมนุษยชน-อธิปไตย ด้าน “นิติธร” เผยบี้ตัวแทนทูตตรวจสอบ-เปิดเผยปมแชตอักษรย่อ H
วันนี้ (20 เม.ย.) ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพฯ เมื่อเวลา 10.45 น. กลุ่มที่เรียกตนเองว่า ประชาชนคนไทย (ปท.) นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ, นายพิชิต ไชยมงคล และ นายภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ พร้อมด้วยมวลชนจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมายื่นแถลงการณ์กรณีการแทรกแซง ทำลายความมั่นคงไทย ต่อนายไมเคิล ฮีธ อุปทูต และรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานด้านการเมืองของสถานเอกอัครราชทูตฯ มารับหนังสือแทน
นายพิชิตได้ยืนอ่านแถลงการณ์หน้าสถานเอกอัครราชทูตฯ ก่อนมอบหนังสือ โดยมีใจความว่า ช่วงตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมาทางกลุ่มฯ ได้ติดตามสถานการณ์ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก ได้เห็นความล่มสลาย ความขัดแย้งของประชาชนในประเทศต่างๆ การเข้าครอบงำทางความคิดของประชาชน การสร้างแรงกดดันทางเศรษฐกิจ การอ้างต้องการให้เกิดประชาธิปไตยลดการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการปฏิบัติการทั้งด้านการทูตอย่างเปิดเผย ปฏิบัติการอย่างไร้มารยาททางการทูตบ้าง มีการจัดการผ่านองค์การพัฒนาด้านต่างๆ มีการจัดการโดยองค์กรลับบ้าง จนถึงที่สุดก็เข้าแทรกแซงด้านกำลังทหารและอาวุธเข้าควบคุมประเทศต่างๆ ยึดทรัพยากรจนประเทศเหล่านั้นล่มสลายในที่สุด การกระทำดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงที่สุด เสมือนว่าเป็นอาชญากรสงคราม
นายพิชิตอ่านต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามที่กล่าวมาแล้วปรากฏข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งภาพข่าวว่า สหรัฐฯ มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างสำคัญ ทั้งปรากฏการณ์เคลื่อนไหวทางการเมืองของหลากหลายกลุ่มในไทย แสดงเจตนาผ่านข้อเรียกร้องอย่างชัดเจนถึงความพยายามทำลายความมั่นคงของชาติ ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นศูนย์รวมที่รักยิ่งของไทย ก็ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ เข้ามามีส่วนสัมพันธ์กับกลุ่มเคลื่อนไหวดังกล่าวอย่างใกล้ชิดอย่างมีนัยสำคัญ อันทำให้เชื่อได้ว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน มีเป้าหมายร่วมกัน มีการประสานงานเป็นระบบอย่างต่อเนื่อง
“รวมทั้งที่ปรากฏข่าวกรณีนายเดวิด สเตร็คฟัสส์ และบุคคลอักษรย่อ H เมื่อสืบค้นข้อมูลก็ปรากฏว่า บุคคลดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มุ่งทำลายความมั่นคงของไทย ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งยังพบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับองค์กรที่ปฏิบัติการลับของสหรัฐฯ ถ้าหากความที่กล่าวข้างต้นเป็นจริง ทางกลุ่มฯ เห็นร่วมกันว่าเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ละเมิดอธิปไตยไทย ที่ชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด อันมิอาจยอมรับได้อีกต่อไป ทั้งจะถือว่าการกระทำดังกล่าวมิใช่การทำหน้าที่ในฐานะทูต แต่เป็นปฏิบัติการทางทหารโดยร่วมมือกับองค์กรลับของสหรัฐฯ เพื่อทำให้ไทยเข้าสู่ภาวะล่มสลาย” นายพิชิตกล่าว
แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทยกล่าวต่อว่า การปรากฏตัววันนี้เพื่อแสดงออกถึงการไม่ยอมรับ และขอประณามการกระทำดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาที่สุด พร้อมเรียกร้องให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวโดยทันที และขอให้ดำรงตนเป็นกลางอย่างมีอารยะอันสุจริตชนอย่างแท้จริงควรปฏิบัติ โดยขอให้หันมาร่วมมือทางการทูตอย่างสร้างสรรค์ สมกับที่ไทยและสหรัฐฯ ต่างเรียกกันว่ามหามิตร
ด้านนายนิติธรให้สัมภาษณ์ภายหลังยื่นหนังสือว่า ทางกลุ่มเดินทางมาสถานเอกอัครราชทูตฯ เป็นครั้งที่ 2 ก็ยังคงเป็นประเด็นเรื่องเดียวกันคือขอเรียกร้องให้ยุติการแทรกแซงความมั่นคงและบ่อนทำลายความมั่นคงของไทย ทั้งนี้พอเกิดกรณีข้อเท็จจริงของนายเดวิด และบุคคลอักษรย่อ H ก็ไปสืบค้นข้อมูลว่ามีความเกี่ยวข้องกับองค์กรที่มีการบริจาคเงิน เราจึงมาเรียกร้องในข้อเรียกร้องเดิมให้ยุติการกระทำแบบนี้
เมื่อถามถึงหลักฐานแชตการพูดคุยของบุคคลดังกล่าว นายนิติธรกล่าวว่า มันมีอยู่แล้ว แต่เราใช้คำว่าข้อเท็จจริงและถ้าหากเป็นความจริง ส่วนข้อมูลของนายเดวิดก็เป็นข้อมูลสาธารณะที่ปรากฏอยู่แล้วและมันทำให้สืบค้นได้ว่ามีองค์กรใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง และรับเงินสนับสนุนอย่างไรบ้าง และเราก็ติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ ก็จะปรากฏว่ามีบุคคลที่มีภารกิจในสถานทูตเข้าไปเยี่ยมเยียน เกี่ยวข้อง เราก็เรียกร้องตรงนี้ซึ่งไม่ควรทำ และเราก็จะเห็นว่าในนานาประเทศหลายๆ ประเทศก็ไม่ได้ทำอย่างที่อเมริกาทำ
ส่วนที่มีการอ้างว่าแชตดังกล่าวเป็นของปลอมนั้น นายนิติธรกล่าวว่า ตนไม่ทราบและไม่ยืนยันข้อเท็จจริง เมื่อกี้ตนก็คุยกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่าเขาก็ต้องตรวจสอบและเปิดเผยอย่างชัดเจน ในขณะเดียวกันเราก็ต้องตรวจสอบ แต่ว่าเมื่อปรากฏข้อเท็จจริงแบบนี้ มันเป็นข้อเท็จจริงที่น่ากังวลและน่าเป็นห่วง เราจึงมายื่นหนังสือตรงนี้
ก่อนที่นายนิติธรจะร่วมร้องเพลงกับมวลชนแล้วแยกย้ายกลับโดยสงบ