xs
xsm
sm
md
lg

In Clip: เซ็งแซ่! “ทหารพม่า” เรียกเงินญาติผู้ประท้วง “แสนจ๊าด” แลกกับได้ศพกลับบ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ – กองทัพพม่าเรียกเก็บเงินสูงถึง 85 ดอลลาร์ หรือ 120,000 จ๊าด (2,680 บาท)เพื่อที่จะอนุญาตให้ญาติเหยื่อผู้ประท้วงที่เสียชีวิตจากฝีมือเจ้าหน้าที่ความมั่นคงพม่าวันศุกร์(9 เม.ย)ที่ผ่านมา สามารถรับศพกลับได้

CNN สื่อสหรัฐฯรายงานวันนี้(12 เม.ย)ว่า การกวาดล้างวันศุกร์(9)ที่เมืองบาโก ซึ่งตั้งห่างจากเมืองย่างกุ้งไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 90 กิโลเมตรและมีผู้ประท้วงเสียชีวิต 82 คน เกิดขึ้นจากฝีมือของกองกำลังความมั่นคงของกองทัพพม่า กลุ่มสมาพันธ์สนับสนุนนักโทษการเมืองพม่า AAPP

ทั้งนี้กองกำลังความมั่นคงประกอบไปด้วยตำรวจ ทหาร และหน่วยพิเศษต่อต้านกบฎพม่าได้จัดการกวาดล้างอย่างมีระบบต่อบรรดาผู้ประท้วงรัฐประหารอย่างสันติและไร้อาวุธ ควบคุมฝ่ายตรงข้ามแล้วร่วม 3,000 คน ส่งผลทำให้บรรดานักเคลื่อนไหวต้องหลบซ่อนตัว ซึ่งที่ผ่านมาจนถึงล่าสุด AAPP ชี้ว่ามีผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่เริ่มการรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ แล้วกว่า 700 คน
AAPP แถลงว่า กองทัพพม่ายิงกลุ่มผู้ประท้วงต้านการรัฐประหารในเมืองบาโกวันศุกร์(9)ด้วย ปืนไรเฟิล อาร์พีจี และระเบิดมือ

แหล่งข่าวซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองบาโกให้สัมภาษณ์กับ CNN ในวันอาทิตย์(11) ว่า ชาวเมืองส่วนมากหลบไปอยู่ที่หมู่บ้านอื่นตั้งแต่การกวาดล้างวันศุกร์(9) และตั้งแต่วันกวาดล้างพบว่าสัญญาณอินเตอร์เนตถูกตัดลง และกองกำลังความมั่นคงเข้ามาค้นหาในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง

ขณะที่สหภาพนักศึกษามหาวิทยาลัยบาโกได้กล่าวผ่านทางเฟซบุ๊กล่าสุดว่า กองทัพพม่าตั้งค่ารับศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์วันศุกร์(9)ที่ 120,000 จ๊าด หรือราว 85 ดอลลาร์ (2,680 บาท) แก่บรรดาญาติผู้เสียชีวิต

ขณะที่วิทยุเสรีเอเชียภาคให้บริการเมียนมาได้รายงานตรงกันกับของสหภาพนักศึกษามหาวิทยาลัยบาโกแต่ทว่าทาง CNN ยังไม่สามารถยืนยันในเรื่องนี้ได้

ด้านสถานทูตสหรัฐฯประจำพม่าออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงในวันอาทิตย์(11) โดยชี้ไปที่ความสูญเสียที่เมืองบาโกและทั่วประเทศซึ่งทางกองกำลังได้ใช้อาวุธต่อพลเรือนของตัวเอง

ขณะที่สุดสัปดาห์ล่าสุด พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ได้ออกมาแสดงความเห็นการปกป้องการทำรัฐประหารว่า โดยอ้างว่าไม่ได้ยึดอำนาจแต่เป็นการใช้มาตรการเพื่อการทำให้ระบอบประชาธิปไตยแบบหลายฝ่ายนั้นมีความแข็งแกร่ง อ้างอิงจากโกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมา (Global New Light of Myanmar)






กำลังโหลดความคิดเห็น