“อนุทิน” ยันผู้เสียชีวิตไม่เกี่ยวฉีดวัคซีนโควิด แจง “มนัญญา” ไข้ขึ้นพักผ่อนน้อย ไม่ใช่อาการข้างเคียง ขอประชาชนมั่นใจ ชี้เปิดประเทศได้ต้องฉีดวัคซีนแล้ว 5-10 ล้านคน
วันนี้ (26 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีผู้เสียชีวิตภายหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้หารือกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและคณะที่ปรึกษา ยืนยันไม่ได้มาจากวัคซีน ซึ่งอธิบดีกรมควบคุมโรคจะแถลงชี้แจงรายละเอียดอีกครั้งเพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก ทั้งนี้ ย้ำว่าผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนทุกชนิดในโลกเกิดขึ้นได้หมด มากบ้างน้อยบ้าง เป็นเรื่องปกติที่ยอมรับได้อยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณี น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่มีอาการไข้จนต้องเข้าโรงพยาบาลนั้น นายอนุทินกล่าวว่า ได้สอบถามตั้งแต่วันแรกแล้ว รัฐมนตรีทุกคนอาจมีภาวะร่างกายอ่อนเพลียเพราะพักผ่อนน้อย ดังนั้นจึงมีหลายปัจจัย เพราะวัคซีนอย่างเดียวคงทำอะไรไม่ได้ อย่างนายกรัฐมนตรีฉีดมาก็อารมณ์ดี ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หลังฉีดก็ยังร่างกายแข็งแรง
อย่างไรก็ตาม น.ส.มนัญญา อาการไม่ได้รุนแรงจนถึงขั้นต้องผ่าตัดหรือปั๊มหัวใจ มีเพียงไข้และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลหนึ่งวันก็ออกมา ยืนยันไม่ใช่อาการข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน ดังนั้น สาเหตุจึงอาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย เช่น อาการเครียดก็มีผลต่อร่างกาย แต่ย้ำว่าทุกคนจะต้องฉีดวัคซีน เพราะมีข้อมูลด้านสาธารณสุขยืนยันว่าการฉีดวัคซีน แม้จะไม่รับประกันว่าจะติดเชื้อโควิดได้อีก แต่อย่างน้อยก็จะไม่ทำให้อาการของโรคกำเริบ รุนแรงจนถึงทำให้เสียชีวิต
เมื่อถามต่อว่าจะให้ความมั่นใจกับประชาชนได้อย่างไร นายอนุทินกล่าวย้ำว่า ไม่ถึงตายร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นการศึกษาและทดลองจากผู้ผลิตวัคซีน และสถาบันทางการแพทย์ชั้นนำของโลก ส่วนการกระจายวัคซีนโควิดเพื่อรองรับการเปิดประเทศหลังสถานการณ์ดีขึ้นนั้น ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำลังตรวจสอบมาตรฐานวัคซีน ซีโนแวค 8 แสนโดสที่เพิ่งเข้ามา คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะทยอยกระจายไปยังพื้นที่เป้าหมาย เช่น ภูเก็ต 1 แสนโดส, สมุทรสาคร 1 แสนโดส, กทม.1 แสนโดส และเกาะสมุย 5 หมื่นโดส อย่างไรก็ตาม ในเดือน เม.ย.ก็จะมีวัคซีนที่เข้ามาอีก 1 ล้านโดสจะกระจายให้ได้มากขึ้น นอกจากนี้ ในช่วงเดือนปลายเดือนเม.ย.-พ.ค.ก็จะมีวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้าที่เข้ามาอีก ก็จะทยอยฉีดให้กับประชาชน แต่ก็ต้องวิงวอนกราบเท้าประชาชนทุกคนให้มาฉีดวัคซีน อย่ากลัวเพื่อให้เท่ากับจำนวนวัคซีนที่เข้ามาในแต่ละเดือน
เมื่อถามอีกว่า จ.ภูเก็ตจะสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติภายใน 1 ก.ค.ได้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เราทำทุกอย่างที่ควรจะทำก่อน และพิจารณาผลตอบสนองกับสิ่งที่ทำ จากนั้นมาตรการต่างๆ ก็จะออกมา อย่างวันนี้มีผู้ที่ได้รับวัคซีน 8 หมื่นคน ก็จะมีการติดตามว่ามีภูมิคุ้มกันในระดับใดก็จะพิจารณาการผ่อนคลายตามความเหมาะสม ทั้งการเปิดเมือง เช่น ภูเก็ต ฉีดวัคซีนได้ 1 แสนคนก็สามารถเปิดได้ เป็นต้น ส่วนถ้าแผนวัคซีนเป็นไปตามเป้า คาดว่าจะสามารถเปิดประเทศได้ในช่วงเดือนใด นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ต้องรอให้ถึงคนที่ 60 ล้านแล้วค่อยเปิด แต่คาดว่าหากมีการฉีดถึง 5-10 ล้านคนก็สามารถเปิดได้ แต่ไม่ขอพูดล่วงหน้าว่าจะเป็นช่วงเดือนใด ต้องรอการประเมินจากฝ่ายการแพทย์ก่อน
นายอนุทินกล่าวถึงวัคซีนของจอนห์สันแอนด์จอนห์สัน ที่ผ่านการรับรองจาก อย.แล้วว่าจะสามารถฉีดให้แก่ประชาชนได้เมื่อใดนั้น ขึ้นอยู่ว่าทางจอนห์สันฯ จะขายให้รัฐบาลหรือไม่ ซึ่งการขึ้นทะเบียนเป็นการพิสูจน์ว่าไม่ได้ปิดกั้นการขึ้นทะเบียนของยี่ห้ออื่น และไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งรัฐบาลได้เจรจากับทางจอนห์สันฯ ขอให้นำเข้าไทยเดือนหน้าได้หรือไม่ เพราะเป็นช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องการวัคซีนก่อนที่ของแอสตร้าฯ ซึ่งเป็นวัคซีนหลักจะเข้ามาในเดือนมิถุนายน เพราะเมื่อเวลานั้นไทยจะไม่มีความต้องการวัคซีนในจำนวนมากแล้ว ซึ่งทางจอนห์สันฯ ระบุว่าจำสามารถนำเข้าวัคซีนให้ไทยได้ในช่วงไตรมาศ 4 ซึ่งถึงเวลานั้นไทยสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้เพียงพอแล้ว แต่อย่างน้อยก็จะเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนได้อีกทางหนึ่ง