ศบค.เผยไทยติดเชื้อโควิดเพิ่ม 90 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม คลัสเตอร์ตลาดบางแค เจออีก 17 ราย รวมยอดพุ่งไป 384 ราย ส่วนที่แคมป์คนงานก่อสร้าง สมุทรปราการ มีติดเชื้อ 17 ราย เผยมีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 6 หมื่นราย
วานนี้ (21 มี.ค.) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในประเทศ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 90 ราย เป็นผู้ป่วยที่ตรวจพบจากระบบเฝ้าระวัง และระบบบริการ 45 ราย และจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 36 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 9 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกทม. โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก รายงานสถานการณ์ว่า ผลการตรวจเชิงรุกในพื้นที่เขตบางแค กทม. พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 17 ราย ตรวจเชิงรุกเพิ่มอีก 3,123 ราย รวมตรวจแล้วทั้งสิ้น 15,494 ราย พบผู้ติดเชื้อรวม (+) 384 ราย ไม่ติดเชื้อรวม (-) 12,148 ราย รอผลการตรวจรวม 2,962 ราย
ทั้งนี้ จำนวน 384 ราย แยกได้ ดังนี้ ตลาดวันเดอร์ ตลาดคลองขวาง และ ตลาดใกล้เคียง 309 ราย ชุมชนใกล้เคียง 26 ราย หน่วยบริการตรวจ ณ ชุมชนนิมมานรดี 23 ราย หน่วยบริการตรวจ ณ บริเวณสวนสาธารณะ ข้างเดอะมอลล์บางแค 22 ราย หน่วยบริการตรวจ ณ โลตัสบางแค 17 ราย
แคมป์คนงานสมุทรปราการเจอ17 ราย
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค สธ. เปิดเผยถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มก้อน จ.สมุทรปราการว่า ยอดผู้ติดเชื้อในแคมป์คนงานก่อสร้าง อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อรวมแล้ว 17 ราย ซึ่งจุดเริ่มต้นของคลัสเตอร์นี้ มาจากคนงานก่อสร้างเพศหญิง ชาวกัมพูชา อายุ 29 ปี ที่ทำงานอยู่ในแคมป์ก่อสร้าง ย่านสุขุมวิท 117 ต.บางเมืองใหม่ โดยเมื่อวันที่13 มี.ค. ผู้ป่วยรายนี้เดินทางไปขอตรวจโควิด-19 ที่ รพ.แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพื่อขอใบอนุญาตต่ออายุการทำงาน ผลพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารับการรักษาตัวที่รพ.ในกรุงเทพฯ
จากนั้นทีมสอบสวนโรคได้เข้าไปตรวจเชิงรุก ในแคมป์คนงาน ที่สุขุมวิท 117 และแคมป์คนงานที่สุขุมวิท 107 รวมพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 16 ราย เป็นคนงานไทย 4 ราย , กัมพูชา 10 ราย และเมียนมา 2 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้รักษาตัวอยู่ใน รพ.ของรัฐ ที่ จ.สมุทรปราการ ส่วนการตรวจหาเชื้อในผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เช่น คนงานที่อยู่ในแคมป์ 584 คน และหอพักบางแค 14 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ ส่วนวิศวกร 29 คน ผลตรวจไม่พบเชื้อ 23 ราย ยังเหลืออีก 6 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ
ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้พบมีการระบาดในแคมป์คนงานก่อสร้าง มี 2 เรื่องสำคัญ คือ 1. ภายในแคมป์ที่พักและไซต์ก่อสร้าง มีการใช้งานพื้นที่และสิ่งของร่วมกัน เช่น อ่างชะล้าง , ห้องสุขารวม , ห้องอาบน้ำรวม และตู้กดน้ำดื่ม เป็นต้น 2. พนักงานคนไทยมีการฝ่าฝืนมาตรการของบริษัท โดยไปพื้นที่เสี่ยงเพื่อสังสรรค์ หลังจากนั้น บริษัทจึงให้กลุ่มดังกล่าวออกจากงาน และพบว่ามี 1 ราย ตรวจพบเชื้อโควิด
ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 62,941ราย
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด ว่า มีความคืบหน้าตามแผน โดยจัดส่งให้จังหวัดเป้าหมายเบื้องต้น ครบทั้ง 13 จังหวัด ระยะที่ 1 รอบแรก ได้แก่ Sinovac 116,520 โดส และ AstraZeneca 10,000โดส ให้หน่วยบริการใน จ.สมุทรสาครแล้ว ทั้งนี้ ยังมีแผนจัดส่งวัคซีน Sinovacให้พื้นที่ กรุงเทพฯ และสมุทรสาคร
สำหรับจำนวนผู้ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.- 19 มี.ค.64 รวม 62,941 ราย ได้แก่ บุคลากรการ แพทย์/สาธารณสุข อสม. รวม 31,066 ราย เจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 7,147ราย บุคคลที่มีโรคประจำตัว 4,182 ราย ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 35 ราย และประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 20,511 ราย และขณะนี้ มีวัคซีนที่อยู่ในประเทศแล้ว 317,600 โดส ประกอบด้วย Sinovac 200,000 โดส และ AstraZeneca 117,600โดส ได้ผ่านการตรวจสอบจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เรียบร้อยแล้ว และในเดือนนี้จะมี Sinovacเข้ามาอีก 800,000 โดส โดยมีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เป็นผู้พิจารณาผู้ที่เหมาะสมในการได้รับวัคซีน
เกาะสมุยนำร่องรับนทท.ต่างชาติ
นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย ในฐานะปธ.ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค อ.เกาะสมุย ประชุมคณะกรรมการเพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเกาะสมุย โดยมี นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ประสานงานกับศบค. หลังจากได้รับพิจารณาในหลักการ ให้เป็นสถานที่แรกให้เป็นต้นแบบในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย
โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าเกาะสมุย จะถูกคัดกรอง กักตัวตามขั้นตอน ดังนี้
วันที่ 1 เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึง จะถูกนำตัวเข้าที่พัก ด้วยระบบปิดจากสนามบิน ถึงโรงแรม วันที่ 2 ถึงวันที่ 3 จะทำการ SWAB เก็บตัวอย่างหาเชื้อในโพรงจมูก และในช่องปาก โดยจะทราบผลตรวจเชื้อโควิด ภายใน 3 ชม. ซึ่งนักท่องเที่ยวยังอยู่ในห้องพัก ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุม และหากไม่พบเชื้อ ในวันที่ 4 ถึงวันที่ 7 จะได้รับอนุญาตให้เที่ยวได้ตามพื้นที่ ที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค อ.เกาะสมุย กำหนด โดยในวันที่ 7 เจ้าหน้าที่จะทำการ SWAB เพื่อหาเชื้ออีกครั้ง หากตรวจไม่พบเชื้อ นักท่องเที่ยวจะสามารถเปลี่ยนที่พัก และท่องเที่ยวภายในเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่าได้ เมื่อครบ 14 วัน นักท่องเที่ยวจึงจะสามารถเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัด เพื่อท่องเที่ยวได้ตามปกติ
สำหรับโรงแรมที่รองรับนักท่องเที่ยว ที่เข้าพักจะต้องเป็นโรงแรมที่ผ่านการรับรองจากศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค อ.เกาะสมุย ไม่มีการปะปนกับบุคคลทั่วไป และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าเกาะสมุยทุกคนจะต้องสแกนคิวอาร์โค๊ดสมุยเฮลธ์พาส เพื่อความสะดวกต่อการติดตามประวัติประจำตัว โดยทุกขั้นตอนของการเดินทางเข้าเกาะสมุย จะมีการควบคุมอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ คาดว่าวันที่ 1 ก.ค.64 จะเป็นเที่ยวบินแรก ที่จะนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเกาะสมุย
วานนี้ (21 มี.ค.) ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อในประเทศ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 90 ราย เป็นผู้ป่วยที่ตรวจพบจากระบบเฝ้าระวัง และระบบบริการ 45 ราย และจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 36 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 9 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกทม. โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก รายงานสถานการณ์ว่า ผลการตรวจเชิงรุกในพื้นที่เขตบางแค กทม. พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 17 ราย ตรวจเชิงรุกเพิ่มอีก 3,123 ราย รวมตรวจแล้วทั้งสิ้น 15,494 ราย พบผู้ติดเชื้อรวม (+) 384 ราย ไม่ติดเชื้อรวม (-) 12,148 ราย รอผลการตรวจรวม 2,962 ราย
ทั้งนี้ จำนวน 384 ราย แยกได้ ดังนี้ ตลาดวันเดอร์ ตลาดคลองขวาง และ ตลาดใกล้เคียง 309 ราย ชุมชนใกล้เคียง 26 ราย หน่วยบริการตรวจ ณ ชุมชนนิมมานรดี 23 ราย หน่วยบริการตรวจ ณ บริเวณสวนสาธารณะ ข้างเดอะมอลล์บางแค 22 ราย หน่วยบริการตรวจ ณ โลตัสบางแค 17 ราย
แคมป์คนงานสมุทรปราการเจอ17 ราย
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค สธ. เปิดเผยถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มก้อน จ.สมุทรปราการว่า ยอดผู้ติดเชื้อในแคมป์คนงานก่อสร้าง อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อรวมแล้ว 17 ราย ซึ่งจุดเริ่มต้นของคลัสเตอร์นี้ มาจากคนงานก่อสร้างเพศหญิง ชาวกัมพูชา อายุ 29 ปี ที่ทำงานอยู่ในแคมป์ก่อสร้าง ย่านสุขุมวิท 117 ต.บางเมืองใหม่ โดยเมื่อวันที่13 มี.ค. ผู้ป่วยรายนี้เดินทางไปขอตรวจโควิด-19 ที่ รพ.แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เพื่อขอใบอนุญาตต่ออายุการทำงาน ผลพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงเข้ารับการรักษาตัวที่รพ.ในกรุงเทพฯ
จากนั้นทีมสอบสวนโรคได้เข้าไปตรวจเชิงรุก ในแคมป์คนงาน ที่สุขุมวิท 117 และแคมป์คนงานที่สุขุมวิท 107 รวมพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 16 ราย เป็นคนงานไทย 4 ราย , กัมพูชา 10 ราย และเมียนมา 2 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้รักษาตัวอยู่ใน รพ.ของรัฐ ที่ จ.สมุทรปราการ ส่วนการตรวจหาเชื้อในผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เช่น คนงานที่อยู่ในแคมป์ 584 คน และหอพักบางแค 14 คน ไม่พบผู้ติดเชื้อ ส่วนวิศวกร 29 คน ผลตรวจไม่พบเชื้อ 23 ราย ยังเหลืออีก 6 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ
ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้พบมีการระบาดในแคมป์คนงานก่อสร้าง มี 2 เรื่องสำคัญ คือ 1. ภายในแคมป์ที่พักและไซต์ก่อสร้าง มีการใช้งานพื้นที่และสิ่งของร่วมกัน เช่น อ่างชะล้าง , ห้องสุขารวม , ห้องอาบน้ำรวม และตู้กดน้ำดื่ม เป็นต้น 2. พนักงานคนไทยมีการฝ่าฝืนมาตรการของบริษัท โดยไปพื้นที่เสี่ยงเพื่อสังสรรค์ หลังจากนั้น บริษัทจึงให้กลุ่มดังกล่าวออกจากงาน และพบว่ามี 1 ราย ตรวจพบเชื้อโควิด
ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 62,941ราย
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด ว่า มีความคืบหน้าตามแผน โดยจัดส่งให้จังหวัดเป้าหมายเบื้องต้น ครบทั้ง 13 จังหวัด ระยะที่ 1 รอบแรก ได้แก่ Sinovac 116,520 โดส และ AstraZeneca 10,000โดส ให้หน่วยบริการใน จ.สมุทรสาครแล้ว ทั้งนี้ ยังมีแผนจัดส่งวัคซีน Sinovacให้พื้นที่ กรุงเทพฯ และสมุทรสาคร
สำหรับจำนวนผู้ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.- 19 มี.ค.64 รวม 62,941 ราย ได้แก่ บุคลากรการ แพทย์/สาธารณสุข อสม. รวม 31,066 ราย เจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 7,147ราย บุคคลที่มีโรคประจำตัว 4,182 ราย ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 35 ราย และประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 20,511 ราย และขณะนี้ มีวัคซีนที่อยู่ในประเทศแล้ว 317,600 โดส ประกอบด้วย Sinovac 200,000 โดส และ AstraZeneca 117,600โดส ได้ผ่านการตรวจสอบจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เรียบร้อยแล้ว และในเดือนนี้จะมี Sinovacเข้ามาอีก 800,000 โดส โดยมีคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เป็นผู้พิจารณาผู้ที่เหมาะสมในการได้รับวัคซีน
เกาะสมุยนำร่องรับนทท.ต่างชาติ
นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย ในฐานะปธ.ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค อ.เกาะสมุย ประชุมคณะกรรมการเพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเกาะสมุย โดยมี นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย ประสานงานกับศบค. หลังจากได้รับพิจารณาในหลักการ ให้เป็นสถานที่แรกให้เป็นต้นแบบในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย
โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าเกาะสมุย จะถูกคัดกรอง กักตัวตามขั้นตอน ดังนี้
วันที่ 1 เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึง จะถูกนำตัวเข้าที่พัก ด้วยระบบปิดจากสนามบิน ถึงโรงแรม วันที่ 2 ถึงวันที่ 3 จะทำการ SWAB เก็บตัวอย่างหาเชื้อในโพรงจมูก และในช่องปาก โดยจะทราบผลตรวจเชื้อโควิด ภายใน 3 ชม. ซึ่งนักท่องเที่ยวยังอยู่ในห้องพัก ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุม และหากไม่พบเชื้อ ในวันที่ 4 ถึงวันที่ 7 จะได้รับอนุญาตให้เที่ยวได้ตามพื้นที่ ที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค อ.เกาะสมุย กำหนด โดยในวันที่ 7 เจ้าหน้าที่จะทำการ SWAB เพื่อหาเชื้ออีกครั้ง หากตรวจไม่พบเชื้อ นักท่องเที่ยวจะสามารถเปลี่ยนที่พัก และท่องเที่ยวภายในเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่าได้ เมื่อครบ 14 วัน นักท่องเที่ยวจึงจะสามารถเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัด เพื่อท่องเที่ยวได้ตามปกติ
สำหรับโรงแรมที่รองรับนักท่องเที่ยว ที่เข้าพักจะต้องเป็นโรงแรมที่ผ่านการรับรองจากศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค อ.เกาะสมุย ไม่มีการปะปนกับบุคคลทั่วไป และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าเกาะสมุยทุกคนจะต้องสแกนคิวอาร์โค๊ดสมุยเฮลธ์พาส เพื่อความสะดวกต่อการติดตามประวัติประจำตัว โดยทุกขั้นตอนของการเดินทางเข้าเกาะสมุย จะมีการควบคุมอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ คาดว่าวันที่ 1 ก.ค.64 จะเป็นเที่ยวบินแรก ที่จะนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเกาะสมุย