xs
xsm
sm
md
lg

กฎหมู่! “ดร.อานนท์” ซัด “เด็กทอน” ชี้เป้าบูลลี่ผู้พิพากษา “สุวินัย” ทุกข์ซ้อนทุกข์ “ศรีสุวรรณ” อดข้าวกดดันไม่มีผล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (ลูกพี่ใหญ่) ผู้จุดประกายม็อบ 3 นิ้ว จากแฟ้ม
จาก “ปฏิรูปสถาบันฯ” สู่ ช่วยแกนนำ 3 นิ้วให้ได้ประกัน “ดร.อานนท์” จวกเละ “เด็กทอน” ชี้เป้า “บูลลี่” ผู้พิพากษา “สุวินัย” ยกทุกข์ซ้อนทุกข์ โทษทุกอย่างเว้นตัวเอง “มหกรรมดิ้น” ม็อบปล่อยเพื่อนกู อดข้าวประท้วง “ศรีสุวรรณ” ฟันธงไม่มีผล

ภาพ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ จากแฟ้ม
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (20 มี.ค. 64) ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ว่า

“ธนาพล อิ๋วสกุล ไม่สมควรจะทำเช่นนี้ cyberbully.ตุลาการที่ไม่ให้ประกันตัวพวกสามกีบ มันคือการล่าแม่มดและเสียบประจาน ทำให้ตุลาการไม่ปลอดภัยและชี้เป้าให้ไปขู่ทำร้ายตุลาการหรือไม่ สังคมเสรีประชาธิปไตยของสามสัสหรือสามกีบคือทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจหรือ?”

ทั้งนี้ โพสต์ของ ดร.อานนท์ สืบเนื่องจาก นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการนิตยสารฟ้าเดียวกัน และเป็นลูกน้องคนสนิท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์รูปภาพ ผู้พิพากษา ชนาธิป เหมือนพะวงศ์ พร้อมข้อความระบุว่า “ชนาธิป เหมือนพะวงศ์ อีกแล้วครับท่าน ไม่ให้ประกันจำเลย 112 ทุกคดีแม้จำเลยจะตกในอันตราย” (ไทยโพสต์)

ภาพ ดร.สุวินัย ภรณวลัย จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หัวข้อ “ทุกข์ซ้อนทุกข์ของคนทุกข์”

โดยระบุว่า “ไม่มีทุกข์ทางใจอันไหนที่สาหัสเท่ากับความผิดหวัง ไม่ว่าจะผิดหวังในเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องบ้านเมือง

การไม่ได้ดั่งใจเป็นความทุกข์ยิ่งของอัตตาตัวตน

#ผมได้ยินเสียงโวยวายของผู้คนจำนวนมากในโซเชียลทุกวัน ที่เผยให้เห็นทุกข์ทางใจที่ว่านี้

ทุกข์จริง แต่ไม่รู้ทุกข์ และไม่เห็นทุกข์ทางใจของตัวเอง คือ ทุกข์ซ้อนทุกข์ ... ที่ยิ่งทำให้ทุกข์มากจนดิ้นไม่มีทางหลุด

ต่อให้โทษรัฐบาล โทษโครงสร้าง โทษสถาบันฯ โทษนักการเมือง ฯลฯ

ก็ขอถามกลับว่า “แล้วยังไง?”

ใจที่เกลียดชัง เกลียดทุกอย่างไปหมด ใจที่โทษทุกอย่างไปหมด ยกเว้นตัวเอง

#ใจแบบนี้อยู่ที่ไหนก็ทุกข์ #ไม่ว่าเวลาไหนก็ทุกข์อยู่ดี

“เวลาไม่เคยอยู่ข้างคนทุกข์!!”

และ “อนาคตก็ไม่เคยอยู่ข้างคนทุกข์!!”

นี่คือการหลอกตัวเอง ปลอบใจตัวเองในตอนนี้ไปวันๆ เท่านั้น

“คนทุกข์ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอะไรได้จริงหรอก ไม่ว่าเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องบ้านเมือง”

เสียงโวยวายของคนทุกข์ที่เอาแต่ใจตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ไม่มีผู้มีอำนาจคนไหนล้างหูตั้งใจฟังอย่างจริงใจหรอก

ถ้าจะมีก็คือพระอวโลกิเตศวรและอณูของท่านเท่านั้นแหละ ที่จะใส่ใจฟัง และชี้ทางสว่างให้”

ภาพ จากเพจเฟซบุ๊ก ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย - Coalition of Salaya for Democracy
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย - Coalition of Salaya for Democracy หนึ่งในแนวร่วมกลุ่มคณะราษฎร โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

#ม็อบ 20 มีนา

#ประสงค์ราษฎรส่งถึงกรมราชทัณฑ์

ให้ปล่อยเพื่อนกู!

กลุ่มศาลายาเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกับ ม็อบ #REDEM และอื่นๆ อีกมากมาย

ม็อบโดยประชาชน เลือกโดยประชาชน!

“เมื่อกฎหมายไม่มีความยุติธรรม การต่อต้านจึงเป็นคำตอบ” #ยกเลิก 112

กฎหมา(ย) ที่หาความเป็นธรรมไม่ได้!

พบกับ กิจกรรมเขียนป้ายผ้าสีขาวผืนยาว

“ปล่อยเพื่อนกู” เพื่อนำไปแขวนที่หน้าเรือนจำ

ในวันที่ 25 มีนาคม 2564

ณ สนามราษฎร์ พร้อมกัน เวลา 18:00 น.!!

นอกจากนี้ กรณี นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “ราษฎร” ได้ประกาศอดอาหารประท้วงภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ภายหลังอ้างว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากศาล ที่ไม่อนุญาตให้ประกันตัวนั้น

ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นทนายความของแกนนำราษฎร โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

“...พวกผมกำลังจะอดอาหารประท้วงเหมือนเพนกวิน...” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เสียงดังจากนักสู้ในแดนตาราง ผมโคตรนับถือพวกคุณเลย

สำหรับ นายพริษฐ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” ที่ประท้วงอดอาหาร นับถึงวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 แล้ว (ไทยโพสต์)

ภาพ นายศรีสุวรรณ จรรยา จากแฟ้ม
ที่สำคัญ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า

“ศาลไม่ให้ประกันตัวกลุ่มแกนนำราษฎร คือ ความเมตตาของศาล

“ราษฎร” ทั้งหลาย โปรดจำไว้ว่า การที่ศาลหรือท่านผู้พิพากษา ไม่อนุญาตให้พวกท่านประกันตัวออกมาสู้คดีนั้น ถือเป็นความเมตตาที่สูงส่งของท่านผู้พิพากษาแล้ว อย่าไปตำหนิท่านเลยว่าเลือกปฏิบัติ หรือไม่มีความเป็นธรรม เพราะท่านเคยให้โอกาสพวกท่านแล้วในการประกันตัวในชั้นสอบสวนของตำรวจ แต่พวกท่านกลับไม่สำนึก พอได้รับการประกันตัวกลับออกมาชุมนุมประท้วง ทำผิดกฎหมายเพิ่มเข้าไปอีกหลายกระทง

ดังนั้น ด้วยความเมตตาของท่านผู้พิพากษาหรือศาล จึงช่วยพวกท่านในทางอ้อม คือ ไม่ให้ประกันตัวเสีย เพราะถ้าประกันตัวออกมามีการพิสูจน์แล้วว่าจะกลับไป “ทำผิดซ้ำซาก” อีก ถูกเพิ่มข้อหา เพิ่มกระทงความผิดอีกมากมายเหลือคณานับ

หลายคน หลายกลุ่ม ที่ได้ประกันตัวออกมาศาลท่านพิเคราะห์แล้วว่า จะออกมาสู้คดีและไม่กลับไปข้องแวะหรือกระทำผิดซ้ำซากอีก ท่านก็จะเมตตาให้ประกันตัว ซึ่งถือว่า เป็นดุลพินิจของท่านตามกรอบ ป.วิ อาญา นั่นเอง

ตราบใดที่พวกท่าน ไม่แสดงให้ท่านผู้พิพากษาหรือศาลได้เห็นว่า ท่านจะออกมาสู้คดีโดยไม่กลับไปทำผิดซ้ำซากอีก ท่านอาจจะเมตตาให้ประกันตัวก็ได้ แต่การมาอดข้าวประท้วง ก็ยิ่งตอกย้ำที่จะต้องปิดประตูโอกาสในการให้ประกันแน่นอน

และที่สำคัญ อย่าเอาพวกแก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นานไปเป็นนายประกันนะครับ เพราะให้ฟ้าถล่ม ดินทลาย ก็ไม่มีทางได้ประกันตัวครับ เพราะคนพวกนี้เป็นเฒ่าโบราณในยุคอนาล็อกครับ มิใช่ดิจิทัล รักนะ จุ๊บๆ”

แน่นอน, เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า “3 นิ้ว” กำลังจะใช้ทุกวิธีที่จะสามารถกดดันศาลให้ปล่อยตัวแกนนำ 3 นิ้วให้ได้

อย่างที่ ดร.อานนท์ หยิบยก กรณี “เด็กธนาธร” ชี้เป้าให้เหล่าซอมบี “บูลลี่” ผู้พิพากษา ทางไซเบอร์ อันเป็นพฤติกรรมเถื่อนถ่อย ที่สาวก 3 นิ้ว ใช้กับบุคคลที่เห็นต่างมาตลอด เพื่อไม่ให้มีที่ยืนในสังคม โดยยัดข้อหาเป็นพวกไม่รักประชาธิปไตย และสนับสนุนเผด็จการ ซึ่งความเป็นจริงไม่เกี่ยวกันเลย

อะไรไม่สำคัญเท่ากับ เป็นลูกน้องคนสนิทของ ธนาธร ที่แม้แต่ ธนาธร ก็กำลังถูกมองว่า มีพฤติกรรม “ล้มเจ้า” หรือไม่ และอยู่เบื้องหลังม็อบ 3 นิ้วหรือไม่

นอกจากนี้ การประกาศม็อบ “ปล่อยเพื่อนกู” และ อดข้าวในคุก ก็เช่นกัน นี่ไม่ใช่วิธีของคนที่มีอุดมการณ์สูงส่ง ประกาศกร้าว ปฏิรูปสถาบันฯให้จบในรุ่นเรา ประกาศปฏิวัติเปลี่ยนแปลงประเทศ เขาทำกัน เห็นก็แต่พวกขี้แพ้ชวนตีเท่านั้น

เพราะอย่าลืม ที่ศาลไม่ให้ประกันตัวนั้น เป็นความผิดของพวกแกนนำม็อบ 3 นิ้วเอง ที่ไม่เคารพกฎหมาย ไม่เคารพคำสั่งศาล และท้าทายความศักดิ์สิทธิ์ของศาลมาตลอด ขณะที่ประชาชนคนไทยเขาเคารพศาล เคารพคำตัดสิน หรือคำพิพากษา เพราะพวกเขาเชื่อมั่นในระบบนิติรัฐ และประชาธิปไตย

ดังนั้น การกดดันศาลด้วยการม็อบ “ปล่อยเพื่อนกู” และ การอดข้าวประท้วง ก็เท่ากับการทำตัวเหนือกฎหมาย ใช้วิธีนอกกฎหมายมากดดันศาล หรือพูดให้ชัดก็คือ การเอากฎหมู่มาอยู่เหนือกฎหมายอย่างชัดแจ้งนั่นเอง

อย่างนี้ ยังจะมีหน้ามาเรียกร้อง ปฏิรูปสถาบันฯ ปฏิวัติเปลี่ยนแปลงประเทศ ปลุกคนไทยให้เชื่อมั่นในพวกตน ซึ่งอ้างเป็นผู้นำรุ่นใหม่ ที่จะนำพาอนาคตของประเทศไปสู่ความก้าวหน้า อยู่อีกหรือ?

ที่เห็นอยู่ตอนนี้ ใครจะไปเชื่อ???


กำลังโหลดความคิดเห็น