xs
xsm
sm
md
lg

ชาว อ.พระแสงเฮ ศาลเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน บ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม พบสร้างโฉนดเท็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศาลปกครองกลางสั่งเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินบริษัท สหอุตสาหกรรม น้ำมันปาล์ม 23 แปลง หลังพบหลักฐาน จนท.ที่ดินสร้างหลักฐานเท็จออกโฉนด และ น.ส.3 ก.เอื้อเอกชนรุกป่าสงวนฯ ชาว อ.พระแสง เดินหน้าทำหนังสือถึงนายกฯ จี้กรมที่ดิน-ป่าไม้ ทำตามคำสั่งศาล

วันนี้ (19 มี.ค.) ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในคดีที่ชาวบ้านจากชุมชนสันติพัฒนา ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 20 คน ยื่นฟ้องกรมที่ดิน อธิบดีกรมที่ดิน คณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน กรมป่าไม้ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาพระแสง และบริษัท สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ว่าร่วมกันออกเอกสารสิทธิให้แก่บริษัท สหอุตสาหกรรม น้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ชาวบ้านในชุมชนไม่สามารถใช้ประโยชน์สาธารณะในพื้นที่ได้ โดยศาลพิพากษาให้อธิบดีกรมที่ดิน และเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาพระแสง ดำเนินการเพิกถอนหรือแก้ไขเอกสารสิทธิที่เป็น น.ส.3 ก.จำนวน 10 แปลง และโฉนดที่ดิน 13 แปลง ในพื้นที่ ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ของบริษัท สหอุตสาหกรรมฯ ให้ถูกต้องตามกฎหมาย และให้อธิบดีกรมป่าไม้ดำเนินการให้บริษัท สหอุตสาหกรรมฯ ออกจากที่ดินพิพาทต่อไป ภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด

ทั้งนี้ ศาลให้เหตุผลว่า จากพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ พบว่า ที่ดิน น.ส.3 ก.ที่เป็นข้อพิพาททั้ง 10 แปลงยังมีลักษณะเป็นป่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวจึงไม่ใช่ที่ดินที่ได้มีการครอบครองและทำประโยชน์มาก่อนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใช้บังคับ และไม่ปรากฏหลักฐานว่าคณะอนุกรรมการสำรวจและจำแนกที่ดินประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานีเคยมีการเสนอให้กันพื้นที่เหล่านี้ออกจากป่า ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2504 นอกจากนี้ยังพบพยานบุคคล ซึ่งเป็นลูกจ้างชั่วคราวของกรมที่ดิน ให้การยืนยันว่า ในการเดินสำรวจพื้นที่พบว่าพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่มีสภาพเป็นป่า และได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว แต่ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เขียนข้อความอันเป็นเท็จเพื่อจะออก น.ส.3 ก. และผู้ที่ปรากฏชื่อใน น.ส.3 ก.บางแปลง หรือทายาท ได้ยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องเกี่ยวกับการออก น.ส.3 ก.แปลงพิพาทแต่อย่างใด เชื่อว่ามีผู้แอบอ้าง การที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ออก น.ส.3 ก.จำนวน 10 แปลงดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ข้อโต้แย้งของกรมที่ดิน อธิบดีกรมที่ดิน และเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาพระแสง ที่อ้างพยานหลักฐานจากภาพถ่ายทางอากาศ ยืนยันว่าได้ดำเนินการออก น.ส.3 ก.ชอบด้วยกฎหมาย ไม่อาจรับฟังได้

ส่วนกรณีโฉนดที่ดิน 13 แปลงนั้น จากการตรวจสอบด้วยการสำเนาระวางรูปถ่ายทางอากาศ ซึ่งแสดงตำแหน่งที่ดินตามหลักฐานโฉนดที่ดินของบริษัท สหอุตสาหกรรมฯ ที่ยื่นต่อศาล พบว่า ที่ดิน 10 แปลงในจำนวนนี้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าย่านยาว ป่าเขาวง และป่ากระชุม” ทั้งแปลง และที่ดินอีก 3แปลงที่เหลือ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าย่านยาว ป่าเขาวง และป่ากระชุม” บางส่วน ซึ่งทั้งหมดเป็นที่ดินสงวนหวงห้ามไว้เพื่อทรัพยากรธรรมชาติ ห้ามไม่ให้ออกโฉนดที่ดิน หรือ หนังสือรับรองการใช้ประโยชน์ การที่พนักงานเจ้าที่ได้ออกโฉนดให้ไปจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อพบว่า การออกโฉนด และ น.ส.3 ก.ทั้ง 23 แปลง โดยอาศัยหลักฐานที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ อธิบดีกรมที่ดินไม่ดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิดังกล่าว จึงเป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือ ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินควร

นายสรไกร ศรศรี หนึ่งในทนายความจากสภาทนายความ กล่าวว่า การที่ศาลปกครองมีคำพิพากษาให้ชาวบ้านชนะวันนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี หลังจากที่เราใช้เวลาในการต่อสู้มากว่า 8 ปี นายดำ อ่อนเมือง หนึ่งในผู้ฟ้องคดี ถูกลอบยิง คดีนี้ชาวบ้านเป็นผู้ใช้ประโยชน์ในที่ดินพิพาทดังกล่าวมาก่อน แต่ภายหลังได้มีการออกเอกสารสิทธิให้แก่บริษัทเอกชนและมาฟ้องขับไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่ ชาวบ้านได้พยายามเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าว แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกรมที่ดิน ยังยืนกรานว่าออกเอกสารสิทธิโดยชอบแล้ว หลังจากนี้หวังว่ากรมป่าไม้ และกรมที่ดินจะไม่อุทธรณ์ และเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษา

ด้าน น.ส.นัฐาพันธ์ แสงทับ ชาวบ้านผู้ฟ้องคดี กล่าวว่า ดีใจและตื่นเต้น ไม่คิดว่าจะได้ชัยชนะในครั้งนี้ หลังจากที่เราต่อสู้ทางกฎหมายมา 8 ปี และต่อสู้เรียกร้องในพื้นที่มากว่า 10 ปี จากนี้จะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเร่งรัดกรมที่ดินเพิกถอนสิทธิที่ไม่ชอบทั้งหมด และให้กรมป่าไม้ขับไล่บริษัทเอกชนดังกล่าวออกจากพื้นที่


กำลังโหลดความคิดเห็น