xs
xsm
sm
md
lg

แพ้แลนด์สไลด์-ปิดเกม “ธนาธร” ฝ่อทั้งขบวน!?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
เมืองไทย 360 องศา

ก็ต้องบอกว่าเหนือความคาดหมายเหมือนกัน สำหรับผลการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ ที่เพิ่งหย่อนบัตรกันไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม มาหมาดๆ ซึ่งโฟกัสแยกเฉพาะผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่ถูกจับตามองว่าจะเกิดการเปลี่ยนไปแปลงไปอย่างไร หลังจาก “คณะก้าวหน้า” ที่นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส่งผู้สมัครลงแข่งขันทั่วประเทศ จำนวนถึง 42 จังหวัด และทำการรณรงค์อย่างหนัก โดยหมายมั่นปั้นมือว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ โดยเฉพาะการเมืองในระดับ “ฐานราก”

ธนาธรถึงกับกล่าวอย่างมั่นใจก่อนการเลือกตั้งเพียงไม่กี่ชั่วโมงว่าจะชนะแบบ “แลนด์สไลด์” นั่นคือ ถล่มทลายกันเลยทีเดียว แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาแบบตรงกันข้าม นั่นคือ “แพ้แบบแลนด์สไลด์” เพราะผู้สมัครนาม “คณะก้าวหน้า” ที่ส่งลงสมัครทั่วประเทศ และตัวเขาพร้อมทีมงาน ทั้ง นายปิยบุตร แสงกนกกุล รวมทั้ง น.ส.พรรณิการ์ วานิช ต่างแยกย้ายลงไปช่วยหาเสียง และร่วมรณรงค์อย่างเต็มที่แล้วก็ตาม เมื่อผลออกมาอย่างที่เห็น มันก็คง “ช็อก” พูดไม่ออกเลยทีเดียว
สำหรับผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ เชื่อว่า ส่วนใหญ่รับรู้กันไปแล้วว่า “คณะก้าวหน้าแพ้เรียบ” โดยเฉพาะการชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ถือว่าแพ้แบบไม่มีลุ้นเลยแม้แต่จังหวัดเดียว อาจมีบ้างในบางจังหวัด ที่คะแนนตามมาเป็น “ลำดับที่สอง” แต่ก็ “ห่างมาก” จนไม่ต้องลุ้นกันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี ที่บอกว่า “เหนือความคาดหมาย” ก็คือ ไม่คิดว่า “จะแพ้แบบแลนด์สไลด์” แบบนี้ เพราะในตอนแรกยังเชื่อว่าอย่างน้อยน่าจะได้เข้ามาสักจังหวัดสองจังหวัด หรือสามจังหวัด อะไรประมาณนี้ เพราะยังไม่มั่นใจว่า “กระแสความนิยม” ในตัวของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะ “ฟีเวอร์” ขนาดไหน แต่ก็คิดในใจว่า คงไม่น้อย เพราะเมื่อได้เห็นจาก “เสียงกรี๊ด” เวลาเดินตลาดช่วยผู้สมัครในสังกัดหาเสียง
อีกทั้งยังเป็นการเลือกตั้งในช่วง “ม็อบสามนิ้ว” ที่รับรู้กันอยู่ว่าเชื่อมโยงกับคณะนี้ รวมไปถึงพรรคการเมืองในเครือข่าย อย่างเช่น พรรคก้าวไกล เป็นต้น กำลังเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้นในแบบ “คู่ขนาน” กันไป ประกอบกับการโหมรณรงค์แบบรายวัน มันก็ทำให้มั่นใจได้ว่า น่าจะ“เข้าวิน”มาบ้าง
เพราะถึงอย่างไร มีการส่งผู้สมัครถึงกว่า 40 จังหวัด และทุกจังหวัดก็มีรูปนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขึ้นป้ายคู่กับผู้สมัครอีกด้วย จึงน่าจะเป็นกระแสแรงส่งให้ชนะการเลือกตั้งเข้ามาบ้าง แต่ผลที่ออกมาน่าผิดหวังอย่างที่เห็น เป็นใครก็ต้องซึมเป็นธรรมดา เหมือนกับตอนแรกที่ นายธนาธร ยังอยู่ในอาการอึ้ง ไม่มีการแถลงใดๆ ออกมา อาจมีบ้างที่ได้เห็นข่าวที่ว่า เขาโพสต์ออกมาในทำนอง “ตัดพ้อ” ว่า “ผลการเลือกตั้งที่ออกมา คนไทยยังไม่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง” แต่ก็ไม่รู้ว่า ใช่ของจริงหรือไม่ แต่หากเป็นของจริง และเขาโพสต์เองก็ถือว่า “สติแตก” ผิดหวังมาก
เพราะอย่างที่รับรู้กันในการทำงานการเมืองของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถือว่าเป็นงาน “อิงมวลชน” สังเกตได้จากการเคลื่อนไหวมาตลอดเวลาหลายปีมานี้ จนกระทั่งมาจนถึงตั้งพรรคอนาคตใหม่ และเมื่อถูกยุบ และมาถึงพรรคก้าวไกล จนมาถึง “ม็อบสามนิ้ว” ก็มาในเส้นทางนั้น
แต่ขณะเดียวกัน ในเส้นทางมวลชนของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับพวกนั้น เป็นเส้นทางที่เดินไปในแนวที่ถูกมองว่ามี “เจตนาล้มล้างสถาบันฯ” สวนทางกับความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ ซึ่งได้เห็นสัญญาณในระยะหลังที่เขาก็น่าจะรับรู้ถึงอารมณ์ที่ว่านั้นได้ดี เมื่อต้องเจอกับกระแสต้าน การขับไล่จากชาวบ้านตามตลาด หรือในท้องถนนทั่วไปที่ลงไปช่วยผู้สมัครหาเสียงในช่วงที่ผ่านมา
อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากกระแสของม็อบสามนิ้ว ที่ระยะหลัง “แผ่วลง” อย่างเห็นได้ชัด จนอยู่ในระดับ “หลักร้อย” เท่านั้น สาเหตุก็ไม่ได้ต่างกันคือ “ถูกเท” เพราะมีเป้าหมายเพื่อล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์นั่นเอง แม้ว่าบางคนอาจยังไม่เชื่อ แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาอย่างที่เห็น มันก็ต้องตระหนักกันบ้างว่าชาวบ้านเขาปฏิเสธ
และแม้ว่าหากบอกว่ายังสรุปไม่ได้ แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ ผลจากการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดคราวนี้ “ไม่มีธนาธรฟีเวอร์” อีกแล้ว หรือว่ามันไม่มีมาตั้งแต่ต้น หรือที่ผ่านมา เป็นการ “คิดไปเอง” หรือเปล่า จากผลการเลือกตั้งของพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้ ส.ส.เหนือความคาดหมาย ที่หลายคนบอกว่าเป็น “ส้มหล่น” จากความผิดพลาดของการ “แตกแบงก์ย่อย”ของพรรคเพื่อไทยหรือเปล่า
แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุใด ผลจากการเลือกตั้งคราวนี้ มันย่อมส่งผลต่ออนาคตทางการเมืองของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เข้าอย่างจัง เพราะไม่มีกระแสฟีเวอร์ ไม่สามารถสร้างกระแสให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในแบบ “พลิกฟ้า” ได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่รอลุ้นว่าจะติดคุกหรือไม่เท่านั้นเอง เพราะยังคาอีกหลายคดี รวมไปถึงได้แต่นั่งรอว่าการถูก “ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี” นั้นได้ผ่านไปกี่ปีแล้ว เพราะกระแสของเขานั้นไม่มีแล้ว ซึ่งก็รวมไปถึงผลกระทบทั้งขบวนการที่ต้อง “ฝ่อ” ตามไปด้วย !!


กำลังโหลดความคิดเห็น