xs
xsm
sm
md
lg

ดรามา “คนละครึ่ง” ไม่จบ หัวอกลูกผู้ชาย “เจ้าสัวบุญชัย” กางปีกป้องทัวร์ลง “ตั๊ก บงกช” ใจดำทำกับผู้หญิง มีอะไรให้มาเอาเรื่องกับผม **สอบตกยกประเทศ!! “เด็กธนาธร” แพ้รูด สนามเลือกตั้ง อบจ.สะท้อนคนไทยไม่เอาพวก “ล้มเจ้า”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ดรามา “คนละครึ่ง” ไม่จบ หัวอกลูกผู้ชาย “เจ้าสัวบุญชัย” กางปีกป้องทัวร์ลง “ตั๊ก บงกช” ใจดำทำกับผู้หญิง มีอะไรให้มาเอาเรื่องกับผม


แม้จะผ่านมาหลายวัน แต่กระแสไวรัลสัญญาณล่ม “OTP” ไม่มาตามนัด จนผู้ใช้บริการ “ดีแทค” ชวดสืทธิ์โครงการคนละครึ่ง พ่นพิษใส่ ภรรยารัก “ตั๊ก บงกช เบญจรงคกุล” ไม่ซา ไม่เบาลงเลย หลังอดีตดาราสาวชื่อดังพยายามกู้ศรัทธาช่วยกิจการของสามี “เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล” ด้วยการโพสต์ชี้แจงสาเหตุสัญญานขัดข้อง แต่คำที่ว่า “หากไม่สบายใจ สามารถย้ายค่ายได้” กลับกลายเป็นชนวนให้ทัวร์ลงไม่หยุด

เมื่อภรรยารักโดนพายุโซเชียลฯ กระหน่ำทำร้าย ทำลาย “เจ้าสัวบุญชัย” จึงไม่อาจอยู่เฉย ทนไม่ไหวอัดคลิปตอบโต้คณะทัวร์รัวๆ
ในคลิป “เจ้าสัวบุญชัย” ร่ายแบบแมนๆ ถึงคนที่ว่าร้ายภรรยา... “จริงๆ ไม่ใช่เรื่องของเธอเลย เรื่องปัญหาของบริษัทที่ผมทำงานอยู่ เรื่องสัญญาณล่ม อย่าด่าภรรยาผมเลยครับ ผมเป็นผู้ชายพอ มาหาผมสิครับ ตึกเบญจจินดา มาด่าผม
แล้วถ้าคุณอ่านข่าวก่อนนะครับ ข่าวบอกว่าเราขอโทษ เราใช้เงินคืนให้ที่คุณสูญเสียไป ในกรณีที่คุณจะพูดถึงว่าคุณสูญเสียเรื่องอื่นอะไร อันนั้นเราก็ไม่มีหลักฐาน แต่ทุกคนที่เขาเสียหาย แล้วเขาก็มาหา บางคนก็ไปฟ้อง มันเป็นเรื่องอิสระของทุกคนครับ แต่ “ตั๊ก” เขาก็บอกแล้วว่าสามีฝากมาบอก เลิกด่าภรรยาผมสักทีเถอะครับ มาด่าผม มาเลยนะครับ หรือให้เรียกผมเปิดเวทีมาแล้วไปด่าพร้อมกัน อย่าทำอะไรที่รังแกผู้หญิงเลยครับ
เขาก็ทำมาหากิน เลี้ยงดูตัวเอง ขอร้องเถอะครับ คนเราอย่าเอาแต่ว่ามีโซเชียลมีเดีย แล้วคุณจะพูดอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ ใช่ ผมไล่ตามฟ้องพวกคุณไม่ได้หรอก เพราะว่าพวกคุณไม่รู้ว่าเป็นลูกค้าเราหรือเปล่า หรือคุณเป็นคนที่ใครจ้างมาหรือเปล่า เราไม่รู้ แต่ถ้าคุณเป็นลูกค้าเราจริง เราขอโทษครับ”

ตั๊ก บงกช - เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล
เจ้าสัวยังพูดมีอารมณ์ ว่าคนไทยเราอยู่มาได้เป็นพันๆ ปี เพราะว่ามีความเมตตากรุณาต่อกัน แต่ปัจจุบันเห็นแต่คนที่มันใจดำ คนที่เห็นโซเชียลมีเดีย ว่าจะลงอะไรก็ได้ จะด่าใครก็ได้ ด่าคนที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในแผ่นดินก็ได้ แล้วภรรยาไปบอกเรื่องแค่ว่า ทำให้มีความไม่พอใจ คุณสามารถไปทำ เปลี่ยนซิมก็ได้ ใช้ค่ายอื่นลองดูก็ได้ครับ ระบบอินเทอร์เน็ต มันมีล่มทุกบริษัท เพียงแต่ล่มมาก ล่มน้อย อันนี้เราก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันล่มเราก็พยายามแก้ไขอยู่ครับ ขอความเห็นใจหน่อยครับ หยุดด่าภรรยาผมนะครับ จะมีอะไรมาเอาเรื่องผม ผมพร้อมเสมอ”
“เจ้าสัวบุญชัย” ยังได้อธิบายถึง ระบบ OTP ที่ล่มต่ออีกว่า... ระบบที่ล่มเป็นระบบที่เรียกว่า OTP ที่ส่งเป็น SMS ไปให้ เพื่อจะได้ใช้ตอบกลับไปเพื่อขอใช้วงเงินที่รัฐบาลช่วยคนละครึ่งซึ่ง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้อีกครั้ง ที่เกิดความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง
งานนี้ ก็น่าเห็นใจทั้ง “เจ้าสัวบุญชัย” และ “ตั๊ก บงกช” รวมไปถึงประชาชนลูกค้าของดีแทค ที่ได้รับผลกระทบ ปัญหาสัญญาณล่ม คงไม่มีใครอยากให้เกิด แต่บังเอิญว่ามาเกิดกับ “โครงการคนละครึ่ง” ที่ฟีเวอร์ ประชาชนให้ความสนใจล้นหลาม อารมณ์โกรธขึ้งจึงตามมาที่ทำให้อดได้สิทธิ์ แต่ดีแทค ก็พร้อมเยียวยาชดเชยในวงเงินที่ประชาชนควรได้รับจากโครงการทันที
ขณะที่แว่วว่า ผลกระทบจากเรื่องนี้ ดีแทค ก็ได้รับบทเรียนแสนสาหัสเช่นกัน เพราะมีลูกค้าที่ไม่พอใจบริการตัดสินใจย้ายค่าย เปลี่ยนซิมไปค่ายอื่นจำนวนมหาศาล เสียหายหลายแสนราย !
เพราะฉะนั้น จบได้ก็จบ เบาได้ก็เบากันหน่อยนะชาวโซเชียลฯ

**สอบตกยกประเทศ !! “เด็กธนาธร” แพ้รูด สนามเลือกตั้ง อบจ. สะท้อนคนไทยไม่เอาพวก “ล้มเจ้า” คนเชียงใหม่ยังรักษาหน้า “แม้ว” ภาพรวม “บ้านใหญ่” มัดใจคนในพื้นที่ได้

ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ - ผู้สมัครนายกอบจ. คณะก้าวหน้า
กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ สำหรับผลการเลือกตั้ง นายก อบจ. และ สมาชิก อบจ. ที่ “เด็กธนาธร” แพ้แบบแลนด์สไลด์ สอบตกยกประเทศ!!
หลัง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี จากกรณียุบพรรคอนาคตใหม่ แต่เขาก็ยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกสภาในนาม “คณะก้าวหน้า” ส่วน ส.ส.ที่ไม่ถูกตัดสิทธิ์สังกัดพรรคก้าวไกล
“ธนาธร” หวังใช้การเลือกตั้งท้องถิ่น ปูทางสร้างฐาน เพื่อรอวันที่เขาจะได้กลับเข้ามาโลดแล่นในสนามการเมืองระดับชาติอีกครั้ง จึงไม่รีรอที่จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิก อบจ. รวม 42 จังหวัดกระจายตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมแถลงข่าว เปิดตัวก่อนใครๆ
ระหว่างนั้นตัวเขาก็ “เป็นเงา” อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชนคนรุ่นใหม่ ในการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย แก้รัฐธรรมนูญ ให้นายกรัฐมนตรีลาออก ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
เมื่อกระแสม็อบจุดติด ก็ยิ่งยกระดับการชุมนุมจนกระทั่งมาเป็น “คณะราษฎร” เช่นเดียวกับการปราศรัย และข้อเรียกร้องก็พุ่งเป้าไปที่สถาบันฯโดยตรง กระทั่งทะลุเพดาน ที่ประชาชนทั่วไปได้เห็นได้สัมผัส ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า...นี่ไม่ใช่การปฏิรูปสถาบันฯ แต่เป็นการ “ล้มล้างสถาบันฯ”
ขณะที่การชุมนุมดำเนินไป “ธนาธร” และคณะก็เดินสายไปช่วยลูกทีมหาเสียงตามจังหวัดต่างๆ แม้จะถูกต่อต้าน ถูกตะโกนใส่หน้า ว่า “หนักแผ่นดิน” หรือถือป้ายข้อความ “ไม่เอาพวกล้มเจ้า” แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ ขณะเดียวกัน ก็โหมกระแสผ่านโซเชียลฯ ปั้นแฮชแท็ก เรียกยอดไลก์จากบรรดาแฟนคลับ
เรียกว่าหวังจะขี่กระแสม็อบ ขี่กระแสโซเชียลฯ สร้างปรากฏการณ์ในการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้...“ธนาธร” ถึงกับประกาศทิ้งทวนอย่างมั่นใจว่า “คณะก้าวหน้า” จะชนะแบบ “แลนด์สไลด์” แบบถล่มทลาย ล้มช้าง !!
แต่เมื่อประกาศผลออกมา ปรากฏว่า ผู้สมัครนายก อบจ.ทั้ง 42 จังหวัดของคณะก้าวหน้า แพ้เรียบ! แพ้แบบไม่มีลุ้น!! ส่วนสมาชิก อบจ. แม้จะมีผ่านเข้ามาได้บ้าง ...แต่ก็มีกรณีให้ยกมาเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ คือ สมาชิก อบจ.เขต 10 จ.ระนอง ที่แต่เดิมมีผู้สมัคร 2 ราย บังเอิญอีกรายถูกตัดสิทธิ์เรื่องคุณสมบัติ จึงเหลือเพียงผู้สมัครของคณะก้าวหน้าเพียงคนเดียว ซึ่งทางทีมงานเชื่อมั่นว่าได้แน่ เพราะไม่ต้องแข่งกับใคร... แต่ผลคะแนนออกมาปรากฏว่า แพ้คะแนน VOTE NO จึงเท่ากับสอบตก !!
ปรากฏการณ์ “แพ้แบบแลนด์สไลด์” นี้ บรรดานักวิชาการ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ตลอดจนประชาชนที่ไม่ได้เป็น “ติ่งสีส้ม” ต่างออกมาแสดงความเห็นกันรัวๆ ว่า นี่เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คนไทยไม่เอาด้วยกับนโยบาย พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน ของ “ธนาธรและคณะก้าวหน้า” ขนาดไม่มีคู่แข่ง ยังแพ้ VOTE NO เป็นการให้บทเรียนกับพวกล้มล้างสถาบันฯ

พิชัย เลิศพงศ์อดิศร - ทักษิณ ชินวัตร
ขณะที่ “พรรคเพื่อไทย” ซึ่งถูกมองว่าแม้จะไม่เปิดหน้าออกมาจาบจ้วงสถาบันฯ แต่ก็เป็นที่รับรู้กันว่ามีส่วนสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร ก็พลอยได้รับบทเรียนไปด้วย โดยพรรคส่งผู้สมัคร 25 จังหวัด เลือกเฉพาะจังหวัดที่มั่นใจในฐานเสียง ที่เป็นเครือญาติ ส.ส. แต่ผลการเลือกตั้งออกมาได้แค่ 9 จังหวัด โดยภาคเหนือเหลือไม่กี่จังหวัด ภาคอีสานหายไปเยอะ ...
ยังดี ที่สนาม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นไฮไลต์ของการเลือกตั้งครั้งนี้ “ส.ว.ก๊อง” พิชัย เลิศพงศ์อดิศร จากพรรคเพื่อไทย เอาชนะ บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อดีตนายก อบจ.เชียงใหม่ ทำให้ “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่ต้องเสียหน้า
ส่วนพื้นที่ภาคอีสานนั้น แต่เดิมเป็นฐานใหญ่ของพรรคเพื่อไทย แต่ครั้งนี้หดหายอย่างมีนัยสำคัญ โดยผู้ที่เข้ามาแทนที่คือ ตัวแทนในสายพรรคภูมิใจไทย ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล เช่นที่ จ.มหาสารคาม นครราชสีมา อำนาจเจริญ นครพนม บึงกาฬ หนองบัวลำภู สุรินทร์ บุรีรัมย์
สำหรับภาพรวมของการเลือกตั้งครั้งนี้ ปรากฏว่า กลุ่มนักการเมืองที่ครองพื้นที่มาอย่างยาวนาน ทรงอิทธิพลในเชิงอุปถัมภ์ของท้องถิ่น ที่มักจะเรียกกันว่า “บ้านใหญ่” นั้น ยังคงรักษาพื้นที่ไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นบ้านใหญ่ที่ นครปฐม ชลบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรี เพชรบุรี ชัยนาท สมุทรสาคร ระยอง นครราชสีมา บุรีรัมย์ พะเยา และอีกหลายจังหวัด
เลือกตั้งครั้งนี้ บ่งบอกถึงบริบททางการเมืองว่า กระแสวูบวาบในโซเชียลฯ ที่เกิดจากการปั่นกันขึ้นมานั้น บางครั้งก็เป็นภาพลวง ที่หลอกแม้กระทั่งคนปั่นให้หลงเคลิ้ม ... ต่างจากการสร้างสมบารมีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ที่จะออกมาเป็นคะแนนจริง!!




กำลังโหลดความคิดเห็น