xs
xsm
sm
md
lg

ภาพมันฟ้อง! แกนนำ 3 นิ้ว “กวิ้น-รุ้ง” กินหรูอยู่สบาย..ใช้เงินบริจาค ? ** แก๊งล้มเจ้าแตกโพล๊ะ! “ปวิน-สมศักดิ์ เจียม” แท็กทีมหวด “ปิยบุตร” อยากเป็นนักการเมืองจนทิ้งอุดมการณ์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว



** ภาพมันฟ้อง!! แกนนำ 3 นิ้ว “กวิ้น-รุ้ง” กินหรูอยู่สบาย...ใช้เงินบริจาค ?

เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นโซเชียลฯ อีกครั้งเมื่อ “ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์” อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์เฟซบุ๊ก ภาพแกนนำม็อบคณะราษฎร กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง โดยเขียนข้อความว่า “รูปเมื่อคืน แกนนำปลดแอก ชนชั้นสูง ไปกินข้าวเย็นหรูหรา ที่แกรนด์ไฮแอทเอราวัณ หนูโฟกัสผิดที่เรื่องชนชั้นนะคะ ปล. มีสปายชนชั้นสูงส่งรูปมาให้ครับ”

แกนนำเด็ก 3 นิ้ว ในภาพดังกล่าวนี้ มองปุ๊บก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดี มีทั้ง “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ โดยที่ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก คอมเมนต์ภาพเดียวกันว่า “ราษฎรทั้งหลายพึงรู้เถิดว่า ความเท่าเทียมไม่ได้มีอยู่จริงอย่างที่แกนนำปลดแอกหลอกลวง พวกมันกินหรู อยู่สบาย ได้ประโยชน์ต่างตอบแทนจากคนที่อยู่เบื้องหลังม็อบ ส่วนมวลชนม็อบ เป็นได้แค่เครื่องมือให้พวกมันสนตะพายลากจูงต่ออีกทอดหนึ่ง”

งานนี้ยังมีชาวโซเชียลฯ แห่คอมเมนต์ แสบๆ คันๆ กันสนุกสนานต่างๆ นานา ... บ้างก็ว่า สะท้อนการกินหรูอยู่สบายใช้เงินบริจาค เท่ากับความเหลื่อมล้ำของชนชั้นระหว่างม็อบกับบรรดาแกนนำ นี่หรือเปล่าที่บอกกันว่า “สู้แล้วรวย” แล้วยังฝากคำถามไปถึง “กัส” โฟกัส จิระกุล นักแสดงสาวที่ยืนเคียงข้างม็อบ 3 นิ้ว ที่เรียกร้องและแสดงความรังเกียจการแบ่งชนชั้น จะว่ายังไง ?
ภาพมันฟ้องขนาดนี้ กินหรูอยู่สบายใช้เงินบริจาคมั้ย หรือมีเจ้ามือใจดี นี่ม็อบเป็ดก็คงต้องไปเคลียร์กันเองแล้วละ !!



** แก๊งล้มเจ้าแตกโพล๊ะ!! “ปวิน-สมศักดิ์ เจียม” แท็กทีม หวด “ปิยบุตร” อยากเป็นนักการเมือง จนทิ้งอุดมการณ์

หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี “ไฟเขียว” ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายทุกมาตรา กับทุกความผิดอย่างเคร่งครัด กับกลุ่มผู้ชุมนุม ที่เหิมเกริมหนักข้อ จาบจ้วง ล่วงละเมิดสถาบันฯ ทำให้บรรดาแกนนำ “ม็อบสามนิ้ว” ถูกแจ้งความดำเนินคดี ความผิดอาญา มาตรา 112 ต้องเดินสายไปรับทราบข้อกล่าวหากันเป็นแถว

มาตรา 112 จึงกลับมาเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองอีกครั้ง โดยเมื่อ วานนี้ (10 ธ.ค.) แกนนำคณะราษฎร ก็จัดกิจกรรมชุมนุม เสวนา ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว เรียกร้องให้ยกเลิก ม.112 ยุติการดำเนินคดี ปล่อยตัวแกนนำม็อบโดยไม่มีเงื่อนไข ขณะเดียวกัน ก็ส่งตัวแทนอีกกลุ่มไปยื่นหนังสือที่ “ยูเอ็น” ให้กดดันไทย ยกเลิกการใช้ ม.112 โดยอ้างว่าเป็นกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน

ในช่วงที่แกนนำถูกตาม “เช็กบิล” ด้วย ม.112 จนเสียขบวน ก็มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า “ปิยบุตร แสงกนกกุล” ซึ่งเคยถือธงนำเรื่องการปฏิรูปสถาบันฯ กลับเงียบๆ ไป เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงหัวหด ... ที่สำคัญ คนที่จับความผิดสังเกตนี้ได้ไวกว่าใครนั้นเป็นระดับ “ล้มเจ้าตัวแม่” ปวิน ชัชวาลย์พงศ์พันธ์ และ “ศาสดาล้มเจ้า” สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ซะด้วย !!

“ปวิน” ถึงกับโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า... ขยะแขยงปิยบุตร ตอนนี้ก็เป็นแค่คนที่เคยรู้จักกันเท่านั้น เราต่างรู้ว่า ปิยบุตร คิดยังไงกับสถาบันฯ แต่ความที่ตัวเองอยากเป็นนักการเมือง ทำให้ต้องยอมทิ้งอุดมการณ์ที่ตัวเองเคยยึดถือ ... มาวันนี้ นักศึกษามาไกลแล้ว เค้าไม่ต้องการคนแบบปิยบุตร เลยกลายเป็นว่า นักการเมืองก็เป็นไม่ได้ เป็นนักปฏิวัติก็ล้มเหลว จะกลับไปสอนหนังสือ คนก็หมดศรัทธา...

ดิชั้นแนะนำให้ย้ายไปอยู่กับเมียที่ฝรั่งเศสค่ะ ... อ้อ กระทู้นี้งดคอมเมนต์จากติ่งส้มนะคะ โดยเฉพาะพวกที่จะแก้แทนว่า “ขนาดไม่พูดเรื่องเจ้ายังโดนขนาดนี้” โทษค่ะ ขนาดนี้ นี่ขนาดไหน ? ไม่ฟังคำแก้ตัวแทนนะคะ กูถีบออกค่ะ !!

ขณะที่ เฟซบุ๊กของ “สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” โพสต์ว่า...ผมว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีก เพราะที่พูดไปเพียงพอแล้ว แต่ อ.ปิยบุตร พูดเรื่องนี้ซ้ำอีก ดังนั้น ให้ผมพูดซ้ำอีกครั้ง

“สำหรับผมจะไม่แลกเรื่อง 112 กับการเข้าไปทำงานการเมือง” ... นี่เป็นหนึ่งในประโยคท้ายๆ ที่ผมพูดต่อหน้าปิยบุตร
นี่คือความแตกต่างกันของเรา อ.ปิยบุตร เห็นว่า เรื่องอื่นๆ มีความสำคัญพอๆกัน จึงแลกที่จะไม่พูดเรื่องสถาบันกษัตริย์ ... สำหรับผม ไม่มีเรื่องอะไรที่สำคัญยิ่งกว่าเรื่องสถาบันกษัตริย์แล้ว ให้ประวัติศาสตร์เป็นเครื่องพิสูจน์เอง

เป็นการซัดกันแบบไม่ไว้หน้าว่า “ปิยบุตร” ละทิ้งอุดมการณ์ มื่อเจอผลประโยชน์ทางการเมือง !!

ล่าสุด (10 ธ.ค.) “ปิยบุตร” ก็โพสต์เฟซบุ๊ก เสมือนเป็นการชี้แจง ตอบโต้ โดยยกเอาบางช่วงของการให้สัมภาษณ์ “The Momentum” พร้อมไฮไลต์ที่ต้องการสื่อออกไป

... หากมองย้อนกลับไปช่วงวิกฤตการเมือง 10 กว่าปีที่ผ่านมา เราควรเรียก “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการคณะก้าวหน้า อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ว่าเป็นผู้ที่ “มาก่อนกาล” ผู้เสนอเรื่องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ก่อนใครอื่น ...ในฐานะนักวิชาการ เขาเป็นหนึ่งในคนที่ถูก “เกลียด” มากที่สุดในช่วงเวลาหนึ่ง จากการออกความเห็นว่า พระมหากษัตริย์ ไม่ควรมีพระราชดำรัสสดในที่สาธารณะ

และเมื่อเป็นนักการเมือง “ปิยบุตร” ถูกอัดจากทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งบอกว่าเขา “อันตราย” เกินไป เป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการ “ชังชาติ” ขณะที่ฝ่ายเดียวกัน ก็วิพากษ์ว่าคนอย่างเขา “ประนีประนอม” มากเกินไป เมื่อเข้าสู่สภาฯ ก็ทิ้ง “หลักการ” หลายอย่างที่เคยต่อสู้ไว้ในสมัยที่ยังเป็นอาจารย์ด้านนิติศาสตร์

แต่ไฮไลต์ อยู่ที่คำพูดของปิยบุตร ที่เน้นว่า ... “ส่องกระจกแล้ว เห็นชัดว่า กูยังไม่เปลี่ยนแปลงไป กูยังเหมือนเดิม แต่มันมีอุปสรรคอะไรบางอย่างที่ทำให้แสดงออกได้ไม่เหมือนเดิม”

การระเบิดอารมณ์ผ่านทางโซเชียลฯ ของระดับ “หัวขบวนล้มเจ้า” ทั้งสามครั้งนี้ เป็นสัญญาณชัดว่าขบวนการที่ร่วมกันปลุกปั้นมานั้น กำลังอยู่ในวิกฤต “ขาลง” สุดๆ และความบาดหมางครั้งนี้ ไม่ใช่แค่รอยร้าว แต่มันแตกละเอียด ไปเรียบร้อยแล้ว !!


กำลังโหลดความคิดเห็น