ข่าวปนคน คนปนข่าว
** โซเชียลฯรุมคุ้ย ..ชี้ชัดๆ CEOใหม่ เนฉาย ฝักใฝ่“3นิ้ว Way”เชียร์ม็อบเด็กสุดขั้ว !!
ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงที่เนชั่นทีวี ยุค “เนฉาย”เมื่อเก่าไป–ใหม่มา ภายหลังจากการทยอยลาออกของพิธีกร-ผู้ประกาศดาวดัง อย่าง "เจ๊ปอง" อัญชะลี ไพรีรัก -สันติสุข มะโรงศรี ตามด้วยคนเก่าคนแก่ระดับตำนานของช่อง "กนก รัตน์วงศ์สกุล"และคู่หู "ธีระ ธัญไพบูลย์" ซึ่งเป็นผลมาจากการ “ปรับโทนข่าว”ตามความต้องการของ “ฉาย บุนนาค”ประธานเนชั่น โดยหันไปทาบทาม“อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ”อดีต CEOหรือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี เข้ามารับตำแหน่งอีกครั้ง งานนี้อย่างที่เห็นกันว่า "ฉาย" ตีปิ๊บจัดแถลงข่าวเกณฑ์ทัพผู้บริหารมาต้อนรับข่าวนี้อย่างคึกคักแน่นห้องแถลงกันเลยทีเดียว
ว่ากันว่า ขณะที่"เนฉาย"กระจายข่าวทิศทางใหม่ของเนชั่นภายใต้ CEOคนเก่าที่จะนำวิถีเนชั่นแบบสมัย“สุทธิชัย หยุ่น”บริหาร หรือ “Nation Way”มาด้วยนั้น ในอีกด้าน ชาวโซเชียลฯ ก็ไปตามสืบพฤติการณ์ของ CEOใหม่ ผู้ที่เป็นความหวังของฉาย
เรียกว่า ตามขุด ตามคุ้ย กันทั้งโพสต์เก่าในเฟซบุ๊ก Adisak Limparungpatanakij และ บัญชีทวิตเตอร์ adisak limparungpata ออกมาตีแผ่ แล้วก็ขยี้คลี่ปมออกมาให้เห็นว่า "อดิศักดิ์" คนที่ "ฉาย"แถลงว่าจะมาช่วยให้เนชั่นเป็น "สถาบันสื่อ-มืออาชีพ" นั้น มีความคิดเห็น ติดตามการชุมนุมทางการเมืองของ "ม็อบ3นิ้ว" แบบตามติด ทั้งให้กำลังใจไปถึงแกนนำม็อบวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา "คนแก่หน้าโง่" การทำงานของฝ่ายรัฐบาล"เผด็จการ" รวมไปถึงเห็นดีเห็นงามกับ "การปฏิรูปสถาบันฯ" และอยากเห็นการต่อสู้นี้สำเร็จเหมือนบางประเทศ
งานนี้คำพูดที่"ฉาย" พร่ำพรรณาว่าสื่อช่อง"เนฉาย" ของเขายังยึดมั่นแนวทาง ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ไม่เปลี่ยนแปลง "ไม่เท" กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม และออกมาสนับสนุนสถาบันฯ อย่างแน่นอนนั้น... จะยังไงล่ะทีนี้?
นาทีนี้ "ฉาย"หนีจาก"สื่อสลิ่ม" กลับมาเจอ CEOใหม่ ที่เชียร์ม็อบ3นิ้ว สุดลิ่มทิ่มประตู สุดติ่งกระดิ่งแมว
จะถือว่า พลาดอย่างแรงหรือเปล่างานนี้...Nation Way ที่ได้หัวเป็น 3 นิ้ว ดูไม่จืดจริงๆ.
**ต้อยได้ ฉายแบก จุดแตกหักที่แท้ของสลิ่มเวย์ "เนฉาย"
เรื่องคนเนชั่นวงแตกแยกย้ายไปตามๆกัน วันนี้ยังถกเถียงกันไม่หายว่า เบื้องหลังที่แท้จริงนั้นคืออะไร?
ว่ากันว่า จุดเริ่มโดยที่คนไม่ค่อยพูดถึงกันนัก มาจากความสัมพันธ์คนสองคน... หนึ่งคือ "ต้อย" สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม กับอีกหนึ่ง "ฉาย บุนนาค" ประธานเนชั่นนั่นเอง
"ต้อยและฉาย" ก่อนนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ต้อยถูกชักชวนมาช่วยฉายสู้กับ"กลุ่มสุทธิชัย หยุ่น" ช่วงที่จะเข้าฮุบกิจการ โดยที่มีสัญญาใจส่วนตัว "ฉาย"เป็นคนหยิบยื่นพระคุณให้เงินกู้ยืมหลายสิบล้านกับ"ต้อย" เพื่อสะสางหนี้ที่สะสมมากับทีนิวส์ ให้ยืมแบบมีเมื่อไหร่ค่อยใช้คืน
ใจแลกใจ "ต้อย" ก็ตอบแทนฉายด้วยคอนเนกชั่น พาเข้าวงการการเมืองแอบอิง "เครือข่ายใหญ่" และ เครือข่ายกกปส. ที่สนับสนุน ลุงๆทหาร จนตกปากรับคำทำเนชั่น "ยุคเนฉาย" ให้เป็นกระบอกเสียงรัฐบาลเป็นช่องเชียร์ลุงจนมาถึง"สลิ่มเวย์"
ที่ผ่านๆมา ผลประโยชน์ลงตัว ทั้งหน้าตาและทุนหนุนส่งก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่อยู่ไปอยู่มา "สนธิญาณ" ไม่เพียงมีอิทธิพลต่อความคิด"ฉาย" ยังทีอิทธิพลต่อบรรดาสปอนเซอร์ "ท่อน้ำเลี้ยง" ในเนชั่นด้วย
แน่นอน เรื่องผลประโยชน์ช่วงหลังๆ ตามมาด้วยเสียงลือเสียงเล่าอ้างก็ว่า "วัดครึ่งกรรมการครึ่ง" แถมยังเปิดศึกหลายด้าน ถูกสปอนเซอร์แบน ผู้ถือหุ้นใหญ่กดดัน ฉายจึงอดรนทนไม่ไหว ต้องปลดลูกน้องคนสนิทของต้อยออก ตามมาด้วยการลาออกของ"เจ๊ปองและพวก"
ในความพึ่งพา มาถึงวันนี้ ต้อยลอยตัว พิสูจน์ด้วยเวลากาลกลับกลายมีแต่ ต้อยที่ได้ ส่วนฉาย ยิ่งมาก็ยิ่งแบก แบกทั่งหนี้ก้อนโตจากธุรกิจ และคงแบกขี้ที่ต้อยกินบนเรือนขี้ทิ้งไว้บนหลังคา ให้ดูต่างหน้าอีกต่างหาก
เนื่องเพราะพอ "แตกหัก" บรรดาพิธีกรผู้ภักดีกับเครือข่ายการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มแนวร่วมกกปส. ที่ต้อยเป็น "พี่ใหญ่" ของคนทำสื่ออยู่ ถามว่าระหว่างต้อย กับฉาย แน่นอนคำตอบก็ต้องตามต้อยดีกว่าอยู่กับฉาย... ต้อยตอนอยู่กับฉายก็ได้ เมื่อจากไปสร้าง"ลุงทีวี" ที่ใหม่ ก็แว่วว่าได้สปอนเซอร์หนุนหลัง... มีแต่ได้กับได้!!
จะเห็นว่า ไม่ว่าพิธีกรดาวดังทั้งหลายแม้จะพูดจาจากกันด้วยดี จากกันด้วยบรรยากาศในทุ่งลาเวนเดอร์ แต่ก็ "ทิ้งบอมบ์ใส่ ฉาย"ไว้เต็มๆ ทั้ง "อยากเป็นกนกคนเดิม" ของ กนก รัตน์วงศ์สกุล ทั้ง " เชื่อในสิ่งที่ทำ ทำให้สิ่งที่เชื่อ" ของ ธีระ ธัญไพบูลย์ หรือ"เสรีภาพสื่อ ต้องไม่ใช่เสรีภาพให้ใครมาโกหกยังไงก็ได้ โดยไม่รับผิดชอบต่อคนดูนะครับ" ตามโพสต์ของ สันติสุข มะโรงศรี ยกเว้น "เจ๊ปอง" อัญชะลี ไพรีรัก ที่ได้ช่อดอกไม้และไวน์ดีจากฉาย ที่สงวนท่าทีไม่พูดอะไรให้เจ็บช้ำน้ำใจกัน
พูดง่ายๆ ระหว่าง "ต้อยและฉาย" แรกสองคนคบหามาด้วยผลประโยชน์ เมื่อถึงคราวขัดแย้งแตกหัก ก็ไม่มีเรืองอื่นนอกจากผลประโยชน์เช่นกัน
ที่ฉายโดนครั้งนี้ ก็ไม่ต่างกับกงกรรมกงเกวียน เวรกรรมจากการกระทำในอดีตที่เล่นหุ้นหวือหวาหรือเปล่าอันนี้ก็ไม่รู้ได้
ที่แน่ๆ เอวังของสลิ่มเวย์ ก็มีด้วยประการฉะนี้ !!
** คนใต้ "ยิกทอน" ชูป้ายไล่ ไสหัวไปอยู่ที่อื่น...คนเนรคุณแผ่นดิน แม้แต่ร้านโรตีก็ไม่ต้อนรับ ต้องรีบเผ่นออกจากเมืองคอน
กระแส "ม็อบคณะราษฎร" ตีกลับ หลังจากยกขบวนไปสถานทูตเยอรมนี เรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนีตรวจสอบการใช้พระราชอำนาจ ตามมาด้วยการเคลื่อนขบวนฝ่าแนวกันของตำรวจเพื่อไป "ส่งจดหมาย" ที่สำนักพระราชวัง ...เป็นการเปิดหน้าชัดว่าผู้ชุมนุมกลุ่มนี้พุ่งเป้าไปที่สถาบันฯเป็นสำคัญ นอกเหนือจากการเรียกร้องให้แก้รธน. ไล่นายกฯ
ทำให้ประชาชนทั่วประเทศ อดรนทนไม่ได้ ต้องใส่ "เสื้อเหลือง" ออกมาเคลื่อนไหว จัดกิจกรรมแสดงพลังปกป้องสถาบันฯ กันพรึบ !!
เพราะเป็นที่รับรู้กันว่า "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" หัวหน้าคณะก้าวหน้า คึอเงาทาบทับอยู่เบื้องหลัง "ม็อบคณะราษฎร" ที่แสดงพฤติกรรมจาบจ้วง อยู่ในขณะนี้ ...ดังนั้นเมื่อ"ธนาธร" ออกเดินสายต่างจังหวัดเพื่อช่วยลูกทีม"คณะก้าวหน้า" หาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิกอบจ. จึงถูกประชาชนออกมาต่อต้าน และเชื่อว่าจะหนักขึ้นทุกวัน
อย่างเมื่อวันก่อน "ธนาธร"ไปเดินตลาดที่ จ.ระยอง ก็ถูกแม่ค้าออกมาถามซึ่งหน้า คาดคั้นให้ตอบว่า "สถาบันฯไม่ดีตรงไหน" ทำเอาหน้าเจื่อนต้องเดินหลบไป... ล่าสุดเมื่อวานนี้ (11พ.ย.) ก็ไปเจอที่นครศรีธรรมราช... คราวนี้นักกว่าที่ระยอง
ตามกำหนดการที่วางไว้ ในช่วงเช้า "ธนาธร" จะไปประชุมหัวคะแนนและผู้เกี่ยวข้องในการรณรงค์หาเสียงให้ผู้สมัครนายกอบจ.นครศรีธรรมราช จากนั้นจะออกพบปะประชาชน ไปที่ ม.เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตไสใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พบกลุ่มนักศึกษา ตกเย็นก็นัดกลุ่มเยาวชน คนหนุ่มสาว ที่ร้าน"โรตีโกบัง"...ร้านดังของเมืองคอน
แค่รู้ข่าวเท่านั้น ผู้บริหารมหาวิทยาลัย ประกาศไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่... เจ้าของร้าน"โรตีโกบัง" ขึ้นป้ายปิดร้าน 3 วันทันที ...บอกว่า ร้านเราเชื่อมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เปิดร้านเพื่อทำมาหากิน ไม่ใช่เป็นสถานที่พบปะทางการเมือง
และเมื่อ"ธนาธร" เดินทางไปถึงเมืองคอน เตรียมเข้าโรงแรม ซึ่งจะใช้เป็นที่ประชุมหัวคะแนนก็ปรากฏว่า มีมวลชนจำนวนมากมารอ "ไม่ต้อนรับ" ชูป้าย ตะโกนขับไล่ ...ธนาธรล้มเจ้า อย่าไปเลือกมัน ...ไสหัวไปอยู่ที่อื่นไป...ไอ้พวกหนักแผ่นดิน...พวกสร้างความปั่นป่วน วุ่นวาย...กว่าจะเข้าไปในโรงแรมได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามากัน เล่นเอาทุลักทุเล
ต่อมา"ธนาธร" ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปประสานกลุ่มที่มาต่อต้าน ให้ส่งตัวแทน 5 คนเข้ามาพูดคุยกัน แต่กลุ่มประชาชนปฏิเสธ บอกว่าทุกคนต้องการพบ"ธนาธร" อยากถามว่าทำไมต้องปลุกปั่นเยาวชน จาบจ้วงสถาบันฯ ขอให้ออกมาตอบ จะเว้นระยะห่างไว้ 15 เมตร ให้มั่นใจว่ามีความปลอดภัย... แต่"ธนาธร" ไม่กล้าเสี่ยง
หลังอยู่ในโรงแรมได้ประมาณชั่วโมงกว่า "ธนาธร" ก็หลบออกจากห้องประชุมไปขึ้นรถตู้สีดำติดฟิล์มทึบ ฝ่ามวลชนที่แสดงความไม่พอใจเข้ามาขวางรถยนต์ จนเกือบเกิดเหตุบานปลาย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมสถานการณ์จน "ธนาธร" ออกจากโรงแรมไปได้แบบใจหายใจคว่ำ
ด้วยอิทธิพลของโซเชียลฯ ประชาชนได้รับรู้ เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว กว้างขวาง ทำให้คาดการณ์ได้ว่าหลังจากนี้ ไม่ว่า"ธนาธร" จะไปโผล่ที่จังหวัดไหน อย่าว่าแต่ภาคใต้เลย ถึงเป็นภาคอื่นๆ ก็คงเจอประชาชนมาต่อต้าน ขับไล่ เหมือนที่เมืองคอน
เมื่อเกิดกระแส “ไม่เอาธนาธร” ย่อมลามไปถึงบรรดาผู้สมัคร อบจ. ในนามคณะก้าวหน้าด้วยแน่!!
นี่ยังไม่นับรวมถึงเรื่องที่ กกต. เตรียมเอาผิดเรื่องตั้งกลุ่มเลียนแบบพรรคการเมือง ซึ่งกฎหมายพรรคการเมืองห้ามสมคบกันตั้งแต่ 2คนขึ้นไป ดำเนินกิจการเช่นเดียวกับพรรคการเมือง หรือผู้ใดดำเนินการไม่ว่าด้วยวิธีใด ให้เข้าใจว่าเป็นพรรคการเมืองโดยไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมือง... มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี
หลังจากนี้ เส้นทางที่ "ธนาธร"ตั้งเป้าจะไปสู่จุดหมาย คงจะแคบลงทุกที และถึงขั้นตีบตันในที่สุด !!
