ข่าวปนคน คนปนข่าว
**“เนฉาย” ตุ้มเป๊ะ!! “กนก” โบกมือลาตาม “เจ๊ปอง” ทิ้งคำอยู่ต่อไม่ได้เพราะอยากเป็น “กนกคนเดิม”
ในที่สุดจากที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างก็ชัดเจนว่า พีธีกรข่าวคนดังของเนชั่น “กนก รัตน์วงศ์สกุล” ตัดสินใจลาออกจากเนชั่นทีวี เรียบร้อย โดย “กนก” ได้โพสต์ผ่านแฟนเพจปิดฉาก 24 ปีที่ทำงานเนชั่นมาว่า ...
“ซาบซึ้งใจน้องๆ ทุกคน ผมอยู่ที่นี่มา 24 ปี (คุณปุ้มอยู่มา 27 ปี) ทุกค่ำคืนก่อนกลับบ้าน เราสองคนจะเดินปิดไฟ ปิดทีวี จุดที่ไม่จำเป็น แทบจะทุกชั้น เพราะเราคิดว่าที่นี่คือบ้าน ไม่ใช่ที่ทำงาน
แต่แม้เราจะอยู่นานแค่ไหน เราสองคนก็เป็นเพียงผู้อาศัย ไม่ใช่เจ้าของบ้าน !!
อีกไม่นานก็จะเกษียณแล้ว อยากอยู่ที่นี่จนถึงวันนั้น หวังจะได้ร่ำลา และส่งไม้ต่อให้น้องๆ ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา
เราผ่านเหตุการณ์...ผ่านกลุ่มผู้บริหารเก่าๆ หลายคน บางคนจากไปโดยทิ้งปัญหาไว้ใต้พรม... บางปัญหาถึงขั้นฟ้องร้อง! บางคนรับเงินชดเชยไปนับ10 ล้าน แต่บอกลูกน้องว่าตนเองไม่ได้อะไรเลย...
บางคนไปตั้งกลุ่ม ด่าทอบ้านตัวเอง วันทั้งวัน..ทุกวัน สุมไฟบ้านเก่า...
เราจะไม่เป็นเช่นนั้น เราจะไม่ลืมสิ่งดีๆ ที่นี่ เนชั่นให้เรามีวันนี้
ผมไม่ใช่คนร่ำรวย.. และกำลังจะเป็นคนแก่ จึงเป็นเรื่องลำบากใจที่ต้องจากไปหางานใหม่ในวัย 50 กว่า ที่ไม่มีอะไรมั่นคง มีแต่ความเสี่ยงรออยู่เบื้องหน้า
แต่ทุกเส้นทางข้างหน้า “เราเชิดหน้าชูตาได้ ไม่ต้องหลบสายตาใคร” ไม่มีใครกล่าวหาเราได้ในเรื่องผลประโยชน์เบื้องหลัง
ถ้าน้องๆรู้จักพี่ อยากให้เป็นพี่กนกคนเดิม ต้องให้พี่ไป...
ผมก้าวออกจากเนชั่น เพราะต้องการเป็น “กนกคนเดิม” แต่ถ้าอยู่ต่อ... คงไม่ใช่พี่กนก ที่เคยอยู่มา 24 ปี”
การโบกมือลาเนชั่นของ “กนก รัตน์วงศ์สกุล” ครั้งนี้ เกิดขึ้นตามหลัง “เจ๊ปอง” อัญชะลี ไพรีรัก และ “สันติสุข มะโรงศรี” พิธีกรข่าวชื่อดังที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งตอนนั้นก็มีข่าวลือตามมาว่า “กนก รัตน์วงศ์สกุล” และ “ธีระ ธัญไพบูลย์” พิธีกรและผู้ประกาศ จะลาออกตามไปด้วย โดยที่ “ฉาย บุนนาค” ประธานเครือเนชั่น ต้องออกโรงมาแก้ข่าวว่า เป็น “ข่าวลือ” จากผู้ไม่ประสงค์ดี ที่เจตนาร้ายต้องการกลั่นแกล้งธุรกิจของเขา! ขณะที่ “กนก” ก็ยังโพสต์ปูทางส่งสัญญานเป็นนัยๆ ว่า “พร้อมเลือกข้าง”
“กนก รัตน์วงศ์สกุล” นั้นมีชื่อขึ้นมาจากเนชั่น ยุค “สุทธิชัย หยุ่น” บริหารโดยรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ที่จัดคู่กับ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” จนโด่งดัง
ภายหลัง ต่อมา “สรยุทธ” ได้แยกทางจากไปแต่ “กนก” ยังปักหลักเนชั่น พร้อมๆ กับค่อยๆ สร้างตัวตนเป็นผู้ที่มีแนวความคิดทางการเมือง “เลือกข้าง” อย่างชัดเจน และ มาพีกในช่วงที่มี “ม็อบ กปปส.” ของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” กนก ถือเป็นคนสื่อที่เข้าร่วม “เป่านกหวีด” กับลุงกำนัน ซึ่งภายหลังสถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลง และเนชั่นตกมาอยู่ในมือของ “ฉาย บุนนาค” พร้อมๆ กับ การดึง “ต้อย” สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เข้ามาบริหารจัดการเครือเนชั่น ต่อด้วยการรับ “เจ๊ปอง-สันติสุข” เข้ามาเสริมจนยุค “เนชั่น-เนฉาย” ที่ “ต้อย” ผู้ซึ่งมี “คอนเนกชัน” กับเครือข่ายอำนาจรัฐ มีบทบาทสูงในเนชั่น ได้เปลี่ยนแนวทางการทำงานของเครือให้กลายเป็นช่อง “เชียร์ลุง” หรือ “ทีนิวส์ สาขาสอง” เป็น กระบอกเสียงให้รัฐบาลเต็มตัว และ ยุคม็อบ 3 นิ้ว “เนฉาย” ก็กลายมาเป็นช่องที่ม็อบยกให้เป็น “สื่อสลิ่ม” โดยที่ “กนก” ยังเป็น “กนกคนเดิม” ที่แม้เป็นคนเนชั่นดั้งเดิม แต่ก็มีจุดร่วมมีความคิดทางการเมืองไปในทางเดียวกับ “ต้อย” และ “เจ๊ปอง” ที่ต่างเป็นเจ้าของผู้ครอบครอง “เทพเจ้าแห่งความถูกต้อง” ไว้เพียงผู้เดียว ทำนอง “ผิดจากนี้ไม่ใช่เรา”
เมื่อสถานการณ์การเมืองเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง ทั้งปัญหาภายในก๊วนก๊กในรัฐบาล และ “ม็อบ 3 นิ้ว” สร้างแรงกดดันให้เนชั่น แนวร่วมคณะราษฎร ไล่บี้สปอนเซอร์ร่วมแบนเนชั่น “ฉาย” ที่หวั่นไหวกังวลทั้งศึกภายในองค์กร เริ่มขัดแย้งกับกลุ่ม “สนธิญาณ” และภายนอก จากภาวะธุรกิจ และผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ขอร่วมทางไปต่อ จึงมีความคิดที่จะ “สลัดร่างสื่อสลิ่ม” ด้วยการสั่งปรับลดโทนการนำเสนอข่าวของเครือเนชั่น จากฮาร์ดคอร์การเมืองให้ “เบาได้เบา”
แต่ก็ยิ่งเร้าให้กลุ่มที่เป็นตัวตั้งตัวตี ทำ “เนชั่นให้เป็นเนฉาย” รับไม่ได้ จนมาสู่จุดที่ “พิธีกรเฉพาะกิจ” อย่าง “เจ๊ปอง-สันติสุข” ขอลา และก็ตามมาด้วย “กนก” ในวันนี้ ที่ว่า “ถ้าอยู่ต่อ...คงไม่ใช่พี่กนก ที่เคยอยู่มา 24 ปี”
แน่นอนว่า คลื่นลมในเนชั่นยุคฉาย ยังคงไม่สงบจบลงที่ “กนก” บอกลา เพราะขณะนี้ “ผู้ไม่หวังดี” ที่ฉายบอกว่า “มีเยอะ” และเขารู้ดีว่าคือใคร ? ยังขยับปล่อยข่าวต่อว่า จะมีพิธีกรและทีมงานลาออกตาม กนก และ เจ๊ปอง อีกเป็นพรวน แถมด้วย “ข่าวลือ” การกว๊านซื้อหุ้นของ “ทักษิณ” ลือกันไม่หยุด ลือกันไปบนพื้นฐาน ฉากใหม่ “สีแดง” กับ พิธีกรเด็กปั้นหน้าใหม่ที่เข็นกันมาแทนที่ดาวดัง เจ๊ปอง-สันติสุข และ กนก
ขณะที่ กลุ่มสนธิญาน พ่วงเจ๊ปอง-สันติสุข และทีมงาน เมื่อลาเนชั่น ก็มีข่าวกลับบ้านเก่าที่ “นิว 18” ที่ว่ากันว่าจะปรับจูนช่องให้เป็น “ลุงทีวี” ด้วยการสปอนเซอร์ของ “เครือข่ายใหญ่” ต้องการ “ทีมงานที่คิดแบบเดียวกัน” มาร่วมสร้าง
ขณะที่ “ฉาย” โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึง “กนกและภรรยา” ที่ลาออก ระบุว่า “เคารพการตัดสินใจพี่กนก และพี่ปุ้ม อวยชัยให้โชคดีครับ คำถามและคำตอบอื่นๆ “ไม่ต้องลือ” เพราะแถลงข่าว พรุ่งนี้ 12.30 น. ตึกเนชั่น”
จากนี้ไปก็ต้องจับตาดูกันว่า “กนก” จะตามไปร่วมวงกับ “เจ๊ปอง” หรือไม่ หรือ “กนกคนเดิม” เพิ่มเติมคือ ที่อยู่ใหม่ จะไปเปิดตัวกับรายการ ช่องไหน อย่างไร ?
งานนี้...โปรดติดตาม.
** ฝ่ายค้านนั่งดู!! ยกแรกตั้ง กก.สมานฉันท์ รัฐบาลฟัดกันนัว “สิระ-ปารีณา” ออกลูกหยาบคายใส่ “ชวน” จน “วิรัช” ต้องออกมากราบขอโทษ
ปัญหาวิกฤตความขัดแย้งของคนในชาติ อันสืบเนื่องมาจากการชุมนุมของกลุ่มมวลชน “ปลดแอก“ และพัฒนามาเป็น “คณะราษฎร 63” เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีลาออก และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ซึ่งยืดเยื้อมายืดเยื้อมากว่า 2 เดือน ก็ยังหาทางออกไม่ได้
แม้ที่ผ่านมาจะมีการใช้ “เวทีสภา” เพื่อหาทางประนีประนอม เปิดให้มีการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ใช้เวลาไป 2 วัน 2 คืน และจบลงด้วยการเสนอให้มีการตั้ง “คณะกรรมการสมานฉันท์” เพื่อมาร่วมหาทางออก โดยให้ “ชวน หลีกภัย” ในฐานะประธานรัฐสภาเป็นเจ้าภาพ มีรูปแบบโครงสร้างคณะกรรมการมาให้เลือก คือ 1.ให้มีคณะกรรมการ 7 ฝ่าย 2. ตัดคู่ขัดแย้งออกไปจากคณะกรรมการ 3. ให้มีบุคคลภายนอกเท่านั้นมาเป็นคณะกรรมการ ...
แต่ยังไม่ทันได้เลือกว่าจะใช้ “โมเดล” ไหน ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับความสนใจ จากทั้ง 3 ฝ่าย โดยฝ่ายผู้ชุมนุมประกาศชัดว่า “ไม่เข้าร่วม” ... ขณะที่ฝ่ายค้าน ก็ออกอาการ “กั๊ก” ถ้าจะเข้าร่วมก็เข้าร่วมแบบมีเงื่อนไข ว่าขอดูตัวคณะกรรมการ และประเด็นที่จะพุดคุยก่อนจึงจะตัดสินใจ ...ส่วนฝ่ายรัฐบาลก็ “ไม่ให้ราคา” กับคณะกรรมการชุดนี้ แถมยังออกมาวิพากษ์วิจารณ์ “ชวน หลีกภัย” ที่เป็นเจ้าภาพแบบไม่ไว้หน้า
เพราะ “ชวน” บอกว่า ได้ยกหูไปเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการ ..อาทิ “อานันท์ ปันยารชุน-พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ-สมชาย วงศ์สวัสดิ์”
“ไพบูลย์ นิติตะวัน” รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมานำร่องก่อนว่า ... ไม่เชื่อว่าคณะกรรมการสมานฉันท์ จะสามารถหาทางออกได้ เพราะอดีตนายกฯ ที่เทียบเชิญมานั้น แต่ละคนดูแล้วไม่มีใครเป็นกลาง ...ซึ่งแปลความได้ว่า แต่ละคนล้วนอยู่ฝ่ายตรงข้าม “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากเอาเข้ามาก็เหมือนเป็นการยืมมือให้มา “บีบ” นายกฯลาออกตามข้อเรียกร้องของม็อบ
เพราะ “อานันท์” ก็เพิ่งแนะนำให้นายกฯลาออกเป็นทางคลี่คลายวิกฤต ...“อภิสิทธิ์” ก็ไม่เอาลุงตู่ มาตั้งแต่ต้น ...“สมชาย” ก็เป็นคนในเครือข่ายอำนาจเก่า “ทักษิณ ชินวัตร” ... ส่วน “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต แปะยี่ห้อโซ่ข้อกลาง “รัฐบาลแห่งชาติ” ก็ไม่เข้าทางรัฐบาลอยู่ดี
ดูแนวทางแล้วบทสรุป ข้อเสนอของคณะกรรมการชุดนี้ ต้องบอกให้ “ลุงตู่” ลาออกแน่ๆ แล้วอย่างนี้จะให้พรรคพลังประชารัฐ รับได้อย่างไร ?
“สิระ เจนจาคะ” ส.ส.พลังประชารัฐ “เกรียนสภา” ตัวจริงจึงออกมาถล่ม “ชวน หลีกภัย” แบบไม่ต้องมีสัมมาคาระกันล่ะ ... ถามว่าใช้อำนาจอะไรมาเลือกคณะกรรมการ โดยที่ไม่ถามความเห็นสมาชิกสภา และคนที่เชิญเข้ามาก็ล้วนแต่ ล้าสมัย เก่าแก่ หมดสภาพ น่าจะเอาไปดองเค็ม มากกว่าจะมาชี้ทางปรองดอง
ขณะที่ “ชวน หลีกภัย” ก็สะบัดมีดโกน กรีดกลับไปว่า อย่ามองผู้สูงอายุในทางลบ ถึงขั้นว่าเอาไป “ดองเค็ม” คนที่พูดระวัง “ดองฟอร์มาลิน”
แต่ “สิระ” ก็ยังย้อนว่า “ชวน” อาจโดนแช่ฟอร์มาลินก่อน... จากนั้น “เอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ ในฐานะ “เพื่อนสิระ“” ก็ออกมาร่วมแจมด้วยการโพสต์เฟซบุ๊ก ติดแฮชแท็ก มีทั้ง #อย่าขู่เพื่อนฉัน #ชวนขู่สิระ #ชวนเชื่องช้า มีดโกนทื่อ...
“ราเมศ รัตนะเชวง” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ อดรนทนไม่ไหวที่เห็น “ปูชนียบุคคล” ของพรรค ถูกก้าวล่วง จึงซัดกลับ “สองคู่หู” ไปว่า ถ้าพรรคพลังประชารัฐ ยังให้คนเหล่านี้ออกมาทำตัวเพี้ยนๆ บ้าๆ บอๆ ความสมานฉันท์คงเกิดขึ้นยาก คนอื่นพยายามช่วยแก้ปัญหาบ้านเมือง แต่คนเหล่านี้เอาน้ำมันมาราดตลอด แล้วจะเดินหน้ากันอย่างไร เป็นถึง ส.ส. แต่ทำตัวเหมือน “นมหมดอายุ”
กลายเป็นว่า ส.ส.รัฐบาลออกมาฟัดกันนัว ถึงขั้นขู่จะฟ้องร้อง... “วิรัช รัตนเศรษฐ” ส.ส. พลังประชารัฐ ในฐานะวิปรัฐบาล ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เห็นท่าไม่ดี ปล่อยไปก็ขายหน้าชาวพารา จึงออกมาขออภัยประธานรัฐสภา และบอกว่าจะเข้าไปกราบขอโทษอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
นี่แค่เริ่มต้นจะตั้ง “กรรมการสมานฉันท์” ยังเป็นไปได้ขนาดนี้ แล้วจะพึ่งหวังอะไรในบั้นปลายว่าจะได้ทางออกของวิกฤตประเทศ !!