xs
xsm
sm
md
lg

นี่ไง “คณะลาบ” วงเหล้า “ธนาธร” และ แกนนำเด็กปลดแอก-ฟ้าเดียวกันครบทีม เบื้องหลังขบวนการ “คณะราษฎร” ที่แท้ทรู !! **คณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ แค่เริ่มก็ส่อว่าจะเหลว เมื่อทุกฝ่ายตั้งแง่ กลุ่มผู้ชุมนุมไม่เข้าร่วม ฝ่ายค้านยังกั๊ก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์







ข่าวปนคน คนปนข่าว

**นี่ไง “คณะลาบ” วงเหล้า “ธนาธร” และ แกนนำเด็กปลดแอก-ฟ้าเดียวกัน ครบทีม เบื้องหลังขบวนการ “คณะราษฎร” ที่แท้ทรู !!

เรื่องนี้ต้องบอกว่า ให้ภาพแทนคำบรรยาย เมื่อชาวโซเชียลฯ แคปและแชร์รูปภาพจากเฟซบุ๊ก punsak srithep ของ “พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ” ผู้ที่ถูก คสช.ฟ้อง และมี “อานนท์ นำภา” เป็นทนายว่าความให้ โดยเป็นรูปภาพบรรยากาศการดื่มกิน สุรา พร้อมกับแกล้ม ที่มีเนื้อดิบวางในวงอย่างโดดเด่น ซึ่งผู้เข้าร่วมมีทั้ง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, อานนท์ นำภา, สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว”, ไผ่ ดาวดิน หรือ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา รวมถึง ธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการนิตยสารฟ้าเดียวกัน “ลูกน้องธนาธร” ร่วมวงด้วย เรียกว่าพร้อมหน้าพร้อมตา
ว่ากันว่า โพสต์นี้ของ “พันธ์ศักดิ์” โพสต์ไว้ภายหลัง “อานนท์ นำภา” หนึ่งในแกนนำคณะราษฎร ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งวงเหล้า ก็น่าจะเป็นงานเลี้ยงต้อนรับอานนท์ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

อานนท์ นำภา - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ส่วนคนอิ่นๆ พันธ์ศักดิ์ได้โพสต์ตอนหลังตามมาหลังชาวเน็ตแชร์ว่า เหตุที่มาร่วมก็มาปรึกษาหารือเรื่องคดีกับอานนท์
และจากโพสต์ที่แชร์ต่อๆ กันไป มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก และมีไม่น้อยที่บอกว่า ภาพความสัมพันธ์ของคนใน “วงเหล้า” พร้อมกับแกล้มเนื้อดิบ “คณะลาบ” กลุ่มนี้ เป็นการบ่งบอกตามที่หลายฝ่ายได้วิเคราะห์ข้อมูลและเฝ้าติดตามการก่อตัวของ “ม็อบ 3 นิ้ว” ถึง ขบวนการที่อยู่เบื้องหลังหนุนให้แกนนำเยาวชนออกมาเคลื่อนไหวนั้น มีทั้งนักการเมือง นักธุรกิจนายทุน นักวิชาการ นักเคลื่อนไหวองค์กรต่างชาติ กลุ่มโซเชียลมีเดียต่างชาติ กลุ่ม NGO และรัฐบาลต่างชาติ ที่มีทัศนคติ และการปฏิบัติการไปในทิศทางเดียวกันกับ “ธนาธร และ ปิยะบุตร แสงกนกกุล” สองคู่หูแห่งคณะก้าวหน้า เพียงแต่ที่ผ่านมา ธนาธรและปิยะบุตร ไม่ได้ออกมาเป็นแกนนำม็อบด้วยตัวเอง จนถูกตั้งฉายา “กล้าทำไม่กล้ารับ” เป็น “อีแอบ” ที่ให้เยาวชนออกหน้า
งานนี้เป็นที่รู้กันชัดๆ ละว่า นี่ไง..วงเหล้าคณะลาบ-น้ำตก เบื้องหลังคณะราษฎรที่แท้ทรู



**คณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ แค่เริ่มก็ส่อว่าจะเหลว เมื่อทุกฝ่ายตั้งแง่ กลุ่มผู้ชุมนุมไม่เข้าร่วม ฝ่ายค้านยังกั๊ก รัฐบาลไม่เอาอดีตนายกฯ ที่ไม่ยืนข้าง “บิ๊กตู่” มาเข้าร่วม

ชวน หลีกภัย
หลังรัฐบาลเสนอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากสมาชิกรัฐสภา เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาวิกฤตประเทศ อันเนื่องมาจากการชุมนุมของ “คณะราษฎร” ที่ยื่น 3 ข้อเรียกร้อง ให้นายกฯลาออก แก้ รธน. และปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ... ถกกัน 2 วัน 2 คืน ได้ข้อสรุปว่า ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อเสนอแนวทางปรองดอง สมานฉันท์ของคนในชาติ โดยให้รัฐสภาเป็นเจ้าภาพดำเนินการ
“ชวน หลีกภัย” ในฐานะประธานรัฐสภา จึงประสานไปยังสถาบันพระปกเกล้า ให้ช่วยออกแบบโครงสร้างของคณะกรรมการชุดนี้พร้อมประเด็นที่ควรจะนำมาหารือกัน...ซึ่งสถาบันพระปกเกล้าก็เสนอมา 2 แบบให้เลือก แบบที่ 1 ให้มีผู้แทนจากฝ่ายต่างๆ เช่น ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ตัวแทนของฝ่ายรัฐบาล ตัวแทนของวุฒิสภา และตัวแทนขององค์กรอื่น มาร่วมเป็นกรรมการ... แบบที่ 2 ให้มีคนกลางที่มาจากการเสนอของฝ่ายต่างๆ หรือประธานรัฐสภา เป็นผู้สรรหาหรือแต่งตั้งคณะกรรมการ หรือถ้าไม่เป็นที่ถูกใจ ก็มีแบบที่ 3 คือ เป็นการผสมผสาน ระหว่างแบบที่ 1 กับแบบที่ 2
แต่ยังไม่เป็นที่ตกลงว่าจะเลือกแบบใด ก็เกิดปัญหาขึ้นแล้ว เมื่อ “ชวน หลีกภัย” บอกว่าได้ยกหูไปขอให้อดีตผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ที่มีประสบการณ์ อย่างอดีตนายกฯ อดีตประธานรัฐสภา เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการ โดยในส่วนของอดีตนายกฯ นั้น “อานันท์ ปันยารชุน - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ- พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” ได้ตอบรับแล้ว ส่วน “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อยู่ต่างประเทศ ยังติดต่อไม่ได้
เท่านั้นเอง “สิระ เจนจาคะ” ส.ส.พลังประชารัฐ ก็ออกมาโวย “ชวน หลีกภัย” ว่ารวบอำนาจไปเชิญอดีตนายกฯ โดยที่ยังไม่ได้ปรึกษาหารือกับสมาชิกสภาก่อน โดยเฉพาะคนที่ไปเชิญมาล้วนเป็นผู้สูงอายุ “เก่าแก่ ล้าสมัย หมดสภาพ” เหมาะที่จะเอาไป “ดองเค็ม” มากกว่าจะมา “ปรองดอง”

สิระ เจนจาคะ - สุทิน คลังแสง
...ที่สำคัญคือ แต่ละคนล้วนมีจุดยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทั้งสิ้น...อย่าง “อานันท์” ก็เพิ่งเสนอให้นายกฯลาออก ...ส่วน “อภิสิทธิ์” นี่ชัดมาตั้งแต่ต้นว่าไม่เอารัฐธรรมนูญ ไม่เอารัฐบาลสืบทอดอำนาจ ...ยิ่ง “สมชาย” ก็รู้ๆ กันอยู่แล้วว่าเป็นคนของใคร
ก็ไม่รู้ว่า “สิระ” ได้รับสัญญาณจากผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรค ในรัฐบาล หรือต้องการเป็นข่าวตามประสา “ขาเปรี้ยว” ประจำสภา จึงได้ออกมาทะลุกลางปล้องแบบ “ไม่มีสัมมาคารวะ” เช่นนี้
ขณะที่ “สุทิน คลังแสง” ประธานวิปฝ่ายค้าน จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนหน้านี้แสดงท่าทีว่าฝ่ายค้านจะไม่เข้าร่วม ก็ออกมาพูดในเชิงแบ่งรับแบ่งสู้ ว่าขอรอดูท่าทีก่อนว่าคณะกรรมการฯที่ตั้งขึ้นมานี้จะเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายหรือไม่ มีภาคประชาสังคมเข้าร่วมหรือไม่ และจะมีการพุดคุยถึง 1 ใน 3 ข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม ที่เป็นประเด็นละเอียดอ่อน... ซึ่งก็หมายถึง “การปฏิรูปสถาบันฯ” หรือไม่ !!

แกนนำคณะราษฎร
ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุม “คณะราษฎร” นั้นแถลงชัดเจนว่า “ไม่เข้าร่วม” เพราะไม่เชื่อว่าคณะกรรมการชุดนี้จะแก้ปัญหาได้ ตราบใดที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหายังไม่ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ... การตั้งคณะกรรมการชุดนี้ จึงเป็นเพียง “ละครการเมือง” ของฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น
พร้อมย้ำ 3 ข้อเรียกร้องเดิมคือ นายกฯลาออก ... ต้องมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และ ต้องมีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ... นอกเหนือจากนี้จะไม่มีการเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น

...แม้ว่าแนวคิดการตั้ง “คณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์” เพื่อมาร่วมกันหาทางออก คลี่คลายวิกฤตประเทศ.. แม้จะไม่มีอำนาจ “ทุบโต๊ะสั่งการ” ไม่มีผลผูกพันกับองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ... แต่ถ้าคำแนะนำที่ออกมานั้น เป็นแนวทางที่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นคล้อยตาม ก็น่าจะจะเกิดพลังในทางกดดันทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ นำไปปฏิบัติได้

แต่เมื่อจับท่าทีของแต่ละฝ่าย ทั้ง “รัฐบาล-ฝ่ายค้าน-ผู้ชุมนุม” ต่างตั้งแง่ แบบไม่ยอมลดราวาศอกกันอย่างที่เห็น คณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ ก็คงพึ่งหวังได้ยาก ว่าจะเป็นเครื่องมือผ่าทางตันในวิกฤตครั้งนี้




กำลังโหลดความคิดเห็น