ข่าวปนคน คนปนข่าว
** "เนฉาย”จาก “สลิ่มWay”ดึง “CEOเก่าเนชั่น” รีเทิร์นหวังฟื้น “Nation Way” แต่ระวังจะได้ “3นิ้วWAY“มาก่อน !!
กรณี "ฉาย บุนนาค" ประธานเครือเนชั่น สั่งปรับทิศทางนำเสนอเนื้อหาของ "เนชั่นทีวี" เพื่อลดดีกรีของภาพลักษณ์ “สื่อเลือกข้าง”และ ต้องการสลายร่าง “สื่อสลิ่ม” ซึ่งถือเป็นไฟต์บังคับ เพราะนโยบายเดิมที่เคยร่วมกับ “ต้อย”สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม สร้าง "สลิ่มWay"จนส่งผลต่อธุรกิจ-สปอนเซอร์ของเนชั่นและผู้ถือหุ้น ทำให้มีผู้บริหารยุค“เนชั่น-เนฉาย” ที่ดึงตัวมาทำงานถูกปลดออก เช่น "ฉัตรชัย ภู่โคกหวาย" คนสนิทของ “ต้อย”สนธิญาณ ตามด้วยการทยอยลาออกของ พิธีกรผู้ประกาศข่าวคนดัง "เจ๊ปอง-อัญชะลี ไพรีรัก -สันติสุข มะโรงศรี" จนมาถึง “กนก รัตน์วงศ์สกุล” และคูหู "ธีระ ธัญไพบูลย์" รายล่า และคนอื่นๆ ร่วม10 คน
เมื่อดาวดังและทีมงานโบกมือลา แน่นอนว่าย่อมทำให้เกิดความระส่ำระสาย กระส่ายกระสับนั่งไม่ติดของ "ฉาย บุนนาค" ต้องขนคณะทำงานผู้บริหารที่เหลือออกสื่อแถลงข่าวสร้างความเชื่อมั่น ปลอบขวัญคนที่อยู่ในองค์กรใม่ให้ขวัญหายไปมากกว่านี้ โดยคำถามที่สนใจกันคือ ทิศทางต่อจากนี้ของ"เนชั่น" จะเป็นอย่างไร ?
"ฉาย"ย้ำว่าจะไม่มีการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น และจะมุ่งมั่นทำงานข่าวอย่างมืออาชีพ คนที่ลาออกไปถือเป็นเรื่องปกติของธุรกิจ เนชั่นไม่ได้ขายดารา ผู้ประกาศ แต่ขายความน่าเชื่อถือ ขายความจริง เราเป็นดั่งกระจกสะท้อนสังคมที่บิดเบี้ยว แต่เราก็ต้องไม่ทำตัวบิดเบี้ยวเสียเองด้วย
แต่เพื่อกู้ชื่อ"เนชั่น" ที่ความน่าเชื่อถือล้มละลายไปกับความเป็น "สลิ่มWay" และเพื่อกอบกู้สถานการณ์ภายในที่อยู่ในภาวะเลือดไหล ในพฤหัสบดีนี้ (13 พ.ย) "ฉาย" จะเสนอบอร์ด NBCแต่งตั้ง “อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ”อดีตผู้บริหารเนชั่นทีวี และผู้ก่อตั้ง เข้ามานั่งตำแหน่ง “กรรมการผู้จัดการ”เนชั่นทีวี หลังจากนั้นจะเข้ามาบริหารงานในสัปดาห์หน้า
การที่"ฉาย"เลือกดึงตัว “อดิศักดิ์”อดีตซีอีโอเนชั่นทีวี กลับมารังเก่า เชื่อกันว่าต้องการดึงภาพลักษณ์ของเนชั่นในสมัยยุค "สุทธิชัย หยุ่น" กลับคืนมาเพื่อลบล้างภาพ "สื่อสลิ่ม" เพราะคนเนชั่นยุคสุทธิชัย จะคุ้นเคยกับวิถีของการทำสื่อแบบสุทธิชัย หรือ“Nation Way"
พูดง่ายๆ "ฉาย" คิดอาศัยคนเก่าของเนชั่น–ที่มาพร้อมภาพ Nation Wayให้มาช่วยลบล้างภาพสื่อเนชั่นยุคนี้ ที่ตัวเขาเองเป้นคนสร้างขึ้น หลังเทกโอเวอร์บีบ "สุทธิชัย หยุ่น" พ้นเนชั่นออกไป แล้วร่วมมือกับ"ต้อย" สนธิญาณ ทำเนชั่นให้เป็น"เนฉาย" จนความน่าเชื่อถือถดถอย และกลายเป็นสื่อที่สู้กับ"ม็อบ 3 นิ้ว" และฝั่งตรงข้ามแทนรัฐบาลแบบสุดลิ่มทิ่มประตู
ว่าไปแล้วก็ดูตลกๆ "เนชั่นมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร" ตอนนั้น ฉายเอาอกเอาใจสนธิญาน และพวก ที่ถูกขอร้องให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในเนชั่นให้ ฉาย เพราะการต่อสู้เพื่อให้เข้ามาครอบงำเนชั่นของฉาย รู้กันดีว่าเป็นการเทกโอเวอร์แบบไม่เป็นมิตร กลุ่มคนเก่าๆ ของเนชั่น "ตั้งข้อรังเกียจฉาย" ทำใจไม่ได้ที่ฉายซึ่งเป็นนักลงทุนหวือหวา เข้ามาพร้อมกับการจากไปของ "สุทธิชัย หยุ่น และ Nation Way"
ตอนนี้ สถานการณ์การเมืองกดดัน กลับกลายเป็นว่า"ฉาย" รังเกียจความเป็น “สื่อสลิ่ม”ถึงขนาดกลับลำดึงผู้บริหารกลุ่มเก่าเข้ามา และคาดหวังจะพลิกฟื้นเนชั่น ด้วย Nation Wayคล้ายๆ เป็น "คนสองบุคลิก" เดี๋ยวสลิ่ม เดี๋ยวเนชั่นเวย์ คาดเดาไม่ได้ !!
ขณะที่ "เจ๊ปอง-อัญชะลี ไพรีรัก" "สันติสุข มะโรงศรี" จนไปถึง“กนก รัตน์วงศ์สกุล-ธีระ ธัญไพบูลย์" และพวก ที่เพิ่งลาออกไป จากคำพูดของ"ฉาย" ที่แถลงข่าววันวานตามหลังฟังแล้วเป็นว่า กลุ่มพิธิกร –ผู้ประกาศข่าวเหล่านี้ ถูกตีความ หรือถูกสาดโคลนเข้าจังๆว่า “ทำตัวบิดเบี้ยว”ทำให้ช่วงที่ผ่านมา ช่องเนชั่น Nation wayบิดเบี้ยวไปชั่วขณะ ทำนองผิดจากนี้ไม่ใช่เรา !
แว่วว่า ก่อนที่"ฉาย"จะออกโรงกลับลำจาก "สลิ่มเวย" มาหนุน Nation wayได้ติดต่อทาบทาม“อดิศักดิ์”ไว้ล่วงหน้ามาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งอดีต CEOเก่าเนชั่น นั้นตอนแรกก็คิดหนัก เพราะกลัวจะเอาชื่อเสียงมาทิ้ง หากเนชั่นยังเป็นแบบเดิม จึงตั้งเงื่อนไขหลายอย่างกับ "ฉาย" ทั้งเรื่องให้ผ่านบอร์ดรับรองแต่งตั้ง และรอจนพวกพิธีกร "บิดเบี้ยว"จะออกไป
ที่สำคัญ "อดิศักดิ์" ไม่ปลื้มกับความเป็น "สื่อสลิ่ม-สลิ่มเวย์" ของ"เนฉาย" อย่างแรง และมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า ส่วนตัวอดีตCEO เนชั่นทีวี คนนี้ดูจะชื่นชม ชื่นชอบ มีแนวความคิดไปทางเดียวกับ "ม็อบ3นิ้ว" ซะด้วย!!
หลังจากนี้ต้องจับตาดูกันให้ดีๆ เมื่อ"เนฉาย" ได้CEOเก่าเนชั่นมา จะเปลี่ยนจากสลิ่มเวย์ จะเป็น Nation Wayได้มั้ย หรือ ระหว่างทางจะได้ "3นิ้วWay"มาก่อนหรือไม่ ?
งานนี้สนุกล่ะ ...ก็โปรดติดตามกันต่อไป
**เบื้องหลังทัวร์ลง "กันต์" พิธีกรรายการ “10 Fight 10” หลังเสร็จศึกชิงน้อยหน่า ระหว่าง "แน็ก ชาลี" กับ "เจมส์ บีโอวาย"
กลายเป็นเรื่องดรามา ทัวร์ลง พิธีกรคนดัง "กันต์ กันตถาวร" ของช่องเวิร์คพอยท์ จากการแข่งขัน "10 Fight 10 ซีซั่น 2" ระหว่าง "แน็ก ชาลี" และ "เจมส์ บีโอวาย" ในคอนเซ็ปต์ "ศึกชิงน้อยหน่า" !!
การประกบมวยคู่นี้ มี "กิมมิก" ที่จะใช้โปรโมต เรียกเรตติ้งจากผู้ชม โดยมี "น้อยหน่า" หรือ "โฟกัส จิระกุล" เป็นตัวต้นเรื่อง ...
อันนี้ต้องย้อนไปถึงเรื่องราวในหนัง "แฟนฉัน" ที่ "แน็ก ชาลี ไตรรัตน์" รับบทเป็น "เจี๊ยบ" เพื่อสนิท หรือจะเรียกว่าแฟนในวัยเด็กของ "น้อยหน่า" ที่แสดงโดย "โฟกัส จิระกุล" ... ส่วน "เจมส์ บีโอวาย" หรือ เจมส์ กิจเกษม แมคแฟดเดน คือแฟนตัวจริงในปัจจุบันของโฟกัส
จึงเป็นที่มาของ "ศึกชิงน้อยหน่า" ที่ผู้จัดโปรโมตคล้ายๆ กับศึกชิงนางระหว่างแฟนเก่ากับแฟนปัจจุบัน อะไรประมาณนั้น !!
ผลการชกปรากฏว่า "เจมส์ บีโอวาย" เป็นฝ่ายชนะ "แน็ก ชาลี" ซึ่งผลการตัดสินแฟนๆ ผู้ชมก็ไม่ได้มีใครติดใจอะไร แต่ประเด็นดรามากลับตกไปเป็นของพิธีกรรายการอย่าง “กันต์ กันตถาวร”แทน
เพราะเมื่อผลการตัดสินออกมา "โฟกัส" ที่มาเชียร์อยู่ด้วย ก็หิ้วถุงน้อยหน่าขึ้นไปแสดงความยินดีกับทั้งคู่บนเวที แต่ "กันต์" พิธีกรในรายการกลับไม่ให้ซีน "โฟกัส" ไม่พูดคุย ไม่สัมภาษณ์ กล้องก็ไม่จับภาพ เหมือนไม่มีตัวตนในขณะนั้น ทั้งที่เป็น "ตัวต้นเรื่อง" ของมวยคู่นี้ ...
เมื่อ"กันต์" โพสต์ภาพลงในอินสตาแกรม และเฟซบุ๊ก ก็เกิดดรามา "ทัวร์ลง" จากแฟนๆ รายการทันที ...ไม่มีสปิริต ไม่เป็นมืออาชีพ ไม่ให้เกียรติ แยกแยะไม่ออกระหว่างการทำหน้าที่กับการแสดงออกทางการเมือง ...ทั้งยังลามไปว่าใช้คำพูดไม่เหมาะสมกับ"แน็ก ชาลี" แซวว่าแน็กป่วย ที่ชอบคุยกับสัตว์เลี้ยง
ก็จะไม่ให้ "กันต์" ทำเมินได้อย่างไร ในเมื่อ "โฟกัส" หอบหิ้วถุงน้อยหน่า สีเหลือง กับสีแดง ขึ้นไปบนเวที จัดเต็มด้วยการใส่ชุดสีดำ "ผูกโบว์สีขาว" ทั้งที่ผม และที่ข้อมือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเรียกร้องทางการเมืองของกลุ่ม "เยาวชนปลดแอก" ในขณะนี้ ... ซึ่ง"โฟกัส" ก็แสดงจุดยืนผ่านทางโซเชียลฯ อยู่เนืองๆ จนที่เป็นรับรู้กันว่าตัวเธอนั้นอยู่ในกลุ่ม "ชู3 นิ้ว"
ขณะที่ "กันต์" ก็คงได้รับสัญญาณจากทีมงานคณะผู้จัด หรือผู้บริหาร "เวิร์คพอยท์" ให้ระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงเรื่องการแสดงจุดยืนทางการเมืองผ่านทางรายการ เพราะช่วงนี้กระแสการเมืองกำลังแรง ... ต่างจากตอนประกบคู่มวย ซึ่งช่วงนั้น การชุมนุมอาจจะยังไม่ร้อนแรงเหมือนขณะนี้ อีกทั้งตอนนั้นก็ยังไม่มีใครรู้ว่า "โฟกัส" มีจุดยืนทางการเมืองอย่างไร
...จะว่าไปแล้วก็เป็นสิทธิ เป็นเสรีภาพ ของ "โฟกัส" ที่จะเลือกแสดงจุดยืน แสดงความคิดเห็น และแสดงออกในทางการเมืองอย่างไร
เช่นเดียวกับ "กันต์" เมื่อได้รับการกำชับจากทีมงาน ผู้บริหาร ก็ย่อมเป็นห่วง "หม้อข้าว" ของตัวเอง จึงพยายามเลี่ยงในสิ่งที่ล่อแหลม ที่จะสร้างปัญหาตามมา
เรียกว่าทั้งคู่ต่างมี "วาระซ่อนเร้น" อยู่ในใจ !!
อย่างไรก็ตาม ในบรรดา"บูลลี่-ทัวร์ลง" นั้น ก็มีไม่น้อยที่แสดงความเห็นอกเห็นใจ และบอกว่า "กันต์" ทำถูกแล้ว เพราะรายการชกมวย ไม่ใช่รายการการเมือง เลี่ยงได้เป็นดีที่สุด ใครจะแสดงจุดยืนก็ควรไปแสดงที่กลุ่มตัวเอง ไม่ใช่ถือโอกาสมาใช้รายการของคนอื่น ... มารยาทไม่ดีเอง ผูกโบว์มาซะขนาดนั้น... มีแต่คนไม่มีสมองที่จะไม่คิดว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ ...
นี่คือเบื้องหลัง เป็นอาฟเตอร์ช็อกของ "ศึกชิงน้อยหน่า" ส่วนจะมีประเด็นดรามาต่อเนื่องไปอีกแค่ไหน ก็ต้องติดตามกันต่อไป