“สันติสุข มะโรงศรี” อดีตผู้ประกาศข่าวเนชั่น โต้ “วีระศักดิ์ พงศ์อักษร” 1 ใน 3 บก.เนชั่น กล่าวหาว่าการทำงานของสถานีที่ผ่านมาบิดเบี้ยว ยันไม่เคยบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีใคร เจอแต่พวกกล่าวหาเลื่อนลอย ย้ำเสรีภาพสื่อไม่ใช่ให้ใครโกหกแบบไม่รับผิดชอบคนดู ถามถ้าโต้ม็อบด่าในหลวงด้วยความจริง แล้วพาลกดดันภาคสนามจะโทษใคร
วันนี้ (11 พ.ย.) ในการแถลงข่าวของนายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหารเครือเนชั่น ที่ชี้แจงการลาออกของผู้ประกาศข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าว โดยเฉพาะนายกนก รัตน์วงศ์สกุล และนายธีระ ธัญไพบูลย์ สองผู้ดำเนินรายการข่าวที่อยู่กับเครือเนชั่นมานานกว่า 20 ปี รวมทั้งการทาบทามนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเนชั่นทีวี กลับมานั่งเป็นผู้บริหารอีกครั้ง เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา
ในตอนหนึ่ง นายวีระศักดิ์ พงศ์อักษร บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ที่ถูกนายฉัตรชัย ภู่โคกหวาย กรรมการผู้จัดการเนชั่นทีวีขณะนั้นสั่งระงับรายการเนชั่นสุดสัปดาห์กับ 3 บก. กล่าวว่า การทำงานที่ผ่านมาของสถานีบิดเบี้ยว รู้สึกเศร้าใจที่ผู้สื่อข่าวภาคสนามเวลารายงานข่าวการชุมนุมต้องหลบๆ ซ่อนๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ดูแลสื่อทีวี บางคนต้องปิดไมค์ ต้องไม่มีไมค์เนชั่น หรืออยู่ห่างจากม็อบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยดี ขณะที่ช่องอื่นๆ สามารถรายงานตรงกลางม็อบ กลางมวลชนได้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดคำถามว่าถึงจุดนี้ได้อย่างไร เพราะฉะนั้น สิ่งที่ดีที่สุดก็คือการกลับไปสู่การทำหน้าที่สื่ออย่างแท้จริง เป็นสถาบันสื่อ ทุกคนก็มีภาคภูมิใจได้มากที่สุด การที่เราดึงกลับ แม้ว่าจะบิดเบี้ยวไปบ้างระยะหนึ่ง เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ถ้าทุกคนช่วยกัน
ข้อกล่าวหาดังกล่าว ทำให้นายสันติสุข มะโรงศรี อดีตผู้ดำเนินรายการขยี้ข่าวเช้า เนชั่นทันข่าว ขยี้คดีโกง และข่าวมีระดับ ที่ลาออกจากเครือเนชั่นไปก่อนหน้านี้ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “ผมก็ว่าผมเดินออกไปดีๆ แล้วนะครับ ผมยืนยันว่าทุกรายการที่ผมทำหน้าที่จนถึงนาทีสุดท้าย ไม่เคยโกหกบิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสีใคร มีแต่พวกไปกล่าวหาแบบเลื่อนลอย แถมตัดต่อใส่ร้ายอีกต่างหาก แน่นอน ผมเคยตอบโต้ เอาหลักฐานข้อมูลจริงมาชี้แจงหักล้างพวกโกหก โดยเฉพาะโกหกใส่ร้ายในหลวง และผมทำต่อไปแน่ อย่างสุภาพชน เสรีภาพสื่อ ต้องไม่ใช่เสรีภาพให้ใครมาโกหกยังไงก็ได้ โดยไม่รับผิดชอบต่อคนดูนะครับ ถ้าการตอบโต้ม็อบด้วยข้อมูลจริง แล้วทำให้ม็อบที่ด่าในหลวงด้วยคำหยาบคายไม่พอใจ จนพาลไปกดดันคุกคามนักข่าวภาคสนาม เราควรโทษใครครับ” นายสันติสุขกล่าว
นอกจากนี้ นายสันติสุขยังนำตัวเลขเรตติ้งรายการสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี วันที่ 26 ต.ค.ถึง 1 พ.ย. 2563 ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการจัดรายการก่อนที่จะลาออกไป พบว่ารายการเนชั่นทันข่าวเย็น มีตัวเลขเรตติ้งที่ 0.739 ซึ่งถือว่าเป็นรายการที่มีเรตติ้งสูงที่สุดของช่อง, รายการข่าวมีระดับ เนชั่นท็อปนิวส์ มีตัวเลขเรตติ้งที่ 0.493, รายการขยี้คดีโกง มีตัวเลขเรตติ้งที่ 0.475 และรายการขยี้ข่าวเช้า มีตัวเลขเรตติ้งที่ 0.393
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนหน้านี้เครือเนชั่นมีความขัดแย้งกันระหว่างกลุ่มของนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ที่ประกอบด้วย นายฉัตรชัย ภู่โคกหวาย กับกลุ่ม “3 บก.” นำโดย นายวีระศักดิ์ พงศ์อักษร บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ, นายบากบั่น บุญเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ และนายสมชาย มีเสน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเครือเนชั่น ชนวนหนึ่งคือการที่นายฉัตรชัยซึ่งเป็นผู้บริหารเนชั่นทีวีขณะนั้นสั่งยุติการออกอากาศรายการเนชั่นสุดสัปดาห์กับ 3 บก.เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2563 เนื่องจากไม่เป็นไปตามนโยบายช่อง
แต่ภายหลังนายฉายกลับเปลี่ยนนโยบายให้เน้นความเป็นกลาง หลังได้รับผลกระทบจากการแบนโฆษณาเนชั่นของฝ่ายผู้ชุมนุมคณะราษฎร 2563 และการขายทิ้งหุ้นเนชั่นของกลุ่มบีทีเอส ทำให้ผู้ประกาศข่าวและพนักงานตัดสินใจลาออกอย่างเป็นทางการเกือบ 10 คน มาตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา