xs
xsm
sm
md
lg

“สถาพร” โต้ข้อกล่าวหาบิดเบี้ยว การทำงานเนชั่นทีวี ย้ำไม่เคยบิดเบือน-ไม่เอาความจริงครึ่งเดียว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตผู้ดำเนินรายการเนชั่นทีวี โต้กลับข้อกล่าวหา "บิดเบี้ยว" ถาม “สังคมบิดเบี้ยวเพราะสื่อบิดเบือน หรือใครปิดบังความจริง?” ชี้องค์กรสื่อเปรียบเหมือนกับร้านอาหาร สังคมบิดเบี้ยวจะโทษผู้ประกาศไม่ถูก ย้ำที่ผ่านมาไม่บิดเบือน ไม่เสนอ “ความจริงครึ่งเดียว” เพื่อผลประโยชน์ ซัดเลวยิ่งกว่าไม่นำเสนอเสียอีก

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. จากกรณีที่นายวีระศักดิ์ พงศ์อักษร บรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ หนึ่งในกลุ่ม 3 บก. กล่าวในระหว่างแถลงข่าวชี้แจงสถานการณ์การลาออกของผู้ประกาศข่าว สถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี ของนายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหารเครือเนชั่น ระบุว่า การทำงานที่ผ่านมาของสถานีบิดเบี้ยว ผู้สื่อข่าวภาคสนามต้องหลบๆ ซ่อนๆ บางคนต้องปิดไมค์ ต้องไม่มีไมค์เนชั่น หรืออยู่ห่างจากม็อบ สิ่งที่ดีที่สุดก็คือการกลับไปสู่การทำหน้าที่สื่ออย่างแท้จริง ทำให้นายสันติสุข มะโรงศรี อดีตผู้ดำเนินรายการ ตอบโต้ ยืนยันว่าทุกรายการที่ทำไม่เคยโกหกบิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสีใคร มีแต่พวกไปกล่าวหาแบบเลื่อนลอย แถมตัดต่อใส่ร้าย ย้ำว่าเสรีภาพสื่อต้องไม่ใช่เสรีภาพให้ใครมาโกหกยังไงก็ได้ โดยไม่รับผิดชอบต่อคนดู ขณะที่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก ก็ระบุว่า เชื่อมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่เคยบิดเบือน บิดเบี้ยว ซื่อสัตย์ต่อตัวเองและวิชาชีพมาตลอด

อ่านประกอบ : จากกันด้วยไม่ดี! “สันติสุข มะโรงศรี” โต้ “วีระศักดิ์” แก๊ง 3 บก.เนชั่น ป้ายสี “บิดเบี้ยว”

"อัญชะลี" ฟาด "วีระศักดิ์-เนชั่น" กล่าวหาบิดเบี้ยว ย้ำเชื่อมั่นชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ ทำในสิ่งที่เชื่ออย่างซื่อสัตย์

นายสถาพร เกื้อสกุล อดีตผู้ดำเนินรายการเนชั่นเจาะข่าวเช้า และเนชั่นเจาะข่าว โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Sathaporn Inter News ตอบโต้นายวีระศักดิ์ ในหัวข้อ “สังคมบิดเบี้ยว เพราะสื่อบิดเบือน หรือเพราะใครพยายามปิดบังความจริง?” ระบุว่า

“สังคมยุคปัจจุบันที่อาจเรียกได้ว่าเป็นสังคมยุคสื่อสาร ชึ่งความเจริญก้าวหน้าหรือความอยู่รอดของสังคมขึ้นอยู่กับคนในสังคม ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องทันเวลา และปรับตัวได้อย่างเหมาะสม ดังนั้นสื่อจึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะสื่อมีบทบาทสำคัญในการเสนอข่าวสารข้อเท็จจริง ตลอดจนสามารถชี้นำความคิดของคนในสังคมได้ สื่อสามารถที่จะแสดงบทบาทหน้าที่ในขอบเขตที่แตกต่างกัน แต่สาระสำคัญยังคงประกอบด้วย

1. การรายงานข่าวสารสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยข้อมูลข้อเท็จจริง แน่นอนว่าคุณค่าการเสนอข่าวนั้น ขึ้นอยู่กับความรวดเร็ว ถูกต้อง และมีรายละเอียดเพียงพอ

2. การแสดงความคิดเห็น ซึ่งสื่อจะต้องทำหน้าที่แทนประชาชนด้วยการเสนอความเห็น ตั้งคำถามในเรื่องราวหรือเหตุการณ์ต่างๆ ต่อสาธารณชน รัฐบาล ฝ่ายค้าน ผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมีจุดมุ่งหมายในเชิงสร้างสรรค์ ชี้นำใปสู่การแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม และการให้ข้อมูลความจริง หากว่าเนื้อหาข่าวนั้นบิดเบือนหรือเป็นเท็จ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ความจริง มิใช่เพียงแต่นำเสนอข่าว ทั้งที่รู้ว่าเนื้อหาข่าวนั้นเป็นเท็จ บิดเบือน แหล่งข่าวโกหก เพราะต้องการประโยชน์อย่างหนึ่งอย่างใด และสื่อที่รับลูกก็อ้างเพียงเพราะบอกว่าสื่อต้องเป็นกลาง

3. การให้ปัญญากับผู้เสพสื่อ นอกจากรายงานข่าวแล้ว สื่อต้องทำหน้าที่ให้ปัญญากับผู้ชม ทั้งความรู้ในด้านวิชาการเฉพาะเรื่องที่นำเสนอ และความรู้ทั่วไป โดยมีจุดมุ่งหมายให้ผู้ชมเกิดการเปลี่ยนแปลงพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น

ดังนั้น การทำหน้าที่สื่อ คล้ายๆ กับการทำร้านอาหาร มีเจ้าของ มีผู้จัดการร้าน มีผู้เลือกซื้อวัตถุดิบ และมีพ่อครัว หรือเชฟ ที่คอยปรุงอาหารให้กับลูกค้า

องค์กรสื่อก็คล้ายกัน มีเจ้าของ กองบรรณาธิการเปรียบเหมือนผู้จัดการ และมีนักข่าวคือคนที่จะไปเลือกซื้อวัตถุดิบ มีผู้ประกาศที่จะคอยปรุงเรื่องราวให้ถูกปากผู้เสพสื่อ ก็เปรียบกับเชฟหรือพ่อครัว อาหารอร่อยถูกปากหรือไม่อยู่ที่เชฟ การนำเสนอข่าวจะได้รับความสนใจมากน้อยอยู่ที่ผู้ประกาศ และที่สำคัญที่สุด เมื่อวัตถุดิบสำหรับทำต้มยำกุ้ง ลูกค้าสั่งต้มยำกุ้ง พ่อครัวจะปรุงแกงจืดไปเสิร์ฟ มันใช่หรือ?

การที่บอกว่าสังคมบิดเบี้ยว และกล่าวโทษสื่อหรือผู้ประกาศ มันคงไม่ถูกนัก ส่วนตัวแล้วที่ผ่านมาทำหน้าที่พ่อครัว ปรุงรสให้ถูกปาก แต่ไม่ทำต้มยำกุ้งให้เป็นแกงจืด เพราะนั่นคือการบิดเบือน นั่นคือการไม่ทำหน้าที่เสนอสิ่งที่เป็นจริง และที่ไม่ทำอีกอย่าง คือ การเสนอความจริงแค่ครึ่งเดียว เพื่อประโยชน์บางอย่าง อันนี้เลวยิ่งกว่าการไม่นำเสนอเสียอีก เพราะคุณกำลังปิดบังความจริง อีกไม่นานความจริงจะปรากฏ ผู้ชมจะตัดสินคุณเอง อย่าปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ”




อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ MGR Online นำเสนอข่าวนี้ออกไป พบว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (12 พ.ย.) นายสถาพรได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชี้แจงภายหลังว่า ไม่ได้อัดใคร ไม่เอ่ยชื่อใคร เขียนบนหลักความจริงในการทำงาน พร้อมวอนว่าอย่าบิดเบือน อย่าพาดหัวเสี้ยม ยืนยันว่าออกมาดีๆ ไม่ได้มีปัญหากับใคร
กำลังโหลดความคิดเห็น