xs
xsm
sm
md
lg

เปิดประวัติ “อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ” ในวันที่ “ฉาย บุนนาค” ทาบทามกลับมาคุม “เนชั่นทีวี”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เปิดประวัติ “อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ” ผู้ที่ “ฉาย บุนนาค” ประธานเครือเนชั่นทาบทามเข้ามาเป็นผู้บริหาร เคยอยู่กับเนชั่นมานาน เป็น บก.กรุงเทพธุรกิจตั้งแต่ปี 35 และเนชั่นทีวียุคแรกเริ่ม ก่อนลาออกไปสมัคร ผอ.ไทยพีบีเอส และก่อตั้งแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์มานานกว่า 3 ปี จับตาทิศทางข่าวนับจากนี้จะไปทางไหน?

การแถลงข่าวของนายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหารเครือเนชั่น เกี่ยวกับการลาออกของผู้ประกาศข่าวแม่เหล็กอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง “กนก รัตน์วงศ์สกุล” ผู้ประกาศข่าวชื่อดังที่อยู่กับเนชั่นมานานกว่า 24 ปี พบว่าหนึ่งในนั้นคือการประชุมคณะกรรมการบริหารเพื่อหารือเกี่ยวกับการตั้งผู้บริหารเนชั่นทีวีคนใหม่ โดยจะเสนอชื่อ “อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ” อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเนชั่นทีวี กลับมานั่งเป็นผู้บริหารอีกครั้ง เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสื่อ และปรับปรุงเนชั่นทีวีให้เป็นสถาบันสื่อมืออาชีพ (Nation Way) ที่ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง

สำหรับนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ อายุ 60 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี พาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ตั้งแต่ปี 2535 กระทั่งสถานีโทรทัศน์เนชั่นแชนแนล ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2543 นายอดิศักดิ์จึงดำรงตำแหน่งบรรณาธิการบริหารเนชั่นทีวี เป็นกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บอรดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2543 กระทั่งเดือน มี.ค. 2558 นายอดิศักดิ์เป็นกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น บอรดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

หลังจากที่บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของสถานีข่าวสปริงนิวส์ ซึ่งเป็นที่รู้กันในตลาดหุ้นว่าเป็นบริษัทของนายฉาย บุนนาค เข้ามาซื้อหุ้นบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG 404.99 ล้านหุ้น 12.27% และใบสำคัญแสดงสิทธิ 225 ล้านหน่วย มูลค่าเงินลงทุน 1,042 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2557 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเครือเนชั่น ช่วงนั้นผู้บริหารและพนักงาน รวมทั้ง นายอดิศักดิ์ ออกมาต่อต้านกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหม่ มีคดีความฟ้องร้องระหว่างกันกันทั้งทางแพ่งและอาญาหลายคดี

ต่อมาองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ประกาศรับสมัครผู้อำนวยการ ส.ส.ท. นายอดิศักดิ์ จึงได้ลาออกจากเครือเนชั่น เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2560 เพื่อไปสมัครเป็นผู้อำนวยการ ส.ส.ท. แต่ไม่ได้รับการเลือกในรอบสุดท้าย จากนั้นจึงก่อตั้งบริษัท อะแดป ครีเอชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ผลิตแพลตฟอร์ม “77 ข่าวเด็ด” และ “มันนี่ทูโนว์” โดยได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) จำนวน 5 ล้านบาท อีกทั้งยังเป็นกรรมการผู้อำนวยการธุรกิจใหม่ บริษัท เอ็มวี เทเลวิชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ของนายชัยวุฒิ ทวีปวรเดช พัฒนาธุรกิจใหม่ OTT ที่ชื่อว่า “เอ็มวี ฮับ” ในระยะหนึ่ง

ระหว่างนั้น นายอดิศักดิ์ ยังร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มข่าวสารธุรกิจที่ชื่อว่า “บิสซิเนส ทูเดย์” ประกอบด้วยเว็บไซต์ข่าวและหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายสัปดาห์ ร่วมกับ นายธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ และ นาย ณ กาฬ เลาหะวิไล อดีตบรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ แต่หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายหนังสือพิมพ์ จึงต้องยุติการพิมพ์ชั่วคราวเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา ภายหลังนายอดิศักดิ์ได้ลาออกจากบิสซิเนส ทูเดย์ หันมาก่อตั้งแพลตฟอร์มข่าวเศรษฐกิจการเงินที่ชื่อว่า “มันนี่คลับ” ร่วมกับ นายสุนันท์ ศรีจันทรา, นายนเรศ เหล่าพรรณราย และ น.ส.ธนวัน ปันทะโชติ

กลับมาที่เนชั่นทีวี ในยุคที่ นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม เข้าบริหารงานตั้งแต่ 17 ม.ค. 2561 พบว่า โทนข่าวออกไปในแนวฮาร์ดคอร์การเมือง โดยเฉพาะการออกมาขยี้ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้จะทำรายได้และเรตติ้งอันดับ 9 แต่ก็กลายเป็นที่ไม่พอใจของผู้สนับสนุนการเมืองอีกฝั่งหนึ่ง นำไปสู่การแบนโฆษณาเนชั่น เมื่อกลุ่มของนายสนธิญาณ รวมทั้งนายกนก ที่มีจุดยืนทางการเมืองชัดเจนลาออกไป นายฉาย จึงเสนอชื่อนายอดิศักดิ์กลับมานั่งเป็นผู้บริหารอีกครั้ง หลังลาจากค่ายบางนามากว่า 3 ปี ในวันที่เนชั่นทีวีไม่เหมือนเดิม ต้องคอยดูว่าทิศทางข่าวนับจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป?

ขณะที่เฟซบุ๊ก Adisak Limparungpatanakij โพสต์ข้อความระบุว่า “ขอเขียนถึงเนื้อหาที่ผมได้แลกเปลี่ยนกับคุณฉาย บุนนาค ประธานเครือเนชั่น ก่อนยอมรับในการกลับไปสู่ตำแหน่งเดิม ซีอีโอของบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถึงแนวทางการทำงานที่มีเป้าหมายร่วมกัน เพื่อทำให้ช่องเนชั่นทีวี 22 กลับมาสู่ความเป็นสถานีข่าวมืออาชีพ สถานีข่าวโทรทัศน์ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจในทุกข่าวสารและการวิเคราะห์ที่นำเสนอ โดยตระหนักว่าความน่าเชื่อถือเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่ามากที่สุด

ช่องเนชั่นทีวีจะต้องยกระดับการทำข่าวให้ได้มาตรฐานของสถานีข่าวทั่วโลกพึงมี ด้วยการทำหน้าที่หลักๆ เช่น ทำหน้าที่ Gatekeeper “ผู้เฝ้าประตูข่าวสาร” เน้นการนำเสนอความจริง ความถูกต้องที่ผ่านการตรวจสอบ กลั่นกรองอย่างปราศจากอคติ ไม่เน้นความเร็ว เพราะปัจจุบันข่าวสารบนโซเชียลมีเดียจากทุกๆ คน ที่แข่งกันทำหน้าที่เสมือนนักข่าว ทำให้มีทั้งความเร็วและปริมาณ ปะปนไปกับข่าวที่ไม่น่าเชื่อ ไม่ถูกต้อง สื่อหลักอย่างเนชั่นทีวี จำเป็นจะต้องทำหน้าที่กลั่นกรอง ตรวจสอบความจริงและความถูกต้อง ก่อนนำเสนอผ่านช่องทางต่างๆ ภายใต้แบรนด์เนชั่นทีวี

ทำหน้าที่เป็น “กระจก” ส่องสังคม ที่ไม่บิดเบี้ยว ซื่อสัตย์ในการทำหน้าที่ สะท้อนความจริงที่เกิดขึ้นในสังคมอย่างรอบด้านมากที่สุด เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

ทำหน้าที่ “ตะเกียง” ส่องสังคม กำหนดวาระทางสังคม (Setting Agenda) เป็นดั่งตะเกียงส่องแสงสว่างแก่สังคม ให้มองเห็นวาระทางสังคมที่พึงมี ทำให้สังคมตื่นรู้ มองเห็นอย่างกระจ่างแจ้ง ถึงประเด็นปัญหาสำคัญๆ ของสังคม เพื่อทำให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่า

ทำหน้าที่ Watchdog หมาเฝ้าบ้าน ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชน เฝ้ามอง ติดตาม และตรวจสอบกลิ่นที่มีความไม่ชอบมาพากลในการทำงานของภาครัฐ ย้ำเตือนให้ทำงานเพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสาธารณะ

ทำหน้าที่ “โรงเรียนของสังคม” องค์กรเนชั่นจะต้องทำหน้าที่เสมือนเป็นโรงเรียนของสังคม เป็นแพลตฟอร์มทางสังคมที่เปิดกว้างสำหรับทุกภาคส่วนในสังคม ในการสร้างเสริมองค์ความรู้ใหม่ๆ นำเสนอออกไปสู่สังคม ให้สังคมได้เรียนรู้ร่วมกันเสมือนเป็นโรงเรียนของสังคม เพื่อขับเคลื่อนให้สังคมไทยก้าวทันโลกยุคดิจิทัล

ข้อความที่ผมส่งถึง คุณฉาย บุนนาค ประธานเครือเนชั่น หลังจากได้มีโอกาสสนทนากันเป็นครั้งแรก เมื่อค่ำวันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนการแถลงข่าวเมื่อ 10 พ.ย. ที่แจ้งต่อผู้สื่อข่าวถึงการทาบทามผมให้กลับมาทำหน้าที่ซีอีโอ NBC เจ้าของเนชั่นทีวี ที่เป็นบริษัทลูกของเนชั่นกรุ๊ป ขอขอบคุณคุณฉายที่มีความเชื่อมั่นครับ”




กำลังโหลดความคิดเห็น