เมืองไทย 360 องศา
กลายเป็นเรื่องให้ “เมาท์” กันแบบสนุกสนานในโลกออนไลน์ รวมทั้งในสื่อหลักที่นำมามาเผยแพร่กับภาพที่นายอานนท์ นำภา หนึ่งในแกนนำ “ม็อบสามนิ้ว” หรือในชื่อม็อบ “คณะราษฎร” ที่นั่งร่วมโต๊ะล้อมวงดื่มกินกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มก้าวหน้า พร้อมทั้ง “สหายร่วมแนว” เพื่อนพ้องน้องพี่กันแบบครบทีม
เพราะตามภาพยังมี นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” และ นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการนิตยสารฟ้าเดียวกัน ลูกน้องของ นายธนาธร ร่วมวงกันอย่างพร้อมหน้า โดยบนโต๊ะมีทั้งสุรา เบียร์ และเห็นภาพ “เนื้อสด” วางอยู่บนโต๊ะอย่างสะดุดตา ซึ่งหากให้เดาก็น่าจะเป็นแบบ “เมนู” ในแบบ “อาหารอีสาน” ตามที่แกนนำคนสำคัญคุ้นเคยก็เป็นได้
โดยในภาพไม่เห็น นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำกลุ่มก้าวหน้าเท่านั้น และยังมีการพูดกันว่า เป็นการเลี้ยงรับ นายอานนท์ หลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั่นเอง
ภาพดังกล่าว มีการแคปและแชร์มาจากเฟซบุ๊กของ พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ ที่สูญเสียบุตรชายในเหตุการณ์สลายการชุมนุม เมื่อปี 2553
แม้ว่าฝ่ายที่เชียร์ “ม็อบสามนิ้ว” และเชียร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จะมองว่าเป็นเพียงการดื่มกินกันธรรมดาของคนที่รู้จักกันเท่านั้น ซึ่งก็อาจจะใช่ ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด แต่ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งมันก็เป็นหลักฐานเชื่อมโยงให้เห็นได้ในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะกับ “ม็อบสามนิ้ว” ที่ถูกระบุว่า เป้าหมายสูงสุดก็คือมีเจตนา “ล้มเจ้า” นั่นแหละ
เพราะหากติดตามเส้นทางของคนพวกนี้ ก็รับรู้กันอยู่แล้วว่ามีทัศนคติที่เป็นลบกับ “สถาบันพระมหากษัตริย์” มานานแล้ว โดยเฉพาะ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่มีบทบาทในทางสาธารณะแบบนั้นมานาน และ นิตยสาร “ฟ้าเดียวกัน” ที่มีเนื้อหาหมิ่นเหม่ ก็มีการระบุว่า นายธนาธร เป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญมานานหลายปีแล้ว ซึ่งในวงการก็รับรู้กันอยู่แล้ว
ขณะที่บทบาทของ นายอานนท์ นำภา ที่เป็นแกนนำหลักของกลุ่ม “ม็อบสามนิ้ว” ก็ถือว่ามีบทบาทโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรง รวมทั้ง นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ “ไผ่ ดาวดิน” ที่เป็นแกนนำอีกคนหนึ่ง ก็ถือว่ามีแนวทางเดียวกัน โดย นายจตุภัทร์ เคยมีการเคลื่อนไหวในแนวทางต่อต้านสถาบันมานาน ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยขอนแก่น และถูกจำคุกและได้รับการปล่อยตัวแล้วมาเคลื่อนไหวชุมนุมในครั้งนี้จนกลายเป็นแกนนำหลักอีกคนหนึ่ง
อีกทั้งหากให้ชัดเจนขึ้นว่าคนพวกนี้มีความเชื่อมโยงและมีแนวทางเดียวกัน ก็คือพวกเขาสนับสนุนข้อเรียกร้องให้มีการ “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” ที่มีจำนวน 10 ข้อ ซึ่งหลายคนมองว่าเจตนาที่แท้จริงไม่ใช่การปฏิรูป แต่กล่าวหาว่ามีเจตนา “ล้มล้าง” นั่นเอง
นอกเหนือจากนี้ หากพิจารณาเชื่อมโยงกับพรรคการเมืองที่เข้าใจกันว่าพรรคก้าวไกลนั้น ก็คือ อดีตพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบพรรคไปนั่นเอง ก็ได้เห็นการเคลื่อนไหวคู่ขนานกันไปทั้งในและนอกสภา นอกสภาก็มี ส.ส.ของพรรคคอยช่วยเหลือด้วยการประกันตัวบรรดาแกนนำม็อบที่ถูกดำเนินคดี อยู่หลายครั้ง
ล่าสุด กลุ่ม “ม็อบสามนิ้ว” ก็ประกาศชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ โดยเป้าหมายก็ยังเน้นไปที่ “สถาบันฯ” เป็นหลักเช่นเดิม
อย่างไรก็ดี แม้ว่านาทีนี้จะไม่อาจพิสูจน์กันไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งถือว่าเป็นทายาท “ทุนใหญ่” คนหนึ่งในเมืองไทยจะอยู่เบื้องหลังม็อบสามนิ้วหรือไม่ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ทำให้เห็นว่าพวกเขามีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดก็แล้วกัน หรือเป็นงานเลี้ยงและ “ซักซ้อมความเข้าใจ” ในภารกิจบางอย่างที่ต้อง “เดินให้สุด” หรือไม่
แต่จากภาพดังกล่าวที่เห็นมันก็ทำให้เสียงเรียกร้องที่ดังขึ้นให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หยุดทำตัวเป็น “อีแอบ”เลิกหาประโยชน์จากพวกเด็กๆ เยาวชนพวกนี้เสียที แล้วออกมาเดินหน้าเป็น “ผู้นำม็อบ” ด้วยตัวเอง เพราะเวลานี้บรรดาแกนนำที่ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน เป็นนักศึกษาต่างถูกดำเนินคดียาวเป็นหางว่าว และเมื่อคดีเดินหน้าแล้วมันก็หยุดไม่ได้ นอกจากไปสิ้นสุดที่ศาลเท่านั้น และทำให้เชื่อว่าบรรดาเด็กพวกนี้ในอนาคตจะต้องเดินขึ้นลงศาลเป็นรายวัน อนาคตถือว่าหนักหนาสาหัส ซึ่งอนาคตจบลงไปที่ไหนก็พอเห็นรำไรอยู่แล้ว !!
