xs
xsm
sm
md
lg

ชนะแล้ว? “อานนท์” ฟุ้งปฏิรูปกษัตริย์ “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” เย้ย เสือ “อย่าร้องเอ๋ง!” เตือน “ทอน” หยุดยังทัน!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายอานนท์ นำภา ปราศรัยหลังได้รับประกันตัว (แฟ้มภาพ)
“อานนท์” แกนนำม็อบ 3 นิ้ว หวังโชว์ใบเสร็จ คุยฟุ้ง “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” ชนะแล้ว? “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” เย้ยปากกล้าขาสั่น เป็นเสือ “อย่าร้องเอ๋ง!” กล้าทำต้องกล้ารับผิด “พุทธะอิสระ” เตือน “ทอน” หยุดยังทัน ไม่งั้นเจออีกหลายคดี

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (6 พ.ย. 63) นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบกลุ่ม “ราษฎร 63” โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า

“ความเห็นส่วนตัว การต่อสู้ครั้งนี้ประเด็นเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ พวกเราชนะแล้ว ถ้าเปรียบเหมือนการขึ้นศาล ตอนนี้ศาลประชาชนพร้อมใจกันพิพากษาแล้วว่าต้องมีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ที่เหลือคือขั้นตอนการบังคับคดี!”

ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ของนายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์หัวข้อ “อย่าร้องเอ๋ง”

โดยระบุว่า “แกนนำสามนิ้วทยอยถูกหมายเรียกตัว บางส่วนถูกจับกุมดำเนินคดี ร้องกันเสียงหลง

โวยวายลั่น โดนกลั่นแกล้ง ถูกคุกคาม หยุดดำเนินคดีกับผู้เห็นต่าง

ถ้ามั่นใจว่าสิ่งที่ทำ สิ่งที่พูดไม่ผิด ไม่เห็นต้องกลัวอะไร ศาลทรงความยุติธรรมเสมอ ศาลยอมให้ประกัน ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ทั้งๆ ที่ตำรวจคัดค้านกลัวออกมาเป็นแกนนำชุมนุม แล้วก็ชุมนุมอีกจริงๆ

อย่าเสียงดังไป อายแกนนำ นปช. พันธมิตรฯ และ กปปส.บ้าง ติดคุกกันหลายคนเลย อยากเป็นผู้นำต้องเป็นอย่างเสือ ต้องคำราม อย่าร้องเอ๋ง เค้ารู้หมด เรียกหาประชาธิปไตย เรียกหาเสรีภาพ ต้องเข้าใจให้ตรงกัน เสรีภาพต้องมีขอบเขต และประการสำคัญทุกคนต้องเสมอภาคกันภายใต้กฎหมาย คนทำผิดต้องติดคุกทุกคน ไม่มีข้อยกเว้น”

ภาพ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ ช่อ-พรรณิการ์ วานิช จากแฟ้ม
ด้านเฟซบุ๊กหลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ของอดีตพระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย นครปฐม ได้โพสต์ข้อความ หัวข้อ “เมื่อกล้าที่จะรบก็อย่ากลัวที่จะพบบาดแผล”

เนื้อหาระบุว่า “เห็นภาพ ทอนกับพวก เดินทางไป สน.พญาไท เพื่อทราบข้อกล่าวหาในฐานสงสัยว่าจะละเมิด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (ข้อหายุยงปลุกปั่น)

จากการสังเกต ดูสีหน้า แววตาของทอนและพวกที่เห็นดูท่าน่าจะกังวลมิใช่น้อย อยากบอกทอนว่า พุทธะอิสระ ต้องขออภัยที่เป็นเหตุให้ทอนและพวกต้องกังวล ปัญหาเรื่องนี้มันแก้ได้ไม่ยากดอกทอน

แค่ทอนและพวกมีจิตสำนึก รักชาติ รักแผ่นดิน และคิดจะตอบแทนคุณบ้าง ไม่ใช่วันๆ เอาแต่จะแสวงหาวิธีแย่งชิง อำนาจ หาผลประโยชน์กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มันจะทำให้ทอนยิ่งละโมบ มักใหญ่ ใฝ่สูง จนไม่รู้ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ พยายามตีตนเสมอท่าน

เช่นนี้ มันจะทำให้ทอนและพวก คงต้องเหนื่อยแทบสายตัวจะขาดทีเดียวแหละ

แต่ผลตอบรับที่ทอนและพวกจะได้รับคือภาพวิมานในปุยเมฆเท่านั้นแหละทอน

หยุดได้ตอนนี้ก็คงยังไม่สายเกินไป
หากยังแข็งขืน ดื้อรั้นดันทุรังลุยต่อ

เช่นนั้นทอนและพวกคงต้องเจอข้อสงสัยที่พุทธะอิสระ เตรียมไว้อีกหลายข้อกล่าวหา

เราก็ไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ทอนและพวกมีสีหน้าและแววตาซีดเซียว วิตกกังวลออกสื่อเช่นนี้ดอกนะ
มันยังไม่สายเกินไปดอกทอนที่จะหยุด

แต่เดี๋ยวทอนก็จะบอกว่า นี่มันเป็นสิทธิของทอนและพวกอีกนั่นแหละ

ถ้าเช่นนั้นพุทธะอิสระก็มีสิทธิที่จะต้องสงสัยในพฤติกรรมของทอนและพวกว่าน่าจะละเมิด ประมวลกฎหมายอาญา อีกหลายมาตราเลยทีเดียวหละทอน

ออ....แล้วอย่าไปแถก แถ กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่จงใจ กลั่นแกล้ง คุกคาม อีกนะ

ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ทอนและพวก ทำผิดกฎหมายจริงหรือเปล่าหละ

หากทอนและพวกไม่ผิด
ทอนก็มีสิทธิแจ้งความกลับ ต่อพุทธะอิสระได้
แบบนี้แหละ ที่เขาเรียกว่า วิถีประชาธิปไตยหละ
ทอนคงเข้าใจนะ”

 ภาพ “อุ๊” หฤทัย ม่วงบุญศรี จากแฟ้ม
นอกจากนี้ “อุ๊” หฤทัย ม่วงบุญศรี นักร้องชื่อดัง ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า “ไอ้ตี๋ มึงบอกไทยไม่มีประชาธิปไตย แต่มึงเดินหาเสียงเลือกตั้ง อบจ. มันเป็นอิหยังวะ? ฮ่วย!!”

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนฝ่ายม็อบ “3 นิ้ว” จะยังคงเดินหน้าอย่างท้าทาย และประกาศกร้าว ที่จะยืนหยัดต่อสู้เรียกร้อง 3 ข้อ ไม่ลดเพดานแต่อย่างใด

ภาพ แกนนำม็อบ 3 นิ้ว แถลงข่าว จากแฟ้ม
เห็นได้จากวานนี้ (5 พ.ย. 63) เฟซบุ๊กแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม - United Front of Thammasat and Demonstration เพจหลักของกลุ่มราษฎร 63 โพสต์ข้อความ มีสาระสำคัญว่า

“เราจะชนะได้รึเปล่า? เราจะเดินไปสู่จุดไหน เราจะทำให้จบในรุ่นเราได้จริงหรือไม่

คำถามเหล่านี้ไม่มีใครสามารถตอบได้ แต่สิ่งเดียวที่เราตอบได้คือ ถ้าทุกคนออกมาให้ได้มากที่สุด เราได้ขับเคลื่อนกงล้อแห่งประวัติศาสตร์นี้ไปข้างหน้าร่วมกันแล้ว

ไม่มีอะไรมาประกันความสำเร็จ แต่สิ่งเดียวที่ช่วยยืนยันว่าแสงสว่างของประชาชนอยู่ไม่ไกล คือการออกมาของประชาชนหลายล้านคนทั่วประเทศ เป็นเวลากว่า 4 เดือนนับตั้งแต่มีการเริ่มออกมาประท้วงบนท้องถนน ออกมาร่วมกันให้แสงสว่างนั้นขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม

8 พฤศจิกายนนี้! เวลา 16.00 น. ออกมาร่วมกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก่อนเตรียมเดินขบวน เขียนจดหมายของทุกคน เพื่อเตรียมยื่นถึงกษัตริย์ของเรา ขอทุกคนจงออกมาร่วมกันยืนยันว่า ประเทศนี้ดีกว่านี้ได้ ร่วมกันยืนยันใน 3 ข้อเรียกร้อง

1. ประยุทธ์และองคาพยพต้องออกไป! เนื่องจากมีที่มาอย่างไม่ถูกต้อง และเพื่อเปิดทางให้ประเทศไทยกลับไปสู่ครรลองของระบอบประชาธิปไตยที่กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ

2. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่จากประชาชน เพื่อนำพากติกาที่เป็นธรรม และไม่บิดเบี้ยว เป็นกติกาที่เขียนเพื่อประชาชนทุกกลุ่ม ไม่ใช่เพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

3. ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ที่มีความหมายว่า ทำให้ดีขึ้นและให้กลับมาอยู่ใต้รัฐธรรมนูญเพื่อให้สามารถดำรงอยู่ในประเทศไทยได้อย่างสง่างาม

นี่ไม่ใช่ทางเลือก แต่คือหนทางเดียวที่จะนำพาประเทศหลุดพ้นวิกฤตนี้ได้!
#ม็อบ 8 พฤศจิกา #ราษฎร”

แน่นอน, ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่า ท่าทีของฝ่ายม็อบ 3 นิ้ว ก็ยังคงเชื่อมั่นในสิ่งที่ต่อสู้เรียกร้องว่า ชนะแล้ว! ในเชิงสัญลักษณ์ของการต่อสู้เรียกร้อง เพราะสามารถนำเรื่องสถาบันกษัตริย์มาสู่เวทีปราศรัย และเป็นประเด็นสาธารณะได้ เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีม็อบใดกล้าพูดเรื่องนี้มาก่อน

แม้ว่าความจริงแล้ว ที่ “อานนท์” บอกว่า ประชาชนพิพากษา ให้ได้ชัยชนะ เรื่องนี้ไม่จริง เพราะประชาชนส่วนใหญ่ ทั้งที่ออกมาเคลื่อนไหวปกป้องสถาบันในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และพลังเงียบที่ไม่ได้แสดงออก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เห็นด้วยกับม็อบ จึงเท่ากับเป็นการตีกินเอาดื้อๆมากกว่า คุยฟุ้งไปเองก็ว่าได้

ประเด็น ยังคงอยู่ในท่ามกลางม็อบ 3 นิ้ว พยายามจะปลุกกระแสการต่อสู้เพื่อ “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” ให้ได้ ถ้าไม่อย่างนั้น อาจเจอปฏิวัติสถาบันฯ ตามใบสั่งของผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งก็เปิดเผยออกมามากแล้ว ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยบีบคนเห็นต่างให้คล้อยตาม ทึกทักเอาว่าพลังเงียบเป็นฝ่ายตน และกดดันในทางการเมืองให้ยอมแพ้ตามข้อเรียกร้องทั้งหมด

แต่ถามว่า ม็อบชนะหรือยัง? คนไทยแพ้แล้วหรือ? คำตอบก็คือ ชัยชนะที่แท้จริงของม็อบ ยังเป็นได้อย่างมากแค่ฝันเฟื่อง และคนไทยก็ยังไม่แพ้ ตราบใดที่ข้อเรียกร้อง “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” ยังไม่เป็นผล หรือ คนไทยส่วนใหญ่ยอมตามข้อเรียกร้องม็อบทั้งหมดโดยดุษฎี

เหนืออื่นใด สิ่งที่แกนนำม็อบ ทั้งหน้าฉาก และหลังฉาก ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายกว่า 100 คดี(จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ) ต่างหาก ที่หลายฝ่ายต่างวิเคราะห์ว่า จะไม่ต่างจากการชุมนุมทางการเมืองหลายครั้งที่ผ่านมา เพราะมันเลี่ยงไม่ได้ และละเว้นไม่ได้ ยิ่งนานไปก็ยิ่งถลำลึก เรื่องนี้ “อีแอบ” ที่คอยหนุนหลังรู้ดี พวกเขาจึงไม่ยอมออกมาถือธงนำ พวกเขามีคนที่ออกมาติกคุกแทน ตายแทนจำนวนมากแล้ว เหลือก็แต่ ถ้าแพ้ก็แสดงความเสียใจกับ “วีรชน” ถ้าชนะก็เสวยสุขอย่างภาคภูมิใจ กับตำแหน่งใหญ่ทางการเมือง แทนกลุ่มอำนาจเก่าเท่านั้นเอง

แค่พวกเขาคลั่ง ปฏิวัติ 2475 ก็รู้แล้วว่า ต้องการอำนาจประชาชนมาสถาปนาตัวเอง เพื่อเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เจริญรอยตามคณะราษฎร ไม่เชื่อคอยดู!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น