น่าคิด “อัษฎางค์” แปลคลิปฝรั่งแฉเบื้องหลัง “ท่อน้ำเลี้ยงม็อบ” ข้อเรียกร้อง “ปฏิรูปสถาบัน” เพื่อ “ทักษิณ-ธนาธร” ขณะ “ทอน” โหนกระแสม็อบ ปลุกความแค้นทั้งปวงต่อเผด็จการ เทคะแนนเสียงเลือก “นายก อบจ.” คณะก้าวหน้า แบบด้านๆ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (3 พ.ย. 63) เฟซบุ๊ก อัษฎางค์ ยมนาค ของ นายอัษฎางค์ ยมนาค โพสต์คลิปพร้อมแสดงความเห็น เรื่อง “การล่าอาณานิคมในศตวรรษที่ 21” จากความร่วมมือของคนขายชาติ”
โดยระบุว่า “ฟังฝรั่งคนนี้พูดไป ผมอมยิ้มไปตลอดเวลา เพราะเขาพูดได้ตรงประเด็นมาก เขามองทะลุปรุโปร่ง และเข้าใจสถานการณ์อย่างลึกซึ้ง
(ผมไม่ได้แปลเป็นคำต่อคำ แต่ผมฟังแล้วเขียนลงด้วยสำนวนตัวเองตามที่เข้าใจ อาจจะมีการตัดคำหรือเสริมคำ เพื่อให้เข้าใจ ตามที่ผมเข้าใจ)
............................................................................
เขาเริ่มต้นว่า
ผมมี 4 หัวข้อที่ผมจะพูดถึงการเมืองของไทย เป็นเรื่องของคนไทยโดยเฉพาะ แต่ผมต้องพูด เพราะรัฐบาลของผม (รัฐบาลอเมริกัน) ให้เงินสนับสนุนอยู่เบื้องหลังผู้ชุมนุม
เวลาผมพูดถึงผู้ชุมนุม ผมไม่ได้พูดถึงเด็กๆ ที่อยู่ในม็อบ แต่ผมพูดถึงผู้นำม็อบและทีมงาน ผู้อยู่เบื้องหลังม็อบ
พวกเราเคยเป็นเด็กมาก่อน พวกเราจึงรู้ดีเพราะเคยเป็นเด็ก และเคยทำอย่างที่พวกเขาทำ ทั้งการต่อต้าน การเป็นขบถ การมีคำถามในใจ การทำอะไรที่ท้าทาย ซึ่งทั้งหมดคือพฤติกรรมของวัยรุ่น
1] เรื่องภาษีและงบประมาณส่วนพระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศ ทุกประเทศก็มีการจัดสรรงบประมาณสำหรับประมุขของประเทศ และเงินนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับพระมหากษัตริย์ใช้ส่วนพระองค์ แต่เป็นงบประมาณสำหรับหน่วยงานในสำนักพระราชวัง ที่มีคนทำงานเป็นจำนวนมาก เพื่อทำงานราชการ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขราษฎร ไม่ใช่พระมหากษัตริย์ใช้เงินภาษีเพื่อชีวิตส่วนตัว มันเป็นเรื่องน่าขำมากที่ไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้
ที่สำคัญ งบประมาณที่เป็นส่วนของพระมหากษัตริย์ ที่ ธนาธร มหาเศรษฐีฝ่ายต่อต้านชอบพูด เป็นแค่ร้อยละ 0.2 ของงบประมาณแผ่นดิน 3.2 ล้านล้าน
เขาบิดเบือนความจริงเรื่องภาษีและงบประมาณส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อให้ผู้ชุมนุมเข้าใจผิดและโกรธแค้น
2] สั่งอุ้มฆ่า
การใส่ร้ายว่า พระมหากษัตริย์เป็นผู้สั่งให้อุ้มฆ่า เช่น กรณี “นายวันเฉลิม” ซึ่งไม่มีหลักฐานใดๆ ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม
นายวันเฉลิม เป็น Nobody คือ เป็นใครก็ไม่รู้ ที่ไม่ใช่บุคคลสำคัญ เพราะฉะนั้นมีเหตุผลอะไรต้องกำจัดคนๆ นี้
ถ้าคุณไม่เชื่อรัฐบาลและสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ลองถามตัวเองว่า มันสมเหตุผลหรือไม่ ที่จะต้องสั่งอุ้มฆ่าใครก็ไม่รู้ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงหรือเป็นกำลังสำคัญของเรื่อง
3] พระมหากษัตริย์ทำอะไรเพื่อเมืองไทยบ้าง
เป็นคำถามที่ฝ่ายต่อต้านตั้งคำถามนี้ตลอดเวลา พวกเขาจาบจ้วงว่า พระองค์เป็นปรสิตที่สูดเลือดสูบเนื้อ
ในขณะที่ผู้ชุมนุมปิดถนน ขีดเขียนสร้างความสกปรก สร้างความเสียหาย ที่ต้องใช้เงินภาษีของประชาชนในการทำความสะอาดและซ่อมแซม
ส่วนพระมหากษัตริย์คอยช่วยเหลือสนับสนุนกับทหารในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
แล้วลองดูว่า ผู้นำม็อบทำอะไร
พระมหากษัตริย์ปกป้องเมืองไทยมา 700 ปี และไทยเป็นชาติเดียวในอาเซียน ที่ไม่เคยเป็นอาณานิคมชาติมหาอำนาจตะวันตก ที่เข้ามาสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน พระมหากษัตริย์ทรงงานหนักเพื่อชาติไทย
ลองถามผู้นำม็อบว่า เคยทำอะไรเพื่อคนไทย
4] เรียกร้องให้พระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ
ความจริงพระมหากษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ
อยู่แล้ว
ซึ่งเรื่องบิดเบือนให้ร้ายนี้ มาจากทักษิณ และธนาธร
การทำรัฐประหารของทหาร เกิดจากความพยายามจะกำจัดรัฐบาลที่อยู่เหนือการควบคุม (เขาให้รายละเอียดมากกว่านี้ แต่ผมขอสรุปสั้นๆ ว่า เกิดจากรัฐบาลคอร์รัปชัน)
รัฐประหารช่วยเซฟประเทศได้ด้วยซ้ำไป โดยเฉพาะ 2 ครั้งล่าสุด เป็นเรื่องจำเป็นมากที่ต้องทำรัฐประหาร
คนชอบวิจารณ์เรื่องรัฐประหาร แต่แกล้งมองข้ามคอร์รัปชันสมัยยิ่งลักษณ์ คดีโกงข้าว
เป็นเรื่องตลกมากที่ทั้งผู้ชุมนุม และ NGO โจมตีรัฐบาลนี้ที่สลายการชุมนุมด้วยการฉีดน้ำ แต่ไม่พูดถึงการสลายการชุมนุมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ใช้ปืนและมีคนตายจากการสลายการชุมนุม
การเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อให้ทักษิณและธนาธร กลับมามีอำนาจทางการเมือง และจะไม่มีใครขวางทางการใช้อำนาจทางการเมืองของเขาได้อีกต่อไป
ซึ่งพวกเขาใช้วิธีปล่อยข่าวเท็จ บิดเบือนความจริง จาบจ้วงสถาบันฯ โดยใช้เด็กๆ เป็นเครื่องมือในการล้มเจ้า
ผมเชื่อว่า คลิปนี้ของผม จะเปลี่ยนความคิดของเด็กๆ ไม่ได้ เพราะผมก็เคยเป็นเด็กที่คิดและทำแบบนี้มาก่อน
แต่ผมหวังว่า เขาจะแบ่งใจไว้บ้าง แล้ววันหนึ่งเขาจะตาสว่าง
หรือลองไปเช็กว่า สหรัฐฯ ให้เงินสนับสนุนม็อบ สนับสนุนผู้นำม็อบที่อยู่เบื้องหลังทำไม แล้วเขามาหลอกเราอยู่ทำไม
เป็นเรื่องปกติ ถ้าจะมีผู้ชุมนุม จะถามหาความถูกต้อง
แต่เรื่องนี้มันใหญ่กว่านั้น เพราะมันคือการแทรกแซงกิจกรรมภายในจากมหาอำนาจตะวันตก ซึ่งทำกันมาตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคม”
............................................................................
อัษฎางค์ ยมนาค
เรียบเรียง
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์หัวข้อ “อย่าหมดหวังกับการเมือง : สนามต่อไปคือการเลือกตั้งท้องถิ่น 20 ธันวาคม”
เนื้อหาระบุว่า “บรรยากาศการเมืองปัจจุบันอาจทำให้ใครหลายคนฮึกเหิม แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้หลายคนหมดหวังกับการเมือง
หลายคนกำลังหมดหวัง ท้อแท้ และกำลังเลิกติดตามการเมือง
ข้อเท็จจริงสนับสนุนความรู้สึกแบบนั้น
ในรัฐสภา มีแต่การตั้งกรรมาธิการไม่รู้กี่ชุดต่อกี่ชุดเพื่อซื้อเวลา
บนถนน ผู้กล้าหาญคนแล้วคนเล่าโดนคุกคาม และถูกยัดคดี
กระบวนการยุติธรรมที่เอียงกะเท่เร่ ฝ่ายต่อต้านเผด็จการทำอะไรก็ผิดเสมอ
สื่อมวลชนถูกปิดปากหรือไม่ก็ปิดปากตัวเองเพื่อปิดตาประชาชน ข้าราชการไร้ความกล้าหาญ ทำผิดเป็นถูกเพื่อความมั่นคงในอาชีพตัวเอง
ความรู้สึกนี้ถูกซ้ำเติมด้วยภาวะเศรษฐกิจถดถอย รายได้น้อยลง หนี้สินมากขึ้น
แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะท้อถอย นี่คือ จุดหัวเลี้ยวหัวต่อของอนาคต นี่คือ ช่วงเวลาที่จะกำหนดทิศทางประเทศไทย
ผมเชิญชวนทุกคนให้ไปใช้สิทธิพลเมืองของเราเพื่อเลือกตั้งท้องถิ่นในวันที่ 20 ธันวาคม เลือกตั้งท้องถิ่นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี
#คณะก้าวหน้า ส่งทีมบริหารท้องถิ่นเข้าแข่งขันในเกือบ 40 จังหวัด เราเชื่อว่าการเมืองท้องถิ่นที่ดีสามารถเปลี่ยนประเทศได้
หมดเวลาการเมืองท้องถิ่นแบบเก่า การเมืองท้องถิ่นต้องไม่เป็นฐานธุรกิจการเมืองให้กับตระกูลใด
หมดเวลาการเมืองท้องถิ่นแบบเก่าที่ตระกูลการเมืองท้องถิ่น หรือ “บ้านใหญ่” ผูกขาดอำนาจมานานด้วยระบบอุปถัมภ์และอิทธิพล
หมดเวลาการเมืองท้องถิ่นแบบเก่าที่สนับสนุนเผด็จการ และเป็นแข้งขาให้กับเผด็จการในการกดหัวประชาชน
วันนี้เป็นวันแรกในการสมัครรับเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ. และคณะก้าวหน้า ส่งทีม อบจ. ประมาณ 40 จังหวัดทั่วประเทศ
ใช้โอกาสนี้ส่งเสียงแห่งความโกรธต่อระบอบเผด็จการเพื่ออภิสิทธิ์ชนของคุณ
ใช้โอกาสส่งเสียงแห่งความคับแค้นในชีวิตที่อัตคัดขัดสน ที่ภาษีและทรัพยากรไม่เคยถูกนำมาใช้เพื่อพวกเรา
ใช้โอกาสนี้ส่งเสียงของประชาชนที่เขาไม่เห็นหัวว่า เราต้องการการเปลี่ยนแปลง
ใช้โอกาสนี้หย่อนบัตรเพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานของเรา
คณะก้าวหน้าพร้อม! เราต้องการทำให้เห็นว่าถ้าการเมืองดี คุณภาพของคนไทยดีขึ้นได้ หากเราได้รับความเชื่อใจจากประชาชน เราจะทำการเมืองท้องถิ่นโดยไม่มีการทุจริต คอร์รัปชัน ภาษี และอำนาจที่เราบริหารจะถูกนำไปรับใช้ประชาชนอย่างเต็มที่
อย่าหมดหวังกับการเมือง โอกาสต่อไปที่จะใช้สิทธิพลเมืองของเราคือการ #เลือกตั้งท้องถิ่น วันที่ 20 ธันวาคม 2563
ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง หนึ่งเสียงของคุณเปลี่ยนแปลงสังคมได้”
แน่นอน, สิ่งที่หลายคนจับตามอง และไม่เชื่อว่า ลำพังเด็กเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา จะกล้าท้าทายเรียกร้อง “ปฏิรูปสถาบัน” ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่เกินตัว และเสี่ยงที่จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ก็คือ การค้นหาว่า ใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันแน่
และเวลานี้ตัวละครลับ เริ่มเผยให้เห็นบ้างแล้ว โดยเฉพาะในประเทศ แม้ว่าเจ้าตัวจะยังปฏิเสธ แต่พฤติกรรมการแสดงออก หรือ ท่าทีต่อกลุ่มผู้ชุมนุม ก็เห็นได้ชัดว่า ให้การสนับสนุน รวมทั้งปลุกระดมมวลชนให้ลุกฮือขึ้นมาร่วมชุมนุม และปกป้องการชุมนุมอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
ส่วนต่างประเทศ แม้ยังไม่ชัดเจน และหลายคนพยายามชี้เป้าให้เห็นมาตลอด แต่ก็ยังไม่มีพยานหลักฐานชี้ชัด จนเชื่อได้ว่า เป็นจริง
ดังนั้น ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ กรณีโพสต์ของ นายอัษฎางค์ ยมนาค ที่แปลมาจากคลิปฝรั่ง แต่อย่างน้อย ข้อมูลก็ถือว่า ตรงกับที่คนไทยรับรู้ จึงนับว่าน่ารับฟัง และน่าคิดวิเคราะห์อยู่เหมือนกัน
ส่วน โพสต์ของ “ธนาธร” สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การชุมนุมของกลุ่มเยาวชน ตั้งแต่เยาวชนปลดแอก มาจนถึง “ราษฎร 63” นั้น เอื้อกระแสให้กับ “คณะก้าวหน้า” โดยตรง และธนาธร ก็โหนกระแสตีกินได้เนียนๆ โดยไม่เปลืองตัวอีกด้วย แค่หว่านวาทกรรมสวยหรูเชิงอุดมคติปลุกใจ หาคะแนนเสียง ก็พอแล้ว
เหนืออื่นใด ถามว่า ถ้าการชุมนุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จ หมายความว่า สามารถเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ ใครได้ประโยชน์สูงสุดเฉพาะหน้า ลองหาคำตอบดู ว่า คนไทยส่วนใหญ่ หรือ นักการเมืองใหญ่ที่หลบหนีคดี ผู้ลี้ภัยในต่างประเทศ จะได้กลับบ้านแบบเท่ๆ ก็จะรู้ว่า คนที่ใช้แรงงานเด็ก ให้เด็กไปตายแทนเป็นใคร น่าเศร้าใจมั้ยล่ะ คนไทย!?