xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบ 3 นิ้วหมดพีก ธนาธรเลี้ยวโหมดหาเสียง !?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เปิดตัวผู้สมัคร อบจ.
เมืองไทย 360 องศา





หากสังเกตอาการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมที่อ้างว่าเป็น “นักประชาธิปไตย” ที่ล่าสุดเปลี่ยนมาใช้ชื่อเป็น “ประชาชนปลดแอก” บ้าง หรือ “คณะราษฎร” บ้างสารพัด แต่เอาเป็นว่า พวกเขา “ชูสามนิ้ว” เป็นสัญลักษณ์ที่ชุมนุมมานานนับเดือน แต่ที่ถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวกดดันได้หนักๆ ก็น่าจะเกิดขึ้นมาราวสองสัปดาห์แล้ว

โดยข้อเรียกร้องหลักๆ มี 3 ข้อ คือ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลาออก ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ และ ให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์
แน่นอนว่า ในสองข้อแรก ถือว่าเป็นเรื่องการเมืองที่สังคมส่วนใหญ่ไม่ว่าอะไร เพราะถือเป็นเรื่องเห็นต่างที่ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอในบ้านเมืองทุกยุค แต่เมื่อ “เล่นใหญ่” มีการยืนยันข้อเสนอในข้อสาม ที่กดดันให้ “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” มันก็กลายเป็นเรื่องยาก และทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้กลับมาทันทีเหมือนกัน และเชื่อว่า หากยังไม่เบาเรื่องดังกล่าวลง โอกาสที่จะได้รับแรงสนับสนุนจากคนในสังคมวงกว้างก็จะหดแคบลงทันที เหมือนกับที่กำลังเกิดปฏิกิริยาโต้กลับไปทั่วประเทศในเวลานี้
การรวมพลังของ “คนเสื้อเหลือง” ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วอาจมีการ “จัดตั้ง” ขนคน มีการอำนวยความสะดวก แต่เชื่อเถอะว่ามันก็ปะปนกันมากับคนที่รักและเทิดทูนสถาบันฯ อย่างแรงกล้า และยิ่ง “ม็อบสามนิ้ว” ใช้คำพูดจาบจ้วง ให้ร้ายสถาบันฯมากเท่าใด โดยเฉพาะการก้าวล่วงไปถึงรัชกาลที่ ๙ มันก็ยิ่งทำให้สังคมเกิดอารมณ์เดือด แบบ “ไม่ทน” อีกต่อไป จึงได้เห็นการแสดง “พลังสีเหลือง” ปรากฏออกมาให้เห็นทั่วประเทศ
ปรากฏการณ์ดังกล่าว หากมองในมุมการเมืองก็เหมือนกับการ “รุกกลับ” ไม่ให้ฝ่าย “ม็อบสามนิ้ว” ได้สร้างกระแสจนฮึกเหิมได้ต่อเนื่อง เหมือนกับการ “เบรกอารมณ์” ดังกล่าวให้หยุดอยู่กับที่ชั่วคราว ประกอบกับที่ผ่านมา สังคมส่วนใหญ่ได้เห็นอาการ “ก้าวร้าว” หยาบคายของม็อบ ทำให้การขยายแนวร่วมไม่เพิ่มขึ้น
ที่สำคัญ ฝ่ายรัฐบาลนำโดย “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่ถูกกล่าวหาแบบตอกย้ำให้เห็นว่าเป็น “เผด็จการ” กลับ “ลดเงื่อนไข” ลงอย่างรวดเร็ว เช่น การไฟเขียวให้เปิดสภาสมัยวิสามัญเพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมือง ซึ่งก็เหมือนกับการแก้เกมของฝ่ายค้าน ที่เคยกดดันให้เปิดสภาวิสามัญก่อนหน้านี้ รวมไปถึงการประกาศ “ถอยคนละก้าว” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนำไปสู่การยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง ให้มีผลมาตั้งแต่เที่ยง วันที่ 22 ตุลาคม เป็นต้นไป ซึ่งก็ถือว่าเป็นการลดเงื่อนไขอย่างทันท่วงที จนอาจจะเรียกว่าทำเอาฝ่ายม็อบสามนิ้วชะงักไปเหมือนกัน
การที่ฝ่ายม็อบยังแสดงท่าทีแข็งกร้าวแบบขีดเส้นให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกสถานเดียว ภายใน 3 วัน และให้ปล่อยแกนนำทุกคนแบบไม่มีเงื่อนไข ทั้งที่หลายคนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวออกมาแล้ว รวมทั้งยังยืนยันข้อเรียกร้องให้ “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” มันก็ทำให้เกิดภาพลบขึ้นมาเรื่อยๆ

อีกทั้งที่ผ่านมา หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่า ฝ่ายรัฐไม่มีการขัดขวางการชุมนุม ตรงกันข้ามกลับมีการอำนวยความสะดวกให้เกิดการชุมนุมได้อย่างเต็มที่ เพราะหากบอกว่าผู้ชุมนุมเป็นเยาวชน เป็นนักเรียน นักศึกษา ที่มีอารมณ์ร้อนแรง หากไม่ขัดขวาง ก็จะไม่เกิดการแหกกฎนั่นแหละ เช่น นักเรียนที่เรียกร้องให้ไว้ผมยาว แต่เมื่อได้รับไฟเขียว เชื่อหรือไม่ว่าต่อไปในอนาคตพวกเขาจะกลับมาอยากไว้ “ผมสั้น” นั่นแหละ เพราะนั่นคือแฟชั่นทวนกระแสของพวกวัยรุ่น ซึ่งมีอารมณ์แบบนี้มาทุกสมัย
แม้ว่านาทีนี้ยังพิสูจน์ไม่ได้ชัดเจนนักว่า “กระแส” ของพวก “ม็อบสามนิ้ว” จะลดลงขนาดไหน แต่หากจับจากอารมณ์ของสังคมแล้ว รับรองว่า “ไม่เพิ่ม” ไปกว่านี้แน่นอน แต่ถึงอย่างไรในช่วงวันสองวันนี้ การชุมนุมอาจจะยังมีมวลชนหนาตา แต่ก็ถือว่าคงไม่ร้อนแรงไปกว่าเดิมแล้ว เพราะการ “ถอยร่น” จากการที่เคยประกาศว่าจะปักหลักชุมนุม “ตั้งแคมป์” หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ที่พยายามกดดันให้ปล่อยตัวแกนนำมานานเต็มที่ได้เพียงแค่สองคืนเท่านั้น ก็ต้องสลายตัว ซึ่ง
สาเหตุก็คือ มวลชนมีจำนวนน้อยมากจนสร้างแรงกดดันอะไรไม่ได้
อย่างไรก็ดี แม้จะนัดชุมนุมอย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยวันจันทร์นัดจะไปสถานทูตเยอรมัน ในความหมายก็เพื่อส่งสัญญาณไปถึงสถาบันฯ แต่เชื่อเถอะก็คงสร้างกระแสกับในกลุ่มพวกเดียวกันเอง แต่สำหรับสังคมในวงกว้าง กลับเริ่มสร้างความรำคาญมากขึ้น
ขณะเดียวกัน หากมีการมองว่า “นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” แกนนำกลุ่มก้าวหน้า เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของม็อบสามนิ้วที่ว่านี้ ก็เริ่มเห็นการเคลื่อนไหวที่เริ่มเลี้ยวไปทาง “หาเสียงทางการเมือง” หรือกระชับฐานทางการเมือง ที่ชัดเจนขึ้น โดยใช้การชุมนุมของพวกเยาวชนพวกนี้เป็นฐาน โดยเฉพาะหวังจะใช้เป็นฐานทางการเมือง อย่างน้อยก็ในช่วงการเลือกตั้งท้องถิ่นที่เริ่มจากการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในเดือนธันวาคมนี้ ที่เขามีการเปิดตัวไปแล้วกว่าสามสิบจังหวัด ซึ่งในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขาไปเปิดตัวผู้สมัครในพื้นที่ภาคเหนือ และไปปรากฏตัวตามเวทีชุมนุม ให้วัยรุ่นกรี๊ดกร๊าด เช่น ที่ จ.แพร่ และพิษณุโลก เป็นต้น
ดังนั้น หากพิจารณาจากภาพรวมและอารมณ์ของสังคมส่วนใหญ่แล้ว มั่นใจว่า “ม็อบสามนิ้ว” น่าจะเลยจุดพีกสุดมาแล้ว เพราะฝ่ายรัฐบาลได้ทำลายเงื่อนไขลงมาได้หมดแล้ว อีกทั้งยัง “เล่นใหญ่” เกินตัว ที่เดินหน้ากดดันให้ “ปฏิรูปสถาบันฯ” อย่างแข็งกร้าว มันยิ่งทำลายแนวร่วม เพราะถูกมองว่ามีคน “ชักใย” ที่ไปไกลกว่านั้น
ขณะเดียวกัน การได้เห็นการปรากฏตัวของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตามเวทีม็อบ และเวทีเปิดตัวนายก อบจ.ในสังกัด มันก็เห็นภาพชัดว่ากำลังเลี้ยวมาที่การหาเสียงทางการเมือง โดยเฉพาะหน้าก็คือเลือกตั้งท้องถิ่น !!


กำลังโหลดความคิดเห็น