xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบ 14 ตุลาฯ เกมหาเสียง ของกลุ่มทุนธนาธร !?

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา


นับจากวันนี้ (12 ตุลาคม) ไปจนถึงวันที่ 14 ตุลาคม ที่เป็นกำหนดการชุมนุมของกลุ่มที่เรียกว่า “กลุ่มคณะราษฎร 2563” ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น และแน่นอนว่า เป็นที่จับตามองว่าจะมีคนมาร่วมชุมนุมมากน้อยแค่ไหน หลังจากพวกเขายังเดินหน้า เน้นย้ำในเรื่องของการ “ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์” ซึ่งในความหมายก็เหมือนกับการ “จาบจ้วง” ไม่ต่างจากพวก “ขบวนการล้มเจ้า”

ขณะเดียวกัน หากติดตามสถานการณ์การเมืองและการชุมนุมของคนกลุ่มนี้ แม้จะตั้งชื่อภายในชื่ออื่นๆ เช่น กลุ่มประชาชนปลดแอก รวมไปถึงการใช้ชื่อแบบเฉพาะกิจสำหรับการชุมนุมในแต่ละครั้งต่อเนื่องกันมา โดยล่าสุด เป็นการชุมนุม เมื่อวันที่ 19 กันยายน และต่อเนื่องในวันที่ 24 กันยายน สังคมก็รับรู้ว่ามี “กลุ่มทุน” ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากกลุ่มก้าวหน้าอยู่เบื้องหลัง นั่นเอง เพียงแต่ว่าไม่ยอมออกหน้ามาทำหน้าที่เป็น“แกนนำม็อบ”อย่างเต็มรูปแบบเท่านั้นเอง

และยังรวมไปถึงพรรคก้าวไกล ที่สังคมรับรู้กันอีกว่าเป็นเครือข่ายเดียวกัน เป็นลักษณะการเคลื่อนขบวนแบบสอดประสานกันทั้งในและนอกสภา ซึ่งระยะหลังเริ่มมีการเน้นย้ำ พูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์แบบ “ตรงๆ” มากขึ้น ในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นแบบนี้มาก่อน ขณะที่การเคลื่อนไหวนอกสภา ภายใต้การเคลื่อนไหวและการชุมนุมของมวลชนในหลายชื่อเรียก ที่ผ่านมา ก็มีการพุ่งเป้าโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุนแรง และหลายครั้งมีการใช้คำพูดแบบ “แรงๆ” และเปิดเผย

ที่น่าจับตาก็คือ การเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชน นักเรียนนักศึกษาบางกลุ่ม ที่เหมือนกับว่า ได้รับการป้อนข้อมูลมาอีกแบบหนึ่งจนทำให้มีทัศนคติในทางลบกับสถาบันฯอย่างรุนแรง โดยแกนนำหลายคนมีท่าที และคำพูดที่หยาบคาย

สำหรับแกนนำที่ยังเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้น และมีทัศนคติในทางลบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และยังเป็นแกนนำในการชุมนุม ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ประกอบด้วย นายอานนท์ นำภา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และ นายภาณุพงศ์ จาดนอก คนพวกนี้ยังยืนยัน จะมีการพูดถึงสถาบันฯเน้นให้มีการปฏิรูปสถาบันฯ โดยอ้างว่า ต้องการให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง จนหลายคนมองออกว่ามีเป้าหมายเพื่อโค่นล้มนำไปสู่ “สาธารณรัฐ”ในที่สุด

ขณะที่เป้าหมายในเรื่อง “ปากท้อง” หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องการบริหารที่ล้มเหลวของรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กลายเป็นเรื่องรอง ไม่ค่อยมีการพูดถึงหรือเน้นย้ำ โดยพวกเขาบอกว่าคู่กรณี “เหนือ” กว่านั้น

อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะทำให้หลายคนมีความกังวล แต่เป็นความกังวลในแบบที่ว่า “กลัวจะเกิดความรุนแรง” เป็นการซ้ำรอยประวัติศาสตร์ในสังคมไทยเกิดขึ้นมาอีก ที่เป็นกังวลก็เนื่องจากเป้าหมายของการชุมนุมมีการเน้นย้ำในเรื่องที่ “อ่อนไหว” นั่นคือ เป็นการ “ก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์” ที่คนในสังคมแทบทั้งหมด ยังมีความจงรักภักดี อีกทั้งเมื่อเทียบสถาบันพระมหากษัตริย์ในต่างประเทศ รวมไปถึงมีความแตกต่างกันในเรื่องของความใกล้ชิดกับประชาชน

ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่การชุมนุมในช่วงที่ผ่านมายังมีคนเข้าร่วมไม่มากนัก จนกลายเป็นกระแสตีกลับ จากเป้าหมายที่เบี่ยงเบนไป จนมีการเรียกว่าการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้เป็นพวก “ม็อบล้มเจ้า” เป็นหลัก ทำให้สูญเสียแนวร่วมไปมาก อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากบุคลิกและแนวทางการเคลื่อนไหวของแกนนำแต่ละคน ก็ถูกมองว่าไม่น่าเชื่อถือ “ไร้เครดิต” ทางสังคม และแนวทางการเคลื่อนไหว ทำให้ม็อบยังไม่มีพลังเพียงพอ ประกอบกับเมืองสังคมรับรู้ถึงแนวทางการเคลื่อนไหวดังกล่าวก็เริ่มทำให้เริ่มถอยห่าง

ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มมีการเปิดตัวผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในนาม “กลุ่มก้าวหน้า” ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จำนวนกว่า 30 คน ทำให้มีการเชื่อมโยงกันอีกว่า การชุมนุมในช่วงที่ผ่านมาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นเพียงการ“หาเสียงล่วงหน้า” ของพวกเขา เป็นการ “สร้างกระแส”เพื่อหวังผลทางการเมืองเฉพาะหน้า โดยเฉพาะการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดขึ้นในราวปลายเดือนธันวาคมนี้เท่านั้นเอง

แต่อีกด้านหนึ่ง มันก็จะเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าแนวทางการเคลื่อนไหวทางการเมืองของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับพวกแบบนี้ จะได้ผลหรือไม่ เพราะนี่คือการ “เปิดหน้า” ออกมาให้เห็นว่า เขามีเจตนาวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์โดยตรง สร้างการรับรู้ให้เห็นว่า เขาอยู่เคียงข้างกับ “ม็อบล้มเจ้า” พวกนี้อย่างเปิดเผย เพียงแต่ว่ายัง “ไม่มีความกล้าพอ” ที่จะเปิดตัวเป็นแกนนำและขึ้นเวทีปราศรัยเท่านั้นเอง แต่นั่นไม่สำคัญแล้ว เพราะเจตนาถือว่าชัดเจนอยู่แล้ว

ดังนั้น หากพิจารณาจากการเคลื่อนไหวและปรากฏการณ์ที่ผ่านมาของกลุ่มม็อบ14 ตุลาฯ และการเคลื่อนไหวของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นาทีนี้ถือว่าเป็นพวก “ล้มเจ้า” อย่างเปิดเผย ซึ่งถึงตอนนี้ก็ต้องพิสูจน์กันในสถานการณ์จริงว่า จะมีคนมาร่วมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเมื่อประเมินจากกระแสและอารมณ์ของสังคมที่ผ่านมาถือว่ายังไม่มีพลังเพียงพอ แต่น่าเป็นห่วงก็คือ การสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงเพื่อนำไปสู่เงื่อนไขบางอย่างหรือไม่ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น