เมืองไทย 360 องศา
หลายคนอาจมองว่าเดือนตุลาคมเป็นเดือน “อาถรรพ์” เพราะเคยมีเหตุการณ์ร้ายๆ เป็นเหตุการณ์ “วิปโยค” ในเดือนดังกล่าว แม้ว่าจะต่างปี พ.ศ.กันก็ตาม แต่ถือว่าเป็นเหตุการณ์ใหญ่สะเทือนความรู้สึกของทุกคน ยิ่งใครที่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ทั้งเหตุการณ์ 14 ตุลาคม ปี 2516 และ เหตุการณ์ 6 ตุลาคม ปี 2519 ก็ยิ่งสลดหดหู่มากขึ้นไปอีก และรับรู้ได้ถึง “เผด็จการสามานย์” รวมไปถึงการ “สร้างสถานการณ์” เพื่อ “ล้อมปราบ” ในยุคนั้นได้ดี
แม้ว่าในช่วงเวลาต่อมาในเดือนตุลาคม จะไม่ค่อยมีเหตุการณ์รุนแรงอะไรอีกแล้ว แต่มักจะเป็นแบบที่ทำให้เกิดความตึงเครียด มากบ้างน้อยบ้าง ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นช่วงของปีงบประมาณใหม่ เป็นผลต่อเนื่องมาจากการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ
แต่สำหรับปีนี้ ที่มี “บางกลุ่ม” พยายามเคลื่อนไหว สร้างกระแสให้เกิดความตึงเครียดในเดือนตุลาคมขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วก็เคลื่อนไหวในลักษณะ “ปลุกระดม” มาสักพักใหญ่แล้ว แต่เป็นแบบ ใช้วันเวลาจาก “เหตุการณ์ในอดีต” มาปลุกกระแส เช่น 24 มิถุนายน, 22 พฤษภาคม, 19 กันยายน, 24 กันยายน เป็นต้น และนี่ยังไม่นับการชุมนุมเมื่อวันที่ 10, 16 สิงหาคม ซึ่งถือว่าเป็นการชุมนุมเกิดอย่างต่อเนื่อง ยังมีการชุมนุมย่อยๆ ตามหัวเมืองทั่วประเทศ โดยเป็นกลุ่มในเครือข่ายเดียวกัน
แม้ว่าในช่วงแรกๆ อาจจะมองว่าการชุมนุมของคนพวกนี้ อาจจะสร้างแรงกดดันให้กับฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายอำนาจรัฐได้ไม่มากก็น้อย หลังจากที่มีการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ของฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะจากบรรดาพรรคการเมืองหลายพรรค ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล จนนำไปสู่การเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสภาจำนวน 6 ญัตติ รวมไปถึงร่างแก้ไขของประชาชนในกลุ่ม “ไอลอว์” อีกหนึ่งญัตติ เพียงแต่ว่ากำลังอยู่ในขั้นตรวจสอบรายชื่อ แต่ก็เชื่อว่า จะสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาพร้อมกับญัตติของพรรคการเมืองในช่วงสมัยประชุมหน้าในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากเวลานี้สภามีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างญัตติแก้ไขฯ ก่อนรับหลักการในวาระที่ 1 ภายใน 30 วันอยู่แล้ว
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากเงื่อนไขหลักก็ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้ เรื่องการ “แก้ไขรัฐธรรมนูญ” น่าจะกลายเป็นแรงกดดันหลักที่จะส่งผลสะเทือนไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกลุ่มอำนาจใน "3ป." ที่ถือว่าเป็น “ศูนย์กลางอำนาจ” เวลานี้ แต่เมื่อพวกเขายอม “ยืดหยุ่น” แสดงท่าทีให้เห็นว่าไม่ขัดขวาง ปล่อยให้เป็นเรื่องของสภา แรงกดดันดังกล่าวก็ลดลงมาทันที
ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง “เกม” ของกลุ่มการเมืองบางกลุ่มที่ชักใยเด็กๆ นักศึกษาเคลื่อนไหวนอกสภาอยู่นั้น กลับเดินเกม “พลาด” เอง เมื่อ “ทำลายแนวร่วม” ด้วยการเคลื่อนไหวที่มุ่งเน้นในเรื่อง “การโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์” ทำให้เวลานี้กลุ่มที่เคลื่อนไหวในแนวทางดังกล่าวแทบจะถูก “โดดเดี่ยว”
มิหนำซ้ำ หากพิจารณาจากบรรยากาศตามความเป็นจริง “กระแส” ของคนกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะชื่ออะไร เช่น ประชาชนปลดแอก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่มี นายอานนท์ นำภา นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และ นายภานุพงศ์ จาดนอก ที่ยังยืนยันเดินหน้ามุ่งกล่าวโจมตีสถาบันฯ มันก็ยิ่งทำให้ถดถอย เพราะห่างไกลจากแนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมที่มุ่งเน้นในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การมุ่งโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ “กลุ่ม 3 ป.” เป็นหลัก
ประกอบกับการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ ที่ถูกมองว่า “ไร้แก่นสาร” ไม่มีทิศทางให้เกิดพลังกดดัน รวมไปถึงการใช้ถ้อยคำหยาบคาย จนหลายคนต้องเบือนหน้าหนี สิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ “กระแส” ต้องลดลงไปเรื่อยๆ ซึ่งก็รวมไปถึงกลุ่มบุคคลที่ถูกมองว่าเป็นคนชักใยอยู่ข้างหลัง เช่น “กลุ่มก้าวหน้า” ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล จนส่งผลให้ในระยะหลังเริ่มลดความร้อนแรงลงไปมาก
อีกด้านหนึ่งเมื่อพิจารณาถึงบรรยากาศและแนวโน้มถึงการเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ไม่ต้องเดาก็มองเห็นภาพได้ล่วงหน้าแล้วจะ “สุดกร่อย” ประเภทที่บอกว่า คนจะมาร่วมแบบ “มืดฟ้ามัวดิน” หรือ “เป็นล้าน” ไม่เพี้ยนก็คงเมาหนักแน่นอน หากจะมืดก็คงเป็นเพราะ “พายุมรสุม” จะเข้ามาในช่วงวันนั้นพอดี ตามที่กรมอุตุฯ พยากรณ์เอาไว้นั่นแหละ
ล่าสุด วันที่ 6 ตุลาคม ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้มีการเลือกตั้งสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ 76 จังหวัดแล้ว และขั้นตอนต่อไปทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเป็นผู้กำหนดวันเลือกตั้งตามมา โดยก่อนหน้านี้ มีการยืนยันแล้วว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายในเดือนธันวาคมนี้ จากนั้นก็จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นในทุกประเภทตามมาทุกระยะ 60 วัน นั่นก็หมายความว่า ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีนี้ต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้าเกือบทั้งปี จะมีแต่การเลือกตั้ง
เมื่อเป็นแบบนี้กระแสก็เบนไปอีกทาง กลายเป็นทุกสายมุ่งสู่การหาเสียงเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เวลานี้กำลังเดินสายไปทั่วเพื่อหาเสียงล่วงหน้า หรือใครก็ตามก็จะมุ่งไปจุดเดียว และสำหรับเดือนตุลาคมปีนี้ก็คงไม่มีอาถรรพ์ เพราะทุกอย่างเริ่มเข้าสู่โหมดปกติแล้ว !!