เมืองไทย 360 องศา
เชื่อว่าคนไทยหลายคนกำลังเตรียมเสื้อสีเหลืองกลับมาสวมใส่เพื่อรำลึกถึงวันสำคัญ ในวันที่ 13 ตุลาคม ซึ่งตรงกับวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ เชื่อว่า ทั่วทั้งประเทศไทยคงจะ “เหลืองอร่าม” อย่างพร้อมเพรียงกันอีกครั้ง แม้ว่าคราวนี้รัฐบาลจะไม่ได้กำหนดว่าต้องให้คนไทยต้องสวมใส่เสื้อเหลืองกันทุกคน แต่มั่นใจว่าในฐานะคนไทย จะต้องรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านไม่มีวันเสื่อมคลาย ต้องพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อเหลืองในวันดังกล่าวกันอย่างพร้อมเพรียงแน่นอน
สำหรับวันที่ 13 ตุลาคมปีนี้ ถือเป็นครบรอบวันสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ครบ 4 ปี หลังจากที่พระองค์ทรงครองราชย์นานกว่า 70 ปี ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดในโลก และทรงมีพระราชกรณียกิจมากมายนับไม่ถ้วน อีกทั้งยังมีโครงการหลวงกว่า 4 พันโครงการ สร้างความเจริญ ลดความยากจนให้กับคนไทยอย่างเอนกอนันต์ และด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล และเปี่ยมด้วยพระเมตตา ที่ทรงพระราชทานแนวทางปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่ทั่วทั้งโลกยังให้ความชื่นชมยกย่อง ว่า พระองค์เป็น “กษัตริย์นักพัฒนา”
แน่นอนว่า ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นอย่างหาที่เปรียบมิได้ ย่อมทำให้คนไทยแทบทุกคน ร่วมรำลึกถึงพระองค์ท่านไม่เสื่อมคลาย และในวันที่ 13 ตุลาคม เวียนมาบรรจบอีกครั้ง ในฐานะพสกนิกรของพระองค์ก็ต้องพร้อมใจกัน “สวมเสื้อเหลือง”กันให้อร่ามทั้งประเทศ เหมือนกับที่ปรากฏในวันสำคัญของพระองค์ท่านในช่วงที่ผ่านมาทุกครั้ง
โดยเฉพาะในปีนี้ ต้องนับว่าเป็น “วันพิเศษ” ที่ “ต้องพิสูจน์” ให้เห็นว่า คนไทยมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มากเพียงใด หลังจากที่มี “คนบางกลุ่ม” พยายามท้าทาย มุ่งบ่อนทำลายสถาบันฯ อย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับความเคลื่อนไหวของการชุมนุมทางการเมืองที่กำหนดขึ้นมา ในวันที่ 14 ตุลาคม ก็บังเอิญว่าเป็นเรื่องที่ให้เกิดขึ้นหลังวันที่ 13 ตุลาคม ขณะที่บรรดาแกนนำผู้ชุมนุม รวมไปถึง “กลุ่มทุน” ที่เชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการชุมนุมในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทุนของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และแกนนำแทบทุกคนต่างก็มีการเคลื่อนไหว และมีทัศนคติอันเป็นลบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มาอย่างต่อเนื่อง และการชุมนุมคราวนี้ พวกเขาก็ยังย้ำชัดเจนว่า จะพุ่งเป้าวิพากษ์วิจารณ์สถาบันฯ ให้รุนแรงมากขึ้น โดยอ้างถึงเรื่องการเสนอให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริงอะไรประมาณนั้น
ขณะเดียวกัน สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือ การชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคม ของกลุ่มที่ล่าสุดเปลี่ยนมาเรียกตัวเองว่า “กลุ่มคณะราษฎร 2563” เป็นการชุมนุมของกลุ่มที่มีเจตนาชัดเจน ที่มุ่งตรงไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อีกทั้งหากสังเกตจากการชุมนุมในช่วงที่ผ่านมาของกลุ่มอื่น หากนับกันตั้งแต่สมัยเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เราจะเห็นขบวนนักศึกษา ประชาชน มีการเชิญธงไตรรงค์ พร้อมทั้งอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัวนำขบวน ซึ่งมักจะเป็นลักษณะแบบนี้แทบทุกครั้ง หากมีการชุมนุมในช่วงที่ผ่านมา
แต่คราวนี้กลับกลายเป็นว่า เป็นการชุมนุมที่มีเจตนา “จาบจ้วง” อย่างชัดเจน และที่เหิมเกริมมากไปกว่านั้นก็คือ แกนนำบางคนประกาศว่า จะมีการ “ชูสามนิ้ว” ขณะที่มีขบวนเสด็จบนถนนราชดำเนินกลาง ในวันที่ 14 ตุลาคมอีกด้วย แน่นอนว่า หากมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ก็คงเป็นการสร้างความขุ่นเคืองให้กับคนไทยที่จงรักภักดีกับสถาบันพระมหากษัตริย์มานานแสนนาน แน่นอน
อย่างไรก็ดี ก่อนจะถึงวันที่ 14 ตุลาคม ในวันที่ 13 ตุลาคม คนไทยก็ต้องร่วมใจกันแสดงพลังให้เห็นด้วยการพร้อมใจกัน “สวมเสื้อเหลือง” กันทั้งประเทศเพื่อแสดงความจงรักภักดี และแสดงสัญลักษณ์ให้คนพวกนี้ได้เห็น โดยเฉพาะกลุ่มการเมืองบางกลุ่มที่มีเจตนาจาบจ้วง และกำลังสร้าง “ขบวนการล้มเจ้า” ได้เห็นว่าพวกเขาได้สำนึกถึงพลังโดยไม่ต้องใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด !!