xs
xsm
sm
md
lg

“พลังเสื้อเหลือง” เคลื่อน ความเสี่ยงบังเกิด !!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา



น่าจับตามองขึ้นมาอีกระดับหนึ่งแล้ว หลังจากเริ่มเห็นความเคลื่อนไหวของบรรดา “คนเสื้อเหลือง” ที่รักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ออกมาแสดงพลังกันในหลายจังหวัด หลายพื้นที่ทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน ก็ได้เห็นแรงกดดันต่อรัฐบาลเร่งดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวดกับบุคคลที่กระทำจาบจ้วง ดูหมิ่นสถาบันฯ มากขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากมีการชุมนุมของกลุ่มที่เรียกชื่อใหม่ว่า “กลุ่มประชาชนปลดแอก” หรือกลุ่ม “คณะราษฎร” รวมไปถึงในชื่ออื่น ได้ชุมนุมต่อเนื่องมานานกว่าสัปดาห์ โดยมีข้อเรียกร้องหลัก 3 ข้อ นั่นคือ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมลาออก ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังที่ทราบกันดีอยู่แล้วโดยเฉพาะในข้อสุดท้าย ถือว่าได้สร้างความเจ็บปวด และสร้างความไม่พอใจให้กับคนไทยจำนวนมาก เนื่องจากถือว่าเป็นการก้าวล่วงสถาบันฯ แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

ขณะเดียวกัน คนไทยจำนวนมากก็ยังมั่นใจว่ามีคนที่ชักใยผู้ชุมนุม โดยเฉพาะบรรดาเยาวชน นักเรียนนักศึกษามาจากทั้งในและต่างประเทศ ในประเทศก็ชี้ไปที่กลุ่มการเมือง และพรรคการเมืองบางพรรค ขณะที่ในต่างประเทศก็เป็นเครือข่ายคนไทยที่หลบหนีคดี และลี้ภัยอยู่ภายนอก รวมไปถึงมหาอำนาจตะวันตก ที่ต้องการสร้างเงื่อนไขต่อรองให้ไทยเลือกข้างกับฝ่ายตน หลังจากเกิดการแย่งชิงอิทธิพลและความขัดแย้งในภูมิภาคกับฝ่ายจีน

ที่ผ่านมา มีการใช้สื่อโซเชียลฯ ปลุกระดม และชี้นำบรรดาเยาวชนและนักศึกษาให้ออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมประท้วง เนื่องจากมั่นใจว่าทางฝ่ายรัฐบาลไม่กล้าจัดการ หรือสลายการชุมนุมด้วยความรนแรงอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะยั่วยุหนักแค่ไหนก็ตาม

อย่างไรก็ดี หลังจากมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และมีการจับกุมแกนนำและบุคคลที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายปลุกระดม และหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ไปหลายคนทำให้ภาพการชุมนุมลดความร้อนแรงลงไปบ้าง แต่ก็ยังมีการจาบจ้วง ทั้งในโลกโซเชียลฯและพฤติกรรมที่ปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งอย่างที่รับรู้กันว่าการเคลื่อนไหวชุมนุมดังกล่าวนี้ สังคมมองออกว่า “มีคนชักใย” อยู่เบื้องหลัง รวมไปถึงการออกแบบการชุมนุม มีการชี้นำการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะยังมีประเด็นไปที่การจาบจ้วงสถาบันฯ ซึ่งประเด็นนี้แหละที่ทำให้เริ่มเกิดปฏิกิริยาตอบโต้กลับมาจากสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกลุ่มและองค์กรที่รักสถาบันฯ ต่างเริ่มรวมตัวออกมาแสดงท่าทีและเคลื่อนไหวมากขึ้น

ที่น่าจับตาก็คือ ในเดือนตุลาคมนี้ ถือว่าเป็นวันสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับสถาบันฯ เช่น วันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นวันสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ ๙ วันที่ 21 ตุลาคม เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพครบรอบ 120 ปี ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ “สมเด็จย่า” และวันที่ 23 ตุลาคม ก็เป็นวันปิยมหาราช ที่ประชาชนรำลึกกันทุกปี

ประกอบกับเมื่อได้เห็นความเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมมีการกระทำที่จาบจ้วง ก็ยิ่งเพิ่มดีกรีความไม่พอใจ และเริ่มมีการเคลื่อนไหวแสดงพลังตอบโต้กันในหลายจังหวัด ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา และคาดว่าจะได้เห็นการเคลื่อนไหวของ “คนเสื้อเหลือง” มากขึ้นในทั่วประเทศ

การเคลื่อนไหวดังกล่าวแน่นอนว่าย่อมทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย และนำไปสู่เหตุการณ์บานปลายจนควบคุมไม่อยู่ ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์แบบนั้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าเศร้า และคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น

หากพิจารณาจากปรากฏการณ์ และความเคลื่อนไหวของทั้งสองฝ่าย ถือว่าน่าเป็นห่วง อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากข้อเรียกร้องของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “กลุ่มปลดแอก” ก็ถือว่า “ล้ำเส้น” เนื่องจากมีการใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย จาบจ้วง มีท่าทีที่ก้าวร้าวจนทำให้คนที่รักสถาบันฯ รับไม่ได้ และแสดงออกมาในลักษณะที่ “ไม่ทน” เหมือนกัน จึงต้องออกมาแสดงพลังให้เห็นกันบ้าง แต่ถึงอย่างไรก็ยังเชื่อว่าน่าจะควบคุมได้ หากมีความอดกลั้น อดทน เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงด้วยความสงบและสันติ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น