xs
xsm
sm
md
lg

“สามารถ” เตือน “ปิยบุตร-ธนาธร” เลิกหลบอยู่หลังเด็ก ย้อนอย่าทำตัวแบบเพลง “หนักแผ่นดิน”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สามารถ” เตือน “ปิยบุตร-ธนาธร” เลิกหลบอยู่หลังเด็ก หัดทำตัวแบบ ลุงโฮ และคานธี จบนอกแล้วมาพัฒนาชาติตนเอง อย่าทำตัวแบบเพลง “หนักแผ่นดิน”

วันนี้ (12 ก.ย.) นายสามารถ เจนชัยจิตวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” โดยระบุว่า มีประชาชนส่งข้อมูลมาให้ตนว่า คณะก้าวหน้ามีการปลุกระดมมวลชนไปชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ โดยถนนทุกเส้นทางมุ่งสู่สถานที่ดังกล่าว ใครมีรถก็หาเพื่อนร่วมทางไปด้วยกัน คณะก้าวหน้าขออำนวยความสะดวกกับผู้ที่มีใจรักประชาธิปไตย ด้วยการช่วยแชร์ค่ารถและค่าเดินทาง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล คณะก้าวหน้า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการปลุกระดมของม็อบอย่างชัดเจน นั้นคือแผน “โยนกระเบื้องล่อหยก” ทั้งการกู้เงินเพื่อให้โดนยุบพรรค เพื่อปลุกระดม

นายสามารถ กล่าวว่า อยากให้ประชาชนเข้าใจว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ เพราะ นายธนาธร และ นายปิยบุตร ได้ใช้หลักจิตวิทยาการเมืองนำข้อมูลเท็จมาบอกชาวบ้าน สร้างความแตกแยกทางความคิดในสังคม ปากบอกประชาธิปไตย แต่แท้จริงแล้วเป็นเผด็จการ โดยขอยกเหตุการณ์ในอดีตว่าผู้ที่สำเร็จการศึกษาในต่างประเทศ อาทิ ท่านโฮจิมินห์ ชาวเวียดนาม , ท่านมหาตมะ คานธี ชาวอินเดีย ได้นำความรู้กลับมาช่วยพัฒนาประเทศ แต่ นายธนาธร และ นายปิยบุตร กลับเรียนจบแล้วมาทำลายประเทศตัวเอง เหมือนกับชักศึกเข้าบ้าน

นายสามารถ กล่าวอีกว่า ขอย้อนอดีตตอนสมัยเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 1 ก็เพราะมีพระยาจักรี ถูกพม่านำไปชุบเลี้ยงและเห็นแก่เครื่องราชบรรณาการที่พม่าเสนอจึงขออาสา โดยกลับมาในกรุงศรีอยุธยา แจ้งว่า สามารถหลบหนีออกมาได้ ในขณะนั้น สมเด็จพระมหินทราธิราช เชื่อในคำพูด และมองว่า เป็นคนมีความรู้ความสามารถจึงแต่งตั้งเป็นผู้มีอำนาจ ซึ่งพระยาจักรีนั้นเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ได้ทำการขายชาติ ย้ายคนเก่งไปที่ไม่สำคัญ ทำให้กรุงศรีฯอ่อนแอลง และได้เปิดประตูเมืองให้พม่าเข้า จึงทำให้เสียกรุง ส่วนการเสียกรุง ครั้งที่ 2 นั้น พระยาพลเทพ ได้ขนดินปืนและเสบียงให้พม่า จึงส่งผลให้พ่ายแพ้แก้สงคราม ทำให้ตนนึกถึงเหตุการณ์ทุกวันนี้คล้ายกับเหตุการณ์ในอดีต ชาวบ้านจึงได้ส่งเพลงหนักแผ่นดินมาให้ นายธนาธร และ นายปิยบุตร ได้ฟังว่า “คนใดยุยงปลุกปั่น ไทยด้วยกันหวังให้แตกกระจาย ปลุกระดมมวลชนให้สับสนวุ่นวาย เพื่อคนไทยแบ่งฝ่ายรบกันเอง คนใดหลงชมชาติอื่น ชาติเดียวกันเขายืนข่มเหง ได้สินทรัพย์เจือจานก็ประหารไทยกันเอง ที่ชาติอื่นเกรงดังญาติของมัน” คนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน

“ขอเตือนสติ นายธนาธร และ นายปิยบุตร ควรเอาอย่าง ท่านโฮจิมินห์, ท่านมหาตมะ คานธี ที่เรียนจบแล้วกลับมาพัฒนาประเทศบ้านเมืองของตนเอง ไม่ใช่ยุยงปลุกปั่นสร้างความขัดแย้ง โดยใช้หลักจิตวิทยาการเมืองที่ผิดให้ข้อมูลเท็จกับประชาชน และควรหัดทำเป็นตัวอย่างที่ดีแก่สังคมเยาวชนคนรุ่นใหม่ ต้องเคารพคำพิพากษาของศาลที่ตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปแล้ว 10 ปี ดังนั้น นายธนาธร และ นายปิยบุตร ควรเรียนรู้ว่านักการเมืองในอดีตที่ถูกตัดสิทธิ์เขาทำตัวเช่นไร โดย นายธนาธร และ นายปิยบุตร นั้น ไม่เคารพคำตัดสินของศาลเลย แถมยังสร้างความวุ่นวายอีก จึงอยากให้ทบทวนตัวเองด้วย ปากบอกว่าเป็นประชาธิปไตย แต่หัวใจไม่เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ ควรต้องเคารพกฎกติกาด้วย รัฐบาลนี้มีคนเลือกมา 18 ล้านคน ดังนั้น นายธนาธร และ นายปิยบุตร หัดควรฟังเสียงคนอื่นด้วย และให้เลิกทำพฤติกรรมที่แอบอยู่หลังเด็กและเยาวชนด้วย”


กำลังโหลดความคิดเห็น