“สามารถ” โต้ “ก้าวไกล” อภิปรายสอบตก แนะควรทำงานมากกว่าพูดเพื่อประชาชน

วันนี้ (10 ก.ย.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” กรณีพรรคก้าวไกล อภิปรายทั่วไป ญัตติ ม.152 ว่า ตนได้ติดตามการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน ยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะรัฐบาลต่อปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจและปัญหาการเมือง โดยมีผู้หวังดีส่งข้อมูลมาให้ตน พบว่า ฝ่ายค้านไม่ได้มีการอภิปรายเสนอแนะ หรือซักถามข้อเท็จจริงกับรัฐบาล มีแต่การให้ข้อมูลเท็จแก่ประชาชน พูดจาปราศรัยโดยปราศจากความจริง ให้ร้ายแก่รัฐบาล ขัดกับหลักญัตติ ม.152 โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลที่คิดว่า ส่งขุนพลฝีมือดีมา แต่จริงแล้วเป็นขนมจีนที่ขาดน้ำยา อาทิ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค หรือ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร, นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์, นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พรรค เป็นต้น

นายสามารถ กล่าวอีกว่า การอภิปรายของ ส.ส.พรรคก้าวไกล นั้น ตนเห็นว่า ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนแต่อย่างใด มีเพียงมุ่งเน้นให้เกิดความขัดแย้งและให้ข้อมูลเท็จ ปลุกระดมเพื่อเกิดความวุ่นวาย มองรัฐบาลเป็นผู้ร้าย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้ตั้งใจแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน โดยที่ผ่านมา อย่างที่เห็นการแก้ปัญหาโควิด-19 ทำได้เป็นอันดับต้นๆ ของโลก รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจได้กระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยการหยุดยาวชดเชยวันสงกรานต์ เมื่อต้นเดือน ก.ย. 63 ส่งผลให้รถสัญจรจำนวนมาก ทั้งสายเหนือ สายอีสาน และสายใต้ ทั้งนี้พรรคก้าวไกลก็พยายามใส่ข้อมูลเท็จ ว่า รัฐบาลนี้เป็นเผด็จการ ทั้งที่จริงแล้วรัฐบาลนี้มาจากการเลือกตั้งของพ่อแม่พี่น้องประชาชน โดยพรรคพลังประชารัฐ มีคนเลือก 8.433137 ล้านคะแนน พรรคภูมิใจไทย มีคนเลือก 3.732883 ล้านคะแนน พรรคประชาธิปัตย์ 3.947726 ล้านคะแนน พรรคชาติไทยพัฒนา 7.82031 แสนคะแนน พรรคเศรษฐกิจใหม่ 4.85664 แสนคะแนน เบื้องต้นก็มีคะแนนที่ประชาชนเลือก 17.381441 ล้านคะแนน ดังนั้น รัฐบาลนี้มีคนรักและเลือกมามากกว่า 17 ล้านคน ดังนั้นพรรคก้าวไกล ต้องมีหัวใจประชาธิปไตยด้วย ในการเคารพประชาชนที่เห็นต่างและต้องรู้จักหน้าที่พลเมือง

นายสามารถ กล่าวต่อว่า ฝากเตือนสติ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ที่พูดจาปราศรัยด้วยความก้าวร้าวไม่ให้เกียรตินายกรัฐมนตรี ควรไปอ่านหนังสือคุณสมบัติผู้ดี และให้เข้าวัด อย่าได้มีมิจฉาทิฏฐิ แต่ไม่ทราบว่า วันหยุดยาวที่ผ่านมาได้เข้าวัดบ้างหรือไม่ เพราะเป็นห่วงว่าเส้นเลือดจะแตกเสียก่อน เพราะความเครียดที่มีอคติต่อนายกรัฐมนตรี ดังนั้น จึงต้องเข้าวัดเพื่อผ่อนคลายและชาวบ้านฝากมาว่าอยากให้พรรคก้าวไกลให้ทำงานมากกว่าพูด เพราะโดยปกติแล้วธรรมชาติได้สร้างให้เรามี 2 หู 1 ปาก เพื่อที่จะได้ฟังให้มากและพูดให้น้อย แต่ นายวิโรจน์ กลับทำตรงกันข้าม คือ พูดมากและไม่ฟังใครเลย นายกฯก็ชี้แจงข้อมูลจริงเป็นประโยชน์ต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนแต่ นายวิโรจน์ ไม่รับรู้อะไรเลย นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลควรเลิกปลุกระดมม็อบอย่างที่คณะก้าวหน้ากำลังทำอยู่ เพราะตนเป็นห่วงและเป็นกังวลว่า กลัวจะเจริญรอยตามพรรคอนาคตใหม่ ดังนั้น อยากให้แก้ปัญหาเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ใช้สมองให้มากใช้ปากให้น้อย ก่อนจะเอ่ยวาจาออกไป

“อยากฝากข้อความจากชาวบ้านที่ส่งมาที่ศูนย์ร้องทุกข์ฯ ว่า ขอให้ นายวิโรจน์ และ นายพิธา ลงมือทำช่วยประชาชนให้ได้แค่ 1 ใน 100 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะดีกว่า การชี้แจงเมื่อวาน ชาวบ้านบอกว่า นายกฯได้ 100 เต็ม แต่พรรคก้าวไกลสอบตก แบบไม่รู้จะหาคะแนนจากตรงไหนได้เลย ผมก็เห็นด้วยกับชาวบ้าน เพราะว่าเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาที่จังหวัดสมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ ก็ชนะขาดลอย จึงอยากให้ นายพิธา เลิกเดินตามคณะก้าวหน้า และหันมาช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจะดีกว่า”