ข่าวปนคน คนปนข่าว
**เมื่อ “สันติ พร้อมพัฒน์” ตะกายดาว ขอเป็น รมว.คลัง ในฝันของลุงตู่ แต่ตำนานโปรไฟล์จบ-ไม่จบ “ม.รามฯ” ยังตามหลอน
ออกตัวแรงว่า “พร้อมมาก” สำหรับ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง ที่อาสาจะขยับขึ้นนั่ง รมว.คลัง แทนที่ “ปรีดี ดาวฉาย” ที่ขอลาออก โดยหาก “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม หาคนนอกไม่ได้ หรือไม่มีใครอยากจะมา จะลองเรียกใช้บริการคนในของพรรคพลังประชารัฐคนนี้ “สันติ” ก็พร้อมน้อมรับ
เมื่อ “สันติ” แสดงความมั่นอกมั่นใจเช่นนี้ ก็เป็นธรรมดาที่ใครต่อใครจึงอยากรู้จัก เช็ก “โปรไฟล์” ของว่าที่ รมว.คลัง กันหน่อยว่า เก่งกล้าสามารถ จะนำพาเศรษฐกิจกอบกู้วิกฤตได้หรือไม่อย่างไร
เช็กโปรไฟล์ไปมา ก็เจอว่ามีเรื่องเล่าขานเป็นตำนานของบรรดาลูกพ่อขุน หรือนักศึกษา “ม.รามฯ” โดยเฉพาะการทุจริตในการสอบ กรณีสอบแทนกัน...
ว่ากันว่า คดีมีบันทึกเป็น “หนังสือคำสั่ง” มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ 1170/2542 เรื่อง ลงโทษลบชื่อออกจากทะเบียนนักศึกษา ซึ่งหนังสือดังกล่าวระบุว่า ในการสอบไล่ภาคฤดูร้อนปีการศึกษา 2541 หัวหน้าตึกสอบ PRB201 รายงานว่า ในการสอบกระบวนวิชา PY103 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2542 คาบสอบที่ 1 ได้ตรวจพบ “นายสันติ พร้อมพัฒน์” รหัสประจำตัว 4106562624 ได้ให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทน โดยการปลอมบัตรประจำตัวนักศึกษา และใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพ ของกรมการขนส่งทางบก ใช้เป็นหลักฐานในการเข้าสอบ
มหาวิทยาลัยได้นำเรื่องนี้เสนอที่ประชุม คณะกรรมการที่ปรึกษาของสภามหาวิทยาลัย (ทปม.) ในการประชุม ครั้งที่ 23/2542 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2542 ซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวของนายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ 664/2537 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2537 เรื่องข้อปฏิบัติในการสอบไล่ข้อ 1.20 ซึ่งได้ประกาศให้ทราบโดยทั่วกันแล้ว อันเป็นการกระทำผิดวินัยนักศึกษาอย่างร้ายแรง ตามข้อ 6 แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหง ว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ. 2522
จึงมีมติให้ลงโทษลบชื่อ “นายสันติ พร้อมพัฒน์” รหัสประจำตัว 4106562624 ออกจากทะเบียนนักศึกษา ทั้งนี้ ตั้งแต่สอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2541 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2542 ลงชื่อ “ศ.รังสรรค์ แสงสุข” อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
แต่ต่อมา คดีกลับพลิก “นายสันติ” ที่ถูกลบชื่อออกจากการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง ในปี 2542 แล้ว กลับจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ในปี 2545 และจบปริญญาโทอีก ในปี 2547 ทั้งที่ตามระเบียบแล้วคนที่ถูกลบชื่อออกจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง จะไม่มีสิทธิ์กลับเข้ามาเรียนใหม่ได้
... แต่ด้วยเหตุผลขำๆ ว่า กรณีการสอบแทนกันเกิดขึ้นจริง แต่เป็นบุคคลอื่นที่ชื่อคล้าย “สันติ พร้อมพัฒน์” คือ ชื่อ “สานติ พรมพัฒน์” และตามจับผู้ที่สอบแทนนายสานติได้ ชื่อนายสวัสดิ์ ส่วนกรณีคัดชื่อ นายสันติ ออกนั้นเป็นข้อผิดพลาดของฝ่ายวินัย ซึ่งไม่ได้มีการสอบสวน และเสนอชื่อนายสันติมาให้อธิการบดีเซ็นคัดออกโดยไม่ดูให้ดีเสียก่อน !!
ฟังว่า ในปี 2542 เป็นปีที่ครบรอบ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ สภามหาวิทยาลัย ได้ออกระเบียบว่าด้วยการ “ล้างมลทิน” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ในระเบียบระบุให้ล้างมลทินให้แก่บรรดานักศึกษาที่ถูกลงโทษทางวินัย หรือผู้ถูกกล่าวหาว่าทำผิดวินัยนักศึกษา ให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกกล่าวหา หรือถูกลงโทษ หรือถูกลงทัณฑ์ทางวินัย นายสันติ จึงใช้ช่องทางนี้ และได้รับโอนหน่วยกิตคืนมาทั้งหมด และจบการศึกษาในปี 2545 ดังที่ปรากฏในโปรไฟล์การศึกษาที่ได้เห็นกัน
แม้เรื่องราวจะผ่านมาหลายปี แต่เรื่องนี้พอถูกพูดถึง ก็เป็นเรื่องราวตามหลอกตามหลอน “สันติ” มายาว เพราะมีความเชื่อเจือความสงสัยว่า แท้ที่จริงเป็นความจริง หรือการเข้าใจกันผิด เพราะคนที่คล้ายกันกระทำความผิดของฝ่ายวินัย ม.รามฯ กันแน่ แต่ก็มีข้อมูลที่โต้แย้งว่า “สันติ พร้อมพัฒน์” ณ ตอนนั้นไม่ใช่คนโนเนม เป็นนักการเมืองชื่อดังแล้ว เป็น ส.ส.เพชรบูรณ์ ที่ใครๆ ก็ต้องรู้จัก เป็นไปได้หรือที่ฝ่ายวินัยจะไม่ตรวจสอบให้ละเอียด มิหนำซ้ำ สามารถเช็กรหัสนักศีกษา และพยานผู้คุมสอบก็น่าจะได้ความจริงไม่ยาก แต่สุดท้ายก็กลายเป็นคนชื่อคล้ายกัน “สานติ พรมพัฒน์” มาแทนแบบน่าสงสัย อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น
น่าสนใจว่า เวลานี้ สันติ กำลังตะกายดาวขอเป็น รมว.คลัง ในฝันของพรรคพลังประชารัฐ-ของรัฐบาล เสนอตัวให้นายกฯ พิจารณา นี่ก็ไม่รู้ว่า ตำนาน “สันติ-สานติ” ของเด็กรามฯนี้จะไปสะดุดใจลุง หรือไม่อย่างไร งานนี้ ก็ได้แต่ติดตามกันต่อไป
**3 ป.กล้าพอไหม!? เกมแก้รัฐธรรมนูญหลุดแนวต้าน กระแสแรงหั่น “ม.272” ริบอำนาจ ส.ว.ร่วมเลือกนายกฯ ขนาด “ส.ว.ตัวแรง” ยังแบะท่าเอาด้วย แบบนี้ต้องถามใจ “3 ป.” ผู้กุมอำนาจยอมแต่โดยดี หรือเตะปลั๊ก ล้มกระดานแก้รัฐธรรมนูญซะเลย
เกมแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 กลายมาเป็น “ไฟต์บังคับ” ที่คงหาเหลี่ยมมาพลิ้วออกมามุมอับลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ “ฝ่ายกุมอำนาจ” เองก็จำเป็นต้องลงมาเล่นด้วยตัวเองอย่างเสียไม่ได้ ... หลังจากกดปุ่มให้ พรรพลังประชารัฐ โดย “วิปรัฐบาล” เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และได้รับการบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมร่วมรัฐสภา ที่นัดหมายกันไว้แล้ว ในวันที่ 23-24 ก.ย. ที่เป็นวาระรับหลักการญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก่อนจะถึงกำหนดปิดสมัยประชุมรัฐสภาสมัยสามัญ ในวันที่ 25 ก.ย. ..
อีกทั้งรายงานการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่นำส่ง “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาฯไปแล้วนั้น สาระสำคัญก็ยอมรับว่า “จำเป็นต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ตลอดจนแนบ “ข้อสังเกต” ในประเด็นต่างๆ มาด้วย .. อย่าลืมว่า กมธ.ชุดที่ว่านี้ มี “กุนซือตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ก่อนจะปิดจ๊อบ 8 เดือนเต็ม เชื่อแน่ว่า “กุนซือตุ๋ย” คงได้จับเข่าคุยกับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กันพอสมควรแล้ว ก่อนจะปิดผนึก รีพอร์ตส่งให้ “นายหัวชวน”...หากแต่ “แรงต้าน” ที่ “ฝ่ายรัฐ” พยายามคอนโทรลไว้ที่การแก้ไขเฉพาะหลักใหญ่ ในมาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้มี สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนนั้น ดูเหมือนจะคอนโทรลไม่อยู่ซะแล้ว ..
เมื่อกระแส ณ ตอนนี้ ทำท่าจะหลุด “แนวต้าน” กระทุ้งไปถึง “รากเหง้า” ที่มาของ “รัฐบาลตู่ 2” โละทิ้ง “มาตรา 272” ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯช่วง 5 ปีหลัง คสช. หรือธง “ปิดสวิตช์ ส.ว.” ที่ “ฝ่ายแค้น-ฝ่ายค้าน” ตีฆ้องร้องป่าวกันมานาน ...สัญญาณเพิ่งมาทะแม่งๆ ก็ช่วงสุดสัปดาห์วันหยุดยาวที่ผ่านมา ที่จู่ๆ พรรคเพื่อไทย ที่เดิมหัวเด็ดตีนขาดไม่ขอร่วมสังฆกรรมกับ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคก้าวไกล ที่เสนอเลยเถิดไปทั้งการปิดสวิตช์ ส.ว. รวมทั้งล้างมรดกคสช.ให้สิ้น ... ตามประสาคนอาบน้ำร้อนมาก่อน “เพื่อไทย” ค้านทันที แถมลงมติไร้เยื่อใย 99.9% ไม่ร่วมลงชื่อร่างแก้ไขฯ ของพรรคก้าวไกล ทำเอาเสียงวิพากษ์กระหึ่ม ฟัดกันเอง ล่อกันเละ รัฐบาลตีขิมสบายใจ ...
แต่ที่ไหนได้ จู่ๆ “สุทิน คลังแสง-สมคิด เชื้อคง” แกนหลักวิปฝ่ายค้าน ก็ออกมาจุดพลุโป้งป้าง สงสัยพรรคเพื่อไทยคงต้อง ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เองซะแล้ว แต่ก็ไว้ฟอร์มไม่ขอลงชื่อให้พรรคก้าวไกล เหมือนเดิม ... ไม่เท่านั้นยังมีฟากฝั่ง “สภาสูง” ที่เสียงแปร่งๆ เช่นกัน ไม่ว่ารายของ “ส.ว.วันชัย สอนศิริ” ขอปิดสวิตช์ตัวเอง ไม่ขอร่วมโหวตนายกฯอีกตลอด ส.ว.สมัยนี้ แม้จะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ก็ตาม ...
ไม่ใช่แค่ “ล้อกระแส” กับภาคประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ต่าง “หมายหัว” ส.ว.แต่งตั้งไว้... “ส.ว.วันชัย” ยังเตือนไปถึง “เพื่อน ส.ว.” ด้วยว่า หาทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ระวัง “นรกจะมาเยือน” ... แถมกระทบชิ่งไปถึง “นายกฯตู่” ที่เป็นผู้แต่งตั้ง ส.ว.ชุดนี้มากับมืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อันเป็นเหตุผลที่ “ส.ว.วันชัย” ประเดิมปิดสวิตช์ตัวเองซะเลย ..
ไม่รู้ว่าเตือนกันแรงๆ หรือเตี๊ยมกันไว้ล่วงหน้า สิ้นเสียง “วันชัย” ไม่ทันไร “กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ” ส.ว.ตัวแรง ที่เคยออกตัวเป็น “องครักษ์ลุงตู่” ท้าไฝ้วกับฝ่ายค้านกลางสภาฯ มาแล้ว ก็ออกมาประกาศในทำนองสนับสนุนแก้ไข มาตรา 272 เรื่อง การยกเลิกอำนาจ ส.ว.ในการลงมติเลือกนายกฯ ซะอย่างนั้น ... ไม่เท่านั้นยังประกาศตั้งกลุ่ม “ส.ว.อิสระ” โดยมีการตั้งกลุ่มไลน์เฉพาะไว้สื่อสารกัน รวบรวมสมาชิกสภาสูง 60 กว่าคน ที่คัดแล้วมีแค่ “พลเรือน” ไม่มี “ทหาร-ตำรวจ” ส่งสัญญาณชัดๆ ไปเลยว่าเน้น “คนไม่มีสี” ไม่เชื่อมโยงถึง “บิ๊กรัฐบาล”
...แถมยังบอกด้วยว่าไร้ปัญหากับการริบอำนาจ มาตรา 272 ปิดสวิตช์ ส.ว. ที่เรียกร้องกันจัง พร้อมตัดเยื่อใย หมดความจำเป็นที่จะให้ ส.ว.มาโหวตเลือกนายกฯแล้ว ให้ “นายกฯตู่” ยืนด้วยลำแข้งตัวเอง อยากเป็นนายกฯต่อ ก็ต้องหาเสียงสนับสนุนจาก “สภาฯ” เอาเอง เพื่อความสง่างาม ... อย่างไรก็ดี ต้องไม่ตกหล่น “ระหว่างบรรทัด” ที่ “ส.ว.กิตติศักดิ์” บอกถึงแนวทาง “ส.ว.อิสระ” ที่มีต่อกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ว่า สนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็น “รายมาตรา” ไม่เห็นด้วยกับการตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมา .. คล้ายเป็น “เงื่อนไข” ที่วางไว้ว่า เมื่อไม่เห็นด้วยกับการตั้ง ส.ส.ร. การโหวตสนับสนุนการแก้ไข มาตรา 256 ที่จะวนกลับเข้ามาให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภา โหวตวาระ 2-3 ที่ต้องใช้เสียง ส.ว.ร่วมด้วยอย่างน้อย 84 เสียง ในสมัยประชุมหน้านั้น “ส.ว.อิสระ” ที่ตอนนี้มีกว่า 60 เสียง ก็อาจจะ “โหวตคว่ำ” ก็เป็นได้ เพราะออกตัวแล้วว่า “ไม่เห็นด้วย”..
เฉกเช่นเดียวกับ“ฝ่ายกุมอำนาจ”ทั้ง “นายกฯตู่” หรือ “พี่ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หรือ “พี่ป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่รู้จักกันในนาม “3 ป.บราเธอร์ส” จะยอมปลด “ความได้เปรียบ” ในการสืบทอดอำนาจตัวเองง่ายๆ เพียงเพราะทานกระแสไม่ไหวอย่างนั้นหรือ ... อีกทั้งยังเหนื่อยถูลู่ถูกังมา 5 ปีกว่า ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้ง ส.ว. 250 คนก็ตั้งมากับมือ ส.ส.ก็อุดหนุนจุนเจือมาแต่ต้น หากยอมง่ายๆ ก็คงแปลก ..ดีไม่ดีกดดันกันมากนัก “พี่ๆ” เล่นเตะปลั๊ก ล้มกระดานแก้รัฐธรรมนูญกันตั้งแต่วาระแรกปลายเดือนนี้ซะเลยแล้วจะรู้สึก.