xs
xsm
sm
md
lg

ย้อนตำนาน"สันติ"รมช.คลัง เคยถูกไล่ออกจากม.รามฯ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ย้อนตำนาน"สันติ พร้อมพัฒน์" ผู้ขออาสานั่ง"ขุนคลัง"แทน"ปรีดี ดาวฉาย" พบเคยถูกลบชื่อออกจากนักศึกษา ม.รามฯ เมื่อปี 42 เหตุให้ผู้อื่นปลอมบัตรนักศึกษา-ใบขับขี่ ทุจริตการสอบวิชาปรัชญาเบื้องต้น แต่อธิการบดียุค"รังสรรค์" ล้างมลทินให้จนจบ

จากกรณี นายปรีดี ดาวฉาย อดีตรมว.คลัง ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่ามีปัญหาด้านสุขภาพ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า มีความขัดแย้งกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง กรณีการแต่งตั้งข้าราชการในกระทรวงการคลัง จนทำให้นายปรีดีไม่พอใจ ซึ่งภายหลังนายสันติ ออกมาปฏิเสธถึงปัญหาความขัดแย้ง และอ้างว่านายปรีดี ได้โทรศัพท์มาขอโทษ ที่ทำให้ข่าวออกไปแบบนั้น ขณะเดียวกันยังประกาศตัวว่า พร้อมที่จะดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง เพื่อชาติบ้านเมือง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรี

ท่ามกลางความกังขาของสังคมที่ นายสันติ พยายามผลักดันตัวเองให้มาคุมกระทรวงสำคัญ กลับพบว่าในอดีต เคยมีเรื่องที่ส่อว่าผิดจริยธรรม จากการทุจริตในการสอบเมื่อครั้งเป็นนศ.รามคำแหง โดยพบว่ามีคำสั่ง ม.รามคำแหง ที่ 1170/2542 เรื่อง ลงโทษลบชื่อออกจากทะเบียนนักศึกษา ซึ่งระบุว่า ในการสอบไล่ภาคฤดูร้อนปีการศึกษา 2541 หัวหน้าตึกสอบ PRB201 รายงานว่า ในการสอบกระบวนวิชา PY103 เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.42 ได้ตรวจพบ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รหัสประจำตัว 410 6562624 ได้ให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทน โดยการปลอมบัตรประจำตัวนักศึกษา และใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพ ใช้เป็นหลักฐานในการเข้าสอบ

มหาวิทยาลัย ได้นำเรื่องนี้เสนอที่ประชุม คณะกรรมการที่ปรึกษาของสภามหาวิทยาลัย (ทปม.) ในการประชุม เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.42 ซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าวของนายสันติ เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ 664/2537 ลงวันที่ 12 พ.ค.37 เรื่องข้อปฏิบัติในการสอบไล่ ข้อ 1.20 ซึ่งได้ประกาศให้ทราบโดยทั่วกันแล้ว อันเป็นการประทำผิดวินัยนักศึกษาอย่างร้ายแรง ตามข้อ 6 แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหงว่าด้วยวินัยนักศึกษา พ.ศ. 2522 จึงมีมติให้ลงโทษลบชื่อนายสันติ พร้อมพัฒน์ รหัสประจำตัว 4106562624 ออกจากทะเบียนนักศึกษา ทั้งนี้ ตั้งแต่สอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 2541 เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 4 ส.ค.42 ลงชื่อ ศ.รังสรรค์ แสงสุข อธิการบดี ม.รามคำแหง

เรื่องนี้ พ.อ.วินัย สมพงษ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ (ขณะนั้น) เคยนำมาอภิปราย เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.51 ในช่วงที่นายสันติ ดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม ในรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช ระบุว่า รับไม่ได้กับปัญหาทางด้านคุณธรรม จริยธรรมของ รมว.คมนาคม โดยเฉพาะในกรณีการถูกลบชื่อออกจากการเป็นนักศึกษา ม.รามคำแหง เมื่อปี 42 เนื่องจากให้คนอื่นเข้าสอบแทน

นอกจากนี้ ยังมีข้อสงสัยว่า ในเมื่อนายสันติ ถูกลบชื่อออกจากการเป็นนักศึกษา ม.รามคำแหง ในปี 42 แล้ว แต่กลับจบปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ในปี 45 และจบปริญญาโท ในปี 47 ทั้งที่ ตามระเบียบแล้วคนที่ถูกลบชื่อออกจาก ม.รามคำแหง จะไม่มีสิทธิกลับเข้ามาเรียนใหม่ได้ อีกทั้ง นายรังสรรค์ แสงสุข อธิการบดี ในช่วงนั้น ต่อมาได้เป็นกรรมการอิสระ ในบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เท่ากับว่า คนที่มีคำสั่งลบชื่อนายสันติ ออกจากการเป็นนักศึกษา ม.รามคำแหง แล้วได้กลับมาเรียนใหม่ ก็ได้ไปเป็นบอร์ดการบินไทย รมว.คมนาคม คนนี้ มีคำถามเรื่องคุณธรรมจริยธรรม

เรื่องนี้ นายสันติ ได้ชี้แจงว่า ตนไม่เคยทำใบขับขี่ตลอดชีวิต และไม่เคยดำเนินการใดๆ อย่างที่มีการกล่าวหาว่า ตนถูกลบชื่อออกจากการเป็นนักศึกษา ม.รามคำแหง และทางมหาวิทยาลัย ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับตนเลย ตนได้เข้าเรียนปริญญาตรี ที่ม.รามฯ และจบป.ตรี ในปี 45 และได้เรียนต่อป.โท จนจบใน 2 ปีถัดมา ดังนั้นเรื่องที่มีการปลอมใบขับขี่ หรือกระทำการใดๆ นั้น ตนไม่เคยทำ ส่วนที่มหาวิทยาลัยจะดำเนินการสิ่งใดนั้น ตนไม่ทราบ

อย่างไรก็ตาม นายรังสรรค์ แสงสุข อดีต อธิการบดี ชี้แจงว่ากรณีการสอบแทนกันเกิดขึ้นจริง แต่เป็นบุคคลอื่นที่ชื่อคล้ายนายสันติ พร้อมพัฒน์ คือชื่อนายสานติ พรมพัฒน์ และจับผู้ที่สอบแทนนายสานติได้ ชื่อนายสวัสดิ์ และดำเนินคดีไปแล้ว ส่วนกรณีนายสันตินั้น เป็นข้อผิดพลาดของฝ่ายวินัย ซึ่งไม่ได้มีการสอบสวน และเสนอชื่อนายสันติ มาให้ตนลงนามคัดชื่อออก เมื่อนายสันติทราบเรื่อง ก็มาต่อว่ามหาวิทยาลัย ว่าไม่ได้มีการสอบสวนก่อน และในปี 42 เป็นปีที่ครบรอบ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ สภามหาวิทยาลัยฯ ได้ออกระเบียบว่าด้วยการล้างมลทิน เนื่องในโฮกาสมหามงคลพระชนมพรรษา ๖ รอบ ในระเบียบระบุให้ล้างมลทินให้แก่บรรดานักศึกษาที่ผู้ถูกลงโทษทางวินัย หรือผู้ถูกกล่าวหาว่าทำผิดวินัยนักศึกษา ให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกกล่าวหา หรือถูกลงโทษ หรือถูกลงทัณฑ์ทางวินัย นายสันติ จึงใช้ช่องทางนั้น และได้รับโอนหน่วยกิตคืนมาทั้งหมด และจบการศึกษาในปี 45

ยืนยันว่านายสันติ จบการศึกษาถูกต้อง มีทรานสคริปต์ ครบถ้วน โดยการนิรโทษกรรมนักศึกษาในปี 42 มีทั้งหมด 44 คน โดยที่เราไม่รู้ว่าเป็น นายสันติ หรือไม่ เพราะตอนนั้น ไม่มีใครรู้จักนายสันติ และการล้างมลทินลักษณะนี้ ก็สอดคล้องกับกฎหมายล้างมลทิน ซึ่งก็ล้างมลทินให้กับข้าราชการที่ทุจริต สามารถกลับเข้ารับราชการได้ และอีกประการหนึ่ง เป็นเพราะทางมหาวิทยาลัย ไม่ได้ตั้งกรรมการสอบสวนนายสันติ อาจมีการกลั่นแกล้งกัน หรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ใครจะทะเลาะอะไรกัน ก็อย่ามาเอามหาวิทยาลัยรามคำแหงไปเป็นเหยื่อ

ด้าน นายวิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ อดีตรองอธิการบดี ม.รามคำแหง กล่าวถึงกรณี นายรังสรรค์ ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ ของนายสันติ ว่า ผู้ที่ถูกจับได้ว่าให้คนอื่นเข้ามาสอบแทนนั้น ไม่ใช่นายสันติ แต่เป็น นายสานติ พรมพัฒน์ ข้อเท็จจริงก็คือ ช่วงนั้น นายสันติ เป็น ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคความหวังใหม่ เป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียง และช่วงนั้น กรณีนี้ดังมาก เพราะมีการตรวจสอบพบ ส.ส.ทุจริตเลือกตั้ง ไม่น่าเป็นไปได้ว่า มีความผิดพลาดของฝ่ายวินัย ที่ใส่ชื่อผิดตามที่นายรังสรรค์อ้าง นอกจากนี้ ในการพิจารณากรณีดังกล่าว มีคณะกรรมการซึ่งเป็นอาจารย์ ม.รามคำแหง ประชุมถึง 40 คน จะผิดพลาดได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตรวจสอบไม่ยาก ให้ดูว่ารหัสนักศึกษา 4106562624 นั้นชื่อนายสันติ หรือไม่ หัวหน้าคุมสอบวันนั้น เป็นใคร สามารถตรวจสอบได้ว่า มีความผิดพลาดจริงหรือไม่ และ วิชา PY103 ที่สอบเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.42 มีชื่อนายสันติ หรือ สานติ หรือไม่ สิ่งเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้

ส่วนที่นายรังสรรค์ ระบุว่า ได้ดำเนินคดีกับนายสานติ และนายสวัสดิ์ ผู้ซึ่งเข้าสอบแทนนั้น แจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจไหน ศาลรับฟ้องหรือไม่ มีหมายเลขคดี หรือไม่ และผลการตัดสินเป็นอย่างไร สิ่งเหล่านี้ตรวจสอบไม่ยาก เพื่อจะได้รู้ว่าใครพูดจริงใครพูดเท็จ สำหรับการออกระเบียบเรื่องล้างมลทินแก่นักศึกษานั้น ก็หาไม่ยาก เพราะจะต้องนำเข้าสภามหาวิทยาลัย สามารถขอดูได้เช่นกัน

นายวิวัฒน์ชัย ยังมอบอำนาจให้ นายโลมิรันดร์ บุตรจันทร์ ทนายความ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ในขณะนั้น เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีกับ นายสันติ ในข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ และใช้เอกสารปลอม และนายรังสรรค์ แสงสุข ข้อหาละเว้น หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 โดยระบุว่า ในการสอบไล่ภาคฤดูร้อน ปีการศึกษา 41 หัวหน้าตึก PRB ตรวจพบว่า นายสันติ ได้ให้บุคคลอื่นเข้าสอบแทน โดยปลอมบัตรประจำตัวนักศึกษา และใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพ ของกรมการขนส่งทางบก นำมาใช้เป็นหลักฐานเข้าห้องสอบ และมีมติให้ลบชื่อ นายสันติ ออกจากทะเบียนนักศึกษา

ต่อมานายสันติ ซึ่งถูกลบชื่อออกจากทะเบียนนักศึกษาไปแล้ว ได้บังอาจสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ ม.รามคำแหงอีก ทั้งที่รู้อยู่ว่าตนถูกลบชื่อไปแล้ว และไม่มีสิทธิสมัคร ซึ่งในเวลาดังกล่าว นายรังสรรค์ เป็นอธิการบดี เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพนักงานมหาวิทยาลัย ขณะเดียวกัน ม.รามคำแหง เป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมหาชน มีอธิการบดีปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ. 2541 ได้มีการช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งกฎหมาย ให้มีอำนาจปฏิบัติ โดยได้ให้ นายสันติได้รับการรับสมัครเป็นนักศึกษาใหม่ ระดับปริญญาตรี และเรียนต่อระดับปริญญาโทจนจบ จึงเป็นการกระทำผิดตามระเบียบมหาวิทยาลัย เพราะเมื่อนายสันติ ถูกลบชื่อก็มีสิทธิสมัครเป็นนักศึกษา หรือจนกว่าจะขาดอายุความ 15 ปี

นอกจากนั้น จากการที่มหาวิทยาลัย หรืออธิการบดี ไม่ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของนายสันติ ขณะเดียวกัน ก็มีหน้าที่ต้องดำเนินคดีกับ นายสันติ แต่กลับไม่ดำเนินการใดๆ อีกทั้งยังสนับสนุนให้สมัครเรียนปริญญาตรีภาคพิเศษ จนจบปริญญาโท ทั้งที่มีกฎหมายให้ตรวจสอบและปฏิบัติ ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ขณะ ที่นายสันติ ถือว่าขาดจริยธรรมสำหรับข้าราชการการเมือง

อนึ่ง นายรังสรรค์ แสงสุข อดีต อธิการบดี ม.รามคำแหง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 60 เนื่องจากโรคมะเร็งปอด รวมอายุได้ 73 ปี


กำลังโหลดความคิดเห็น