พรรคก้าวไกลประกาศจุดยืนรื้อรัฐธรรมนูญ 3 ประการ ตั้ง ส.ส.ร. ปิดสวิตช์ ส.ว. ด้วยการยกเลิกรัฐธรรมนูญ ม. 269-272 และยกเลิกคำสั่ง คสช. ทั้งหมด ห้ามขวางแก้หมวดสถาบัน เร่งขอเสียงสนับสนุนจาก ส.ส. ให้ภายในสมัยประชุมนี้
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. พรรคก้าวไกลได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก “พรรคก้าวไกล-Move Forward Party” ถึงจุดยืนต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน พรรคก้าวไกลมีจุดยืนและข้อเสนอในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น 3 ประการ ได้แก่ ตั้ง ส.ส.ร. เพื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ได้ทั้งฉบับ และ ปิดสวิตช์ ส.ว. ด้วยการยกเลิกรัฐธรรมนูญ ม.269-272 และ (3) ยกเลิกรัฐธรรมนูญ ม.279 เพื่อยกเลิกการรับรองให้ประกาศคำสั่ง คสช. ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและชอบด้วยกฎหมาย โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน เพื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยไม่ไปจำกัดว่าห้ามแก้หมวดใดหมวดหนึ่ง จะเป็นทางออกอย่างสันติให้สังคมไทยสามารถหาฉันทามติร่วมกันได้ว่าระบบการเมืองแบบไหนที่เรายอมรับที่จะอยู่ร่วมกัน พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ยื่นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมไปแล้วหนึ่งฉบับเพื่อแก้ไข ม. 256 ให้มีการตั้ง ส.ส.ร. แต่พรรคก้าวไกลไม่ร่วมลงชื่อด้วย เนื่องจากไปกำหนดไว้ว่า ห้าม ส.ส.ร. แก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 1 และ 2 พรรคก้าวไกล เห็นว่า ข้อกำหนดดังกล่าวยิ่งไปสร้างความเข้าใจผิดในสังคม เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมามีการแก้ไขบทบัญญัติในหมวด 1 และ 2 มาโดยตลอด ไม่ใช่เรื่องต้องห้ามแต่อย่างใด และการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของไทยมีการจำกัดขอบเขตอยู่แล้วว่า การแก้ไขที่เป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือรูปแบบของรัฐ จะกระทำมิได้ ดังที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญปัจจุบัน มาตรา 255
ดังนั้น พรรคก้าวไกลจะไปอภิปรายเพื่อขอแก้ไขประเด็นดังกล่าวเมื่อการพิจารณาเรื่อง ส.ส.ร. เข้าสู่การประชุมของรัฐสภา ด้วยเรายืนยันในหลักการที่ว่า อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญหรืออำนาจสูงสุดในการเขียนรัฐธรรมนูญนั้น เป็นของประชาชน เมื่อประชาชนเลือกตั้ง ส.ส.ร. ไปจัดทำรัฐธรรมนูญแล้ว ส.ส.ร. ต้องแก้ไขใหม่ได้ทั้งฉบับ ส.ส.ร. เช่นนี้ จะสามารถสะท้อนและโอบรับเจตจำนงของประชาชนได้ทุกกลุ่ม ไม่ปิดกั้นความคิดและความฝันของประชาชนกลุ่มใด สุดท้ายเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีเนื้อหาอย่างไรผ่านเวที ส.ส.ร. และการลงประชามติ
2. การยื่นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อยกเลิกบทเฉพาะกาล มาตรา 269-272 เป็นสิ่งที่ต้องผลักดันในลำดับถัดไปให้ทันในสมัยประชุมนี้ เพราะ ส.ว. 250 คนที่ คสช. แต่งตั้งมาและมีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ถือเป็นกลไกสำคัญในการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร หากเราสามารถยกเลิกอำนาจของ ส.ว. ในการเลือกนายกฯ ได้เมื่อไร ประเทศก็สามารถเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ไม่ว่าด้วยการลาออกของนายกฯ หรือการยุบสภา ให้เป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ ส.ส.ร. จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่แล้วเสร็จ
3. พรรคก้าวไกลเสนอให้ยกเลิกบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ ม.279 เพื่อมิให้มีการรับรองประกาศ-คำสั่ง คสช. และการกระทำที่เกี่ยวเนื่อง ให้ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและชอบด้วยกฎหมายไปตลอดกาล เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญรับรองตรวจสอบประกาศ-คำสั่ง คสช. และการกระทำที่เกี่ยวเนื่องได้
การยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญตามข้อ 2 และ 3 นั้น จำเป็นจะต้องใช้เสียง 1 ใน 5 ของ ส.ส. ที่มีอยู่ ซึ่งเท่ากับ 98 เสียง ปัจจุบันพรรคก้าวไกลมี ส.ส. อยู่เพียง 54 เสียง ดังนั้น เราจะพยายามขอเสียงจากพรรคการเมืองอื่น เพื่อยกเลิกหัวใจสำคัญในการสืบทอดอำนาจ คสช. ให้ได้ทันภายในสมัยประชุมนี้ ด้วยความเชื่อมั่นในอำนาจสูงสุดของประชาชน
[ จุดยืนและข้อเสนอในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคก้าวไกล ]
.
ในสถานการณ์ปัจจุบัน...โพสต์โดย พรรคก้าวไกล - Move Forward Party เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2020