“ท่านใหม่” เผย พระเจ้าแผ่นดินอดทนเหลือเกิน เป็นคนธรรมดาระเบิดนานแล้ว “หมอเหรียญทอง” มีตอนต่อไป กองทัพ ปชช.ปกป้องสถาบัน “อัษฎางค์” ชี้ชัดยิ่งกว่าชัด! ธรรมศาสตร์ จัดล้มเจ้า? “ดร.กิตติธัช” ชำแหละ ส่งต่อความแค้นจาก “6 ตุลา”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (11 ส.ค. 63) จากกรณีนักศึกษาหนุ่มสาวชาวธรรมศาสตร์รังสิต จัดชุมนุมทางการเมือง ซึ่งบางช่วง บนเวทีการปราศรัยมีการฉายภาพโปรเจกเตอร์ขนาดใหญ่ เป็นรูป นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ 2 ผู้ต้องหาคดี ม.112 ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ รวมทั้งมีผู้ปราศรัยส่อเสียดในทางดูหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อย่างชัดเจน ซึ่งภาพดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไป จนกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาในสังคมไทย ถึงความไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
เรื่องนี้ เฟซบุ๊ก จุลเจิม ยุคล ของ ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ “ท่านใหม่” โพสต์ข้อความระบุว่า
“เป็นพระเจ้าแผ่นดินของพระราชอาณาจักรนี้ ต้องมีความอดทนเหลือเกิน ถ้าเป็นคนธรรมดาๆ ระเบิดไปนานแล้ว
พระเจ้าแผ่นดิน ของพระราชอาณาจักรนี้ ทรงมีความ อดทน อดกลั้น
ร.9 ทรงมีความอดทน ในการเสด็จพระราชดำเนิน ไปยังท้องถิ่นทุรกันดาร ทั่วพระราชอาณาจักร เพื่อหาทางเยียวยาให้พสกนิกรของพระองค์ ในท้องถิ่นที่ทุรกันดารสามารถลืมตาอ้าปากได้
ร.10 ทรงมีความอดกลั้น ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน จะทรงโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ทรงอดกลั้น ไม่โต้ตอบ แถมทรงมีพระเมตตา อภัยโทษไม่เอาผิด เพื่อไม่ให้พสกนิกร ของพระองค์ในพระราชอาณาจักรนี้ เกิดการเลือดนองแผ่นดิน”
ขณะเดียวกัน พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ผู้เคยประกาศสละชีพเป็นราชพลีมาแล้ว โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า
“กองพันประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ประจำจังหวัดๆ ละอย่างน้อย 1 กองพัน จัดครบทุกจังหวัดจะได้ “กองทัพประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์”...ไม่จำกัดเพศ ไม่จำกัดอายุ ไม่กำหนดคุณวุฒิ...ขอเพียงคุณสมบัติข้อเดียว คือ “จงรักภักดีจริง ไม่โลกสวย”...คอยติดตามตอนต่อไปในเร็วๆ นี้”
ไม่เพียงเท่านั้น นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ ยังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ “ธรรมศาสตร์ เหิมเกริม จัดงานล้มเจ้า?” เนื้อหาระบุว่า
“เหมือนเคยได้ยินอยู่บ่อยๆ ว่า... “ต่อต้าน-ปฏิวัติ”
แล้วอยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจเป็น “ต้องการ-ปฏิวัติ”
เช่นเดียวกับ ที่เคยได้ยินอยู่บ่อยๆ ว่า...
ให้ยุบสภาและแก้รัฐธรรมนูญ
แล้วอยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจ เพราะมาคิดได้ทีหลังว่า ถ้ายุบสภาแล้ว ก็ไม่มีสภาที่จะร่างรัฐธรรมนูญ
ตกลง นักเรียน นิสิตนักศึกษาที่เป็นกองหน้า กับอาจารย์และนักการเมือง-นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่อยู่หลังกระโปรงนักศึกษา มีความรู้เรื่องการเมืองการปกครอง จริงหรือหลอก
เล่นลิเกหรือเล่นการเมือง ยึกๆ ยักๆ เดี๋ยว ต่อต้าน-ปฏิวัติ เดี๋ยว ต้องการ-ปฏิวัติ เดี๋ยวแก้รัฐธรรมนูญ เดี๋ยวแก้ผ้า
ยึกๆ ยักๆ เพราะพื้นฐานความรู้ กลวง
............................................................................
พระมหากษัตริย์ของไทย อยู่ใต้รัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ 2475 แล้ว ปวินเลิกตอแหลเสียที
คนที่ไม่ยอมอยู่ใต้รัฐธรรมนูญตัวจริง คือ 2 ตัว ที่ธรรมศาสตร์เอาขึ้นเป็นภาพบนเวที
รัฐธรรมนูญคือกฎหมายของชาติ แต่ 2 ตัวนั้น ทำผิดกฎหมาย และเพราะไม่เคารพกฎหมาย ไม่ยอมอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ ถึงต้องลี้ภัยไปต่างแดนแบบนั้น
นี่ ธรรมศาสตร์ ยกย่องคนที่ไม่ยอมอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ
แล้วใส่ความพระมหากษัตริย์ หรือ?
............................................................................
ที่ชัดเจนยิ่งกว่าสิ่งใด คือ ได้เวลาที่พวกเขาเปิดหน้าแล้ว
เห็นชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ธนาธร ปวิน และ ธรรมศาสตร์
ที่ทั้งหมดรวมพลังพันธมิตรจัดงาน ล้มเจ้า ที่ธรรมศาสตร์
ถ้า...นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่รัฐ นิ่งดูดาย หมายถึง ยอมรับ
ยอมรับว่า ธรรมศาสตร์ สามารถจัดงาน “ล้มเจ้า” ได้
พวกเราประชาชนคนไร้อำนาจ ก็ได้แต่อ้าปาก แต่ไร้เสียง ลืมตา แต่ทำได้แค่ตาปริบๆ
นี่ ธรรมศาสตร์ ต้องการปฏิวัติ เพื่อ ล้มเจ้า จริงๆ
โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดกระดิกตัวทำอะไรเลย ใช่มั้ย?”
และที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เฟซบุ๊ก Kittitouch Chaiprasithของ ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระ และอาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม สอนพิเศษด้านปรัชญาการเมือง โพสต์หัวข้อ “ฉะเดือดถึงการเตรียมการมานานนับสิบปี ของกลุ่มใต้ดิน”
เนื้อหาระบุว่า “ในที่สุด ก็ถึงวันที่พวกเขาเปิดหน้าชัดเจน
หลังจากเตรียมการมานานนับสิบปี ตั้งแต่การสร้างเครือข่าย IO เพจใต้ดิน สร้างเฟกนิวส์ สร้างวาทกรรมการเมือง บิดเบือนข้อเท็จจริง สร้างเครือข่ายเยาวชนในด้านต่างๆ จนถึงขนาดตั้งพรรคการเมือง เพื่อมารองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
วันนี้ไม่มีอะไรต้องแอบ ไม่มีอะไรต้องหลบ
เพราะมวลชนที่พวกเขาเตรียมมันพร้อมมาก
ก็ดีครับ...จะได้เลิกหลอกตัวเองว่า “มีการใช้สถาบันกษัตริย์เป็นเครื่องมือทางการเมืองป้ายสีโจมตีฝ่ายตรงข้าม” เพราะที่ผ่านมาตลอดสิบปีนี้ ก็เห็นทำกันตลอด แต่อ้างว่า โดนใส่ร้าย (ทั้งที่หลักฐานเยอะแยะ)
ก็มาดูกันครับว่า ความแค้นจากยุค 6 ตุลาของคนรุ่นนั้น ส่งต่อถึงรุ่น 2-3 แล้วใช้เด็กยุคปัจจุบันมาเป็นเครื่องมือ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ตามแบบที่พวกเขาต้องการหรือไม่
ห่วงอย่างเดียวก็คือ คนไทยต้องมาเข่นฆ่ากันอีกครา และคราวนี้เป็นคนรุ่นลูกรุ่นหลานของเราเสียด้วย....”
พร้อมกันนี้ ดร.กิตติธัช ยังระบุ ข้อเรียกร้องของการชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ด้วยว่า
#10 ข้อเรียกร้องของนักศึกษาธรรมศาสตร์
1. ยกเลิก ม.6 ผู้ใดจะกล่าวฟ้องร้องกษัตริย์มิได้ และเพิ่มบทบัญญัติให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้พิจารณาความผิดของกษัตริย์
2. ยกเลิก 112 เปิดให้วิจารณ์ได้ นิรโทษคนที่ถูกดำเนินคดีเพราะวิจารณ์กษัตริย์
3. ยกเลิก พ.ร.บ.ทรัพย์สิน 2561 แยกทรัพย์สินเป็น ทรัพย์สินส่วนกษัตริย์ดูแลโดยกระทรวงการคลัง และทรัพย์สินส่วนพระองค์
4. ลดงบประมาณสถาบันกษัตริย์ให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ
5. ยกเลิกส่วนราชการในพระองค์ หน่วยถวายความปลอดภัย ย้ายไปสังกัดหน่วยงานอื่น ยกเลิกองคมนตรี
6. ยกเลิกการรับบริจาคการกุศล
7. ยกเลิกการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในที่สาธารณะ
8. ยกเลิกการประชาสัมพันธ์เชิดชูสถาบันกษัตริย์ด้านเดียว
9. สืบหาความจริงเกี่ยวกับการสังหารราษฎรที่อาจเกี่ยวพันกับสถาบันกษัตริย์
10. ห้ามมิให้ลงชื่อรับรองการรัฐประหารอีก
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของการชุมนุมโดยกลุ่มนักเรียน นิสิตนักศึกษา ที่เรียกตัวเองว่า “เยาวชนปลดแอก” และยกระดับมาเป็น “ประชาชนปลดแอก” แล้วเวลานี้ มีเบื้องหลัง
เบื้องหลัง ที่สำคัญก็คือ กลุ่มผู้ลี้ภัยทางการเมือง ความผิด ม.112 หรือ ความผิดต่อสถาบันกษัตริย์ นั่นเอง
นั่นหมายถึง เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ใครก็ตาม ที่เข้าร่วม ก็จะถือว่าต้องการแสดงออกตามที่กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังต้องการอย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว สามารถเลือกที่จะเข้าร่วมหรือไม่ก็ได้ และแสดงว่า ข้อเรียกร้อง 3 ข้อที่ตั้งเอาไว้เป็นเป้าหลอก จึงเท่ากับที่ผ่านมา หลายคนถูกหลอกหรือไม่
แต่ถ้ายังคงเข้าร่วมการชุมนุม ทั้งที่รู้ความจริงแล้วว่า มีขบวนการ “ล้มเจ้า” อยู่เบื้องหลัง และกำลังจะชักนำไปสู่อะไร กำลังตกเป็นเหยื่อทางการเมือง และที่สุดอาจสุ่มเสี่ยงต่อชีวิต เลือดเนื้อ เหมือนอดีตที่ผ่านมา ก็ต้องดูแลตัวเอง รับผิดชอบตัวเอง เพราะรู้เขาหลอก แต่เต็มใจให้หลอก... ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ก็ฟังไม่ขึ้นอีกแล้ว
ยิ่งกว่านั้น ดูเหมือนข้อเรียกร้องทั้งหมด ถ้าหลายคนติดตาม เพจเฟซบุ๊กของ ศาสดา “ล้มเจ้า” ทั้งหลาย จะเห็นว่า เป็นชุดความคิดเดียวกัน และขณะนี้ พวกยกตนเป็นศาสดาทั้งหลาย กำลังตื่นเต้นกับครั้งแรกที่มีคนเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอย่างตรงไปตรงมาในประเทศไทย ทั้งยังฝันหวานที่จะได้กลับประเทศไทยอย่าง “เท่ๆ” อีกต่างหาก
อะไรไม่สำคัญเท่ากับ นักวิชาการบางคน เชื่อว่า มีสองทางเลือก คือ ทำตามข้อเรียกร้องของนักศึกษาแต่โดยดี หรือ จะยอมถูกปฏิวัติยกเลิกไปเลย ความคิดเช่นนี้มันมีแต่ “ทางตัน” และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเผชิญหน้ากับความรุนแรงเท่านั้นเอง ไม่เชื่อลองดู!!!