ผู้จัดการรายวัน360-2 ม็อบบุกหน้าสภาพร้อมกัน ตำรวจขอความร่วมมือแยกกันชุมนุม หวั่นเกิดการปะทะ ครช.จี้เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เหตุร่างมาเพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่ม ฝ่ายค้านโดดรับทันที ม็อบ ศอปส. ลั่นเปิดโปงรายชื่อพวกชังชาติ จัดการกลุ่มหมิ่นสถาบันเด็ดขาด เด็กธรรมศาสตร์ผนึกกำลัง สนท. เปิดเวที “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” นิสิต นักศึกษา ประชาชนแห่ร่วมคับคั่ง “พุทธิพงษ์”ลั่นไม่ยอม หากจาบจ้าง ละเมิดสถาบัน ยันดำเนินคดีถึงที่สุด “ธนกร”แนะหันหน้าคุยกัน ย้ำ “บิ๊กตู่”มาจากเลือกตั้ง ไม่ได้ทำผิดอะไร ทำไมต้องมาไล่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 ส.ค.) บรรยากาศบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) ได้เดินทางมาร่วมกันทำกิจกรรมแสดงจุดยืน “ไม่แก้ไข เขียนใหม่เท่านั้น” นำโดยนายอนุสรณ์ อุณโณ อาจารณ์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อีกด้าน กลุ่ม ศอปส. หรือศูนย์กลางประสานงาน นักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบัน นำโดย พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตแนวร่วม กปปส. ที่เชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชนมาแสดงจุดยืนร่วมปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อต่อต้านแกนนำที่หมิ่นสถาบันฯ
ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงได้นำกำลังตำรวจจากพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล (บก.น.1) และกองบังคับการตำรวจนครบาล (บก.น.4) กว่า 200 นายตั้งแถวตรึงกำลังรอบด้านหน้าอย่างแน่นหนา พร้อมตั้งรั้วเหล็กกั้น และได้ขอความร่วมมือกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายให้ชุมนุมกันคนละฝั่งเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ
โดย ครช. ได้เริ่มต้นกิจกรรมด้วยการแสดงละครเงียบล้อการเมือง และมีตัวแทนจากแต่ละกลุ่มมาปราศรัยแสดงจุดยืนไม่แก้ไข แต่ต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่เท่านั้น
นายอนุสรณ์ แถลงการณ์ว่า รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 เป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร และชนชั้นนำของประเทศ บนการริดรอนสิทธิเสรีภาพบนความผาสุกของประชาชน ร่างมาเพื่อผลประโยชน์ของบางกลุ่ม และสร้างเงื่อนไขอย่างแน่นหนาไม่ให้แก้ไขตามมาตรา 256 ขณะเดียวกันเกิดการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากคนรุ่นใหม่อย่างกว้างขวาง เพราะตระหนักว่าความเลวร้ายที่พวกเขาได้เจออยู่ตอนนี้และในอนาคตมาจากรัฐธรรมนูญ และต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน แม้จะมีการตอบสนองการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากภาคการเมืองทั้ง ส.ส. และ ส.ว. แต่ก็แก้ไขเฉพาะมาตรา และเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม จึงจำเป็นต้องมีการทำประชามติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ดังนั้น กลุ่มของตนจึงยื่นหนังสือให้วิปฝ่ายค้านขอยื่นร่าง พ.ร.บ.ประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้บรรจุในวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรให้ออกเป็นกฎหมายต่อไป จากนั้นนายอนุสรณ์ได้ยื่นหนังสือต่อนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านและ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน
นายสุทิน กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ต้องขอบคุณ ครช. ที่ได้ร่างประชามติมาให้ วันนี้ฝ่ายค้านจะรับและนำไปตรวจสอบสาระและข้อกฎหมาย ก่อนที่จะให้สมาชิก ส.ส. ลงชื่อและเสนอญัตติภายในวันพฤหัสบดีหรือวันศุกร์ ภายในสัปดาห์นี้ โดยฝ่ายค้านยืนยันว่าร่างแก้ไรรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านมี 2 เรื่องหลักที่จะแก้มาตรา 256 และตั้ง สสร. ซึ่งอยู่ในทิศทางเดียวกันกับ ครช.
นายทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ตนเห็นว่าต้องคืนอำนาจสูงสุดให้กับประชาชน การฟังเสียงแค่ในสภาฯ อาจจะไม่ใช่แล้ว ถ้าเรื่องอะไรที่กระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชน ต้องไปฟังเสียงของประชาชน ถ้าอยู่แค่ในสภาฯ เสียงข้างมากใครครอบงำได้ก็ชนะ
ภายหลังการยื่นหนังสือ ครช. ได้ทำกิจกรรมปิดท้ายด้วยการแสดงเผากงเต๊กเครื่องบิน รถถัง นาฬิกา และ รัฐธรรมนูญ เพื่อส่งไปให้คนร่าง พร้อมทั้งอ่านบทกวียืนยันอุดมการณ์ของกลุ่ม
ขณะที่กลุ่มศูนย์กลางประสานงานนักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบัน ได้รวมตัวเพื่อยื่นเรื่องต่อรัฐสภา แสดงจุดยืนให้ดำเนินการกลับกลุ่มผู้ชุมนุมบางกลุ่ม และกลุ่มคนที่จาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ในโลกออนไลน์ หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการอย่างจริงจังละเลยให้บานปลาย
นายสุเมธ ตระกูลวุ่นหนู กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันต้องการความรู้รักสามัคคี แต่มีกลุ่มบุคคลเคลื่อนไหว โดยนำสถาบันพระมหากษัตริย์มายุยงให้แตกแยก เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น กลุ่มนักเรียนอาชีวะและนักศึกษาประชาชนที่มีใจรักสถาบันและแผ่นดินไทย เห็นว่า ถึงเวลาที่จะรวมตัวกันประท้วงกลุ่มคนเหล่านั้นที่ใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือทำลายชาติ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ โดย ศอปส. ตั้งขึ้นเพื่อให้สติเยาวชนพ่อแม่ ให้ตระหนักภัยคุกคามของชาติ โดยกลุ่มจะใช้วิธีการต่อต้านโดยเปิดเผยชื่อบุคคลที่ชังชาติ และดำเนินการกับกลุ่มที่หมิ่นสถาบันอย่างถึงที่สุด
วันเดียวกันนี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี บริเวณลานพญานาค กลุ่มกิจกรรมนักศึกษาต่างๆ ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และกลุ่มแนวร่วมนิสิตมหาสารคามเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มเสรีไทยพลัส จัดชุมนุม “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” โดยถือเป็นการจัดการชุมนุมอย่างเต็มรูปแบบของนักศึกษาเป็นครั้งแรก
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีการชุมนุมหน้ารัฐสภาของม็อบ 2 กลุ่ม ว่า ความคิดเห็นที่แตกต่างในทางการเมือง เป็นเรื่องปกติที่มีมาโดยตลอด แต่การสื่อสารในโซเชียลมีเดีย ตนอยากจะให้ระมัดระวัง เพราะได้ติดตามมาอย่างใกล้ชิด บางข้อมูลเป็นข้อมูลที่บิดเบือนความจริง ทำให้มีคนเข้าใจผิด อาจทำให้รู้สึกโกรธ สับสน ไม่เข้าใจ การออกมาชุมนุมแสดงสิทธิของตัวเองในพื้นที่ปลอดภัยและได้รับอนุญาตไม่ผิดกฎหมาย ยังถือว่าสามารถทำได้ แต่ทุกคนต้องช่วยกัน คือ เราเห็นแตกต่างทางการเมืองได้ แต่ไม่ควรล่วงเกินหรือละเมิดสิทธิของคนอื่น รวมไปถึงสถาบันหลักของประเทศ ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ว่าใครก็คงจะยอมไม่ได้
“ผมพยายามติดตามดูว่า ถ้าไม่ผิดกฎหมาย ไม่ไปละเมิด หรือก้าวล่วงสถาบันหลัก ก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าไปละเมิดยืนยันว่าจะดำเนินคดีอย่างแน่นอน และอยากเตือนไปถึงน้องๆ การชุมนุมอาจเกิดการสูญเสีย ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย เพราะหลังการชุมนุมทุกครั้ง จะมีการดำเนินคดี ขึ้นโรงขึ้นศาล ไม่ว่าจะผิดหรือถูก ต้องใช้เวลานานมากกว่าทุกอย่างจะคลี่คลาย และคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้น้องๆ ทุกคนที่ออกมาได้ระมัดระวัง และยังเสียเวลา เสียโอกาส”นายพุทธิพงษ์กล่าว
นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล เพราะรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศ มีแต่ทำงานให้กับประเทศด้วยความตั้งใจ ไม่มีการทุจริตคอรัปชั่นเหมือนรัฐบาลในอดีต การชุมนุมขับไล่จึงยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 ส.ค.) บรรยากาศบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) ได้เดินทางมาร่วมกันทำกิจกรรมแสดงจุดยืน “ไม่แก้ไข เขียนใหม่เท่านั้น” นำโดยนายอนุสรณ์ อุณโณ อาจารณ์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อีกด้าน กลุ่ม ศอปส. หรือศูนย์กลางประสานงาน นักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบัน นำโดย พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตแนวร่วม กปปส. ที่เชิญชวนพ่อแม่พี่น้องประชาชนมาแสดงจุดยืนร่วมปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อต่อต้านแกนนำที่หมิ่นสถาบันฯ
ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคงได้นำกำลังตำรวจจากพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล (บก.น.1) และกองบังคับการตำรวจนครบาล (บก.น.4) กว่า 200 นายตั้งแถวตรึงกำลังรอบด้านหน้าอย่างแน่นหนา พร้อมตั้งรั้วเหล็กกั้น และได้ขอความร่วมมือกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายให้ชุมนุมกันคนละฝั่งเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ
โดย ครช. ได้เริ่มต้นกิจกรรมด้วยการแสดงละครเงียบล้อการเมือง และมีตัวแทนจากแต่ละกลุ่มมาปราศรัยแสดงจุดยืนไม่แก้ไข แต่ต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่เท่านั้น
นายอนุสรณ์ แถลงการณ์ว่า รัฐธรรมนูญฉบับ 2560 เป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร และชนชั้นนำของประเทศ บนการริดรอนสิทธิเสรีภาพบนความผาสุกของประชาชน ร่างมาเพื่อผลประโยชน์ของบางกลุ่ม และสร้างเงื่อนไขอย่างแน่นหนาไม่ให้แก้ไขตามมาตรา 256 ขณะเดียวกันเกิดการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากคนรุ่นใหม่อย่างกว้างขวาง เพราะตระหนักว่าความเลวร้ายที่พวกเขาได้เจออยู่ตอนนี้และในอนาคตมาจากรัฐธรรมนูญ และต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน แม้จะมีการตอบสนองการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากภาคการเมืองทั้ง ส.ส. และ ส.ว. แต่ก็แก้ไขเฉพาะมาตรา และเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม จึงจำเป็นต้องมีการทำประชามติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ดังนั้น กลุ่มของตนจึงยื่นหนังสือให้วิปฝ่ายค้านขอยื่นร่าง พ.ร.บ.ประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้บรรจุในวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรให้ออกเป็นกฎหมายต่อไป จากนั้นนายอนุสรณ์ได้ยื่นหนังสือต่อนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านและ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน
นายสุทิน กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ต้องขอบคุณ ครช. ที่ได้ร่างประชามติมาให้ วันนี้ฝ่ายค้านจะรับและนำไปตรวจสอบสาระและข้อกฎหมาย ก่อนที่จะให้สมาชิก ส.ส. ลงชื่อและเสนอญัตติภายในวันพฤหัสบดีหรือวันศุกร์ ภายในสัปดาห์นี้ โดยฝ่ายค้านยืนยันว่าร่างแก้ไรรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านมี 2 เรื่องหลักที่จะแก้มาตรา 256 และตั้ง สสร. ซึ่งอยู่ในทิศทางเดียวกันกับ ครช.
นายทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ตนเห็นว่าต้องคืนอำนาจสูงสุดให้กับประชาชน การฟังเสียงแค่ในสภาฯ อาจจะไม่ใช่แล้ว ถ้าเรื่องอะไรที่กระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชน ต้องไปฟังเสียงของประชาชน ถ้าอยู่แค่ในสภาฯ เสียงข้างมากใครครอบงำได้ก็ชนะ
ภายหลังการยื่นหนังสือ ครช. ได้ทำกิจกรรมปิดท้ายด้วยการแสดงเผากงเต๊กเครื่องบิน รถถัง นาฬิกา และ รัฐธรรมนูญ เพื่อส่งไปให้คนร่าง พร้อมทั้งอ่านบทกวียืนยันอุดมการณ์ของกลุ่ม
ขณะที่กลุ่มศูนย์กลางประสานงานนักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบัน ได้รวมตัวเพื่อยื่นเรื่องต่อรัฐสภา แสดงจุดยืนให้ดำเนินการกลับกลุ่มผู้ชุมนุมบางกลุ่ม และกลุ่มคนที่จาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ในโลกออนไลน์ หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ดำเนินการอย่างจริงจังละเลยให้บานปลาย
นายสุเมธ ตระกูลวุ่นหนู กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันต้องการความรู้รักสามัคคี แต่มีกลุ่มบุคคลเคลื่อนไหว โดยนำสถาบันพระมหากษัตริย์มายุยงให้แตกแยก เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น กลุ่มนักเรียนอาชีวะและนักศึกษาประชาชนที่มีใจรักสถาบันและแผ่นดินไทย เห็นว่า ถึงเวลาที่จะรวมตัวกันประท้วงกลุ่มคนเหล่านั้นที่ใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือทำลายชาติ ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ โดย ศอปส. ตั้งขึ้นเพื่อให้สติเยาวชนพ่อแม่ ให้ตระหนักภัยคุกคามของชาติ โดยกลุ่มจะใช้วิธีการต่อต้านโดยเปิดเผยชื่อบุคคลที่ชังชาติ และดำเนินการกับกลุ่มที่หมิ่นสถาบันอย่างถึงที่สุด
วันเดียวกันนี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี บริเวณลานพญานาค กลุ่มกิจกรรมนักศึกษาต่างๆ ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และกลุ่มแนวร่วมนิสิตมหาสารคามเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มเสรีไทยพลัส จัดชุมนุม “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” โดยถือเป็นการจัดการชุมนุมอย่างเต็มรูปแบบของนักศึกษาเป็นครั้งแรก
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีการชุมนุมหน้ารัฐสภาของม็อบ 2 กลุ่ม ว่า ความคิดเห็นที่แตกต่างในทางการเมือง เป็นเรื่องปกติที่มีมาโดยตลอด แต่การสื่อสารในโซเชียลมีเดีย ตนอยากจะให้ระมัดระวัง เพราะได้ติดตามมาอย่างใกล้ชิด บางข้อมูลเป็นข้อมูลที่บิดเบือนความจริง ทำให้มีคนเข้าใจผิด อาจทำให้รู้สึกโกรธ สับสน ไม่เข้าใจ การออกมาชุมนุมแสดงสิทธิของตัวเองในพื้นที่ปลอดภัยและได้รับอนุญาตไม่ผิดกฎหมาย ยังถือว่าสามารถทำได้ แต่ทุกคนต้องช่วยกัน คือ เราเห็นแตกต่างทางการเมืองได้ แต่ไม่ควรล่วงเกินหรือละเมิดสิทธิของคนอื่น รวมไปถึงสถาบันหลักของประเทศ ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ว่าใครก็คงจะยอมไม่ได้
“ผมพยายามติดตามดูว่า ถ้าไม่ผิดกฎหมาย ไม่ไปละเมิด หรือก้าวล่วงสถาบันหลัก ก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าไปละเมิดยืนยันว่าจะดำเนินคดีอย่างแน่นอน และอยากเตือนไปถึงน้องๆ การชุมนุมอาจเกิดการสูญเสีย ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย เพราะหลังการชุมนุมทุกครั้ง จะมีการดำเนินคดี ขึ้นโรงขึ้นศาล ไม่ว่าจะผิดหรือถูก ต้องใช้เวลานานมากกว่าทุกอย่างจะคลี่คลาย และคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้น้องๆ ทุกคนที่ออกมาได้ระมัดระวัง และยังเสียเวลา เสียโอกาส”นายพุทธิพงษ์กล่าว
นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวขับไล่รัฐบาล เพราะรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศ มีแต่ทำงานให้กับประเทศด้วยความตั้งใจ ไม่มีการทุจริตคอรัปชั่นเหมือนรัฐบาลในอดีต การชุมนุมขับไล่จึงยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ
