วันนี้ (10 ส.ค.) คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) ทำกิจกรรมแสดงจุดยืน ‘ไม่แก้ไข เขียนใหม่เท่านั้น’ ที่หน้าสัปปายะสภาสถาน ถนนสามเสน ย่านเกียกกาย เริ่มด้วยการแสดงละครเงียบล้อการเมือง และมีตัวแทนจากแต่ละกลุ่มมาปราศรัยแสดงจุดยืนไม่แก้ไข แต่ต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่เท่านั้น อาทิ กลุ่มนิสิตนักศึกษา และภาคประชาชน นำโดยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และ รศ.อนุสรณ์ อุณโณ อาจารณ์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นตัวแทนแถลงการณ์ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ร่างมาเพื่อผลประโยชน์ของบางดลุ่ม และสร้างเงื่อนไขอย่างแน่นหนาในการแก้ไขตามมาตรา 256 ขณะเดียวกัน เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างกว้างขวาง เพราะตระหนักว่าความเลวร้ายที่พวกเขาได้เจออยู่ตอนนี้และในอนาคตมาจากรัฐธรรมนูญ และต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชน เพื่อประชาชน แม้จะมีการตอบสนองการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากภาคการเมืองทั้ง ส.ส.และ ส.ว. แต่ก็แก้ไขเฉพาะมาตรา และเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม จึงจำเป็นต้องมีการทำประชามติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ดังนั้นกลุ่มของตนจึงยื่นหนังสือแก่วิปฝ่ายค้านจึงขอยื่นร่าง พ.ร.บ.ประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้บรรจุในวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรให้ออกเป็นกฎหมายต่อไป โดยมีนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน มารับหนังสือจาก ครช.
โดยนายสุทินกล่าวว่า พรรคฝ่ายค้านมีความคิดไปในทิศทางเดียวกันกับทุกท่านที่มาวันนี้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหา เหนี่ยวรั้งการพัฒนาประเทศ ร่างรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไข พรรคฝ่ายค้านร่างและลงชื่อเรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะเสนอต่อรัฐสภา แต่รอให้มีการพิจารณาร่วมกับ ส.ว. และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของประชาชน และจะยื่นในวันจันทร์ที่ 17 ส.ค. 2563 แต่บันไดที่จะนำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญคือ ร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ซึ่งได้รับจาก ครช. วันนี้ฝ่ายค้านจะนำไปตรวจสอบสาระและข้อกฎหมาย ก่อนที่จะให้สมาชิกลงชื่อและเสนอภายในวันพฤหัสบดีหรือวันศุกร์ภายในสัปดาห์นี้ แต่เมื่อเข้าสู่วาระของสภาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เราจะต้องร่วมมือกันให้มากขึ้น พร้อมชี้แจงว่าร่างแก้ไรรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านมี 2 เรื่องหลัก คือ แม้มาตรา 256 และตั้ง ส.ส.ร.ซึ่งอยู่ในทิศทางเดียวกันกับ ครช.แน่นอน
ด้านนายทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้มาตราต้นๆ เป็นประชาธิปไตย แต่มาตราท้ายสุดขัดต่อหลักการและไม่เป็นประชาธิปไตย ตนจึงเห็นว่าจะต้องคืออำนาจสูงสุดให้กับประชาชน การฟังเสียงแค่ในสภาอาจจะไม่ใช่แล้ว ถ้าเรื่องออะไรที่จะทบสิมธิเสรีภาพของผระชาชนต้องไปฟังเสียงของประชาชน ถ้าอยู่แค่ในสภาเสียงข้างมากใครครอบงำได้ก็ชนะ
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีความเห็นแก้ไข 3 ก้อน คือ มาตรา 256, มาตรา 269-272 ตัดบทบาทของสมาชิกวุฒิสภาที่ใช้เลือกนายกรัฐมนตรีและไม่ยึดโยงกับประชาชน, มาตรา 279 ยกเลิกการรับรองคำสั่ง คสช. พร้อมย้ำว่าอย่าเอาการอยู่ในตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถูกอยู่กับแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการปิดท้ายด้วยการแสดงเผากงเต๊กรัฐธรรมนูญส่งไปให้คนร่างและอ่านบทกวียืนยันอุดมการณ์ของกลุ่ม
ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงนำกำลังตำรวจจากพื้นที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล (บก.น.1) และกองบังคับการตำรวจนครบาล (บก.น.4) กว่า 200 นายตั้งแถวตรึงกำลังรอบด้านหน้าอย่างแน่นหนา พร้อมตั้งรั้วเหล็กกั้น