เมืองไทย 360 องศา
จากการแถลงที่ทำเนียบรัฐบาลล่าสุด วันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า ได้ “ปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ เท่านั้น”
ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากความหมายตามที่เขากล่าวทั้งหมดโดยรวมๆ แล้ว น่าจะเป็นการปรับทดแทนตำแหน่งรัฐมนตรีที่ลาออกไป 6 ตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งหากไล่เรียงทบทวนกันอีกรอบ ก็มี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
อีกทั้งเมื่อรับฟังจากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ทำให้เข้าใจว่า บุคคลที่ทาบทามมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ก็คือ นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกสิกรไทย หลังจากก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยว่าได้ทาบทามไปและอยู่ในขั้นการพิจารณาตัดสินใจ
นอกเหนือจากนี้ สำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ ที่มีการเคลื่อนไหวของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการโยกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายกฯได้ตอบคำถามในเรื่องโควตาของพรรคพลังประชารัฐ หรือของนายกฯ โดยเขายืนยันว่าไม่มีความขัดแย้ง และได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคแล้ว
“เราไม่ได้คุยกันถึงว่าเป็นโควตาของใคร ผมจัดสรรให้เหมาะสมก็แล้วกัน ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะพูด แต่คนที่ตัดสินใจคือผม โดยการทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน คิดว่า ก็มีความเห็นชอบด้วยกันอยู่แล้ว ในท้ายที่สุดคิดว่าอีกไม่นานก็จะมีการปรับเปลี่ยน ครม.ในช่วงเร็วๆ นี้ อย่างที่บอกแล้วว่าเป็นขั้นตอนที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ”
เมื่อถามย้ำว่า นายสุริยะ ยังต้องการนั่งเกาอี้รัฐมนตรีพลังงาน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่รู้เหมือนกัน ใครอยากได้ก็พูดกันมาตลอดว่า นายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจไม่ใช่หรือ”
หากพิจารณากันแบบนี้ก็ต้องพอคาดเดาได้ว่า คนที่น่าจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ ก็น่าจะเป็น นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ตามข่าวก่อนหน้านี้ รวมไปถึงรัฐมนตรีคนอื่นที่ไม่ขยับ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่น่าจะยังเป็น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เช่นเดิม ไม่ใช่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่จะมานั่งควบแต่อย่างใด และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ยังเป็น นายดอน ปรมัตถ์วินัย
ส่วนที่เหลือยกเว้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่เป็นโควตาของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่เสนอชื่อนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เข้ามาล่วงหน้า แทน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ก่อนหน้านี้แล้ว ก็ยังต้องลุ้นในรายชื่อที่เหลือสำหรับพรรคพลังประชารัฐ ที่จะเสนอชื่อใครมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษาฯ และ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ
แต่หากโฟกัสสำหรับ นายปรีดี ดาวฉาย นอกจากดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้ว น่าจะควบตำแหน่งรองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจด้วย
รูปการณ์ในการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ น่าจะประมาณนี้ ขณะเดียวกัน ที่ต้อง “ฟังอีกครั้ง” กับคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากการแถลงในคราวนี้ ก็คือ “อีกไม่นานจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงเร็วๆ นี้” หมายความว่า ใครที่ยังพลาดหวัง หรือยังไม่ได้เก้าอี้ตามต้องการก็ให้รอลุ้นเอาเที่ยวหน้าอีกรอบก็แล้วกัน
การแถลงของนายกรัฐมนตรีดังกล่าวหมายความว่า เวลานี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติก่อนนำเสนอขึ้นทูลเกล้าฯเท่านั้น ซึ่งตามไทม์ไลน์ก็คงไม่เกินกลางเดือนหน้า คือ กลางเดือนสิงหาคมนี้อย่างแน่นอน
พิจารณาจากการเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ล่าสุด ที่เห็นก็เหมือนกับการ “รีบตัดจบ” ให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันแรงกระเพื่อมบานปลาย หลังจากที่ผ่านมาเริ่มเห็นการเคลื่อนไหวบางอย่าง โดยเฉพาะ “ภายในพรรคพลังประชารัฐ” เองนั่นแหละ ที่เริ่มมีการเคลื่อนไหวปล่อยข่าว “ทิ่มแทง” กันเอง รวมไปถึงกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นในที่ประชุมคณะกรรมาธิการงบประมาณจนที่ประชุมล่ม ก็เป็นสัญญาณไม่ดี ทั้งในเรื่องของความเสื่อมศรัทธาจากภายนอก และปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาล จนอาจส่งผลถึงการทำงานทั้งในรัฐบาลและในสภาในอนาคต
ดังนั้น การตัดจบแบบรวดเร็วและใช้อำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีพิจารณาตามความเหมาะสมตามที่ทุกฝ่ายเคยพูดมัดคอตัวเองเอาไว้แล้ว แต่ที่ต้องพิจารณากัน ก็คือ นี่คือ การ “ปรับเล็ก” ทดแทนตำแหน่งที่ออกไปเท่านั้น เพื่อรอ “ปรับใหญ่” อีกไม่นานข้างหน้าตามที่รับปากกันไว้ ถึงตอนนั้นมารอลุ้นกันอีกทีว่าจะ “ป่วน” กันขนาดไหน จะเอาอยู่หรือไม่ !!
