“คำนูณ” ตั้งกระทู้จี้ถามนายกฯ แจงวิธีรับมือม็อบ หวั่นทำสถานการณ์บานปลาย เหตุป้ายข้อความที่ไม่เกี่ยวกับข้อเรียกร้อง

“คำนูณ” ตั้งกระทู้ถามนายกฯ แจงวิธีรับมือม็อบ หวั่นป้ายข้อความที่ไม่เกี่ยวกับข้อเรียกร้องทำสถานการณ์บานปลาย ด้าน “บิ๊กช้าง” แจงให้ จนท.อดทนอดกลั้น เน้นชี้แจงข้อ กม. มอบ สตช.วางกรอบดูแลม็อบชุมนุมต่อเนื่องหลายจังหวัด ลั่นรัฐบาลไม่ได้ปิดกั้น แต่การใช้สิทธิเสรีภาพต้องไม่ละเมิดสิทธิคนอื่น ไม่มีนัยแอบแฝง ไม่ละเมิดสถาบันฯ โดยเด็ดขาด

วันนี้ (20 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา ตั้งกระทู้ถามด้วยวาจา ต่อนายกฯ ถึงการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มเยาวชนปลดแอก - Free YOUTH และกลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า การชุมนุมทางการเมืองในยุคสมัยนี้ สิ่งที่ควบคู่ไปด้วยคือการชุมนุมในโลกเสมือนจริง การชุมนุมในโลกออนไลน์ และยังมีการชุมนุมต่อเนื่องในต่างจังหวัดด้วย สิ่งที่ประชาชนไม่สบายใจคือ ตลอด 15 ปีที่ผ่านมาเราเผชิญกับการชุมนุมมายาวนาน แต่ครั้งล่าสุดนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นและเผยแพร่ไปในสื่อสาธารณะนั้นก่อให้เกิดความไม่สบายใจ รัฐบาลมีความมั่นใจในการจัดการกับการชุมนุมที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับจากนี้ไปอย่างไร การเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุมนั้นได้สร้างความอดทนให้แก่เจ้าหน้าที่อย่างไรต่อการยั่วยุ และข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ต้องยอมรับความจริงว่าเป็นความขัดแย้งในบ้านเมืองนี้มาเกือบ 15 ปี นายกฯ มีแนวทางในการแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาวอย่างไร เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่า บ้านเมืองเราจะไม่กลับไปเป็นเหมือนก่อนปี 2557

นายคำนูณกล่าวอีกว่า สำหรับการชุมนุมที่ไม่เกี่ยวกับข้อเรียกร้องโดยตรง ซึ่งผู้ที่มาร่วมชุมนุมมีการเขียนป้ายในหลายๆ ป้ายที่ไม่ได้เกี่ยวกับข้อเรียกร้องนั้น มีโอกาสสร้างความกระทบกระเทือนจิตใจให้ประชาชนจำนวนมาก รัฐบาลจะมีวิธีการบริหารจัดการหรือสื่อข่าวสารไปยังผู้ชุมนุมอย่างไร เพราะตลอด 2-3 วันมานี้ ข้อมูลเหล่านี้ถูกเผยแพร่อยู่ในโลกเสมือนจริง ซึ่งจากประวัติศาสตร์นั้นเมื่อมีเรื่องเหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองแล้ว ค่อนข้างจะอันตรายอย่างยิ่ง และในที่สุดก็อาจจะมีการชุมนุมของผู้ชุมนุมที่มีความเห็นอีกอย่างหนึ่งออกมาได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่ง

ด้าน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้มาชี้แจงแทนกล่าวว่า นายกฯ ห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และห่วงใยต่อผู้ชุมนุมด้วย เนื่องจากปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 สำหรับการบริหารจัดการการชุมนุมเพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเป็นไปตามสิทธิเสรีภาพของผู้แสดงออกทางการเมืองนั้น รัฐบาลได้มอบแนวทางให้เจ้าหน้าที่ในการดูแลเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และไม่เกิดผลกระทบต่อประชาชน หรือถ้าเกิดก็ต้องเกิดให้น้อยที่สุด โดยให้เจ้าหน้าที่มีความอดทนอดกลั้น ใช้การชี้แจงต่อผู้ชุมนุมถึงข้อกฎหมาย สร้างความเข้าใจร่วมกันว่าตรงไหนปฏิบัติได้ ตรงไหนปฏิบัติไม่ได้อย่างไร ที่ผ่านมาทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมมีการสื่อสารกันตลอดเวลา ส่วนการชุมนุมต่อเนื่องในแต่ละพื้นที่ต่อจากนี้ไปนั้น รัฐบาลได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติไปทบทวนและกำหนดมาตรการในการดูแลผู้ชุมนุมให้มีความเหมาะสม เป็นไปตามกฎหมาย และต้องไม่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยและสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั่วไปด้วย

พล.อ.ชัยชาญกล่าวอีกว่า สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้นรัฐบาลก็รับฟัง โดยในขั้นต้นข้อเสนอทั้ง 3 ข้อนั้นมีการดำเนินการในปัจจุบันอยู่แล้ว โดยข้อ 1. ให้ยุบสภานั้น อยู่ที่นายกฯ ที่จะเป็นผู้พิจารณา 2. การคุกคามต่างๆ นั้น ในการปฏิบัติต่างๆ ในกรณีใดก็ตาม รัฐบาลได้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขอบเขตอำนาจของกฎหมาย ไม่ได้ข่มขู่คุกคามใดๆ และ 3. เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลมีแนวทางที่ดำเนินการอยู่แล้ว โดยมีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 อยู่แล้ว สำหรับเนื้อหาสาระของการชุมนุม ภาพหรือกิจกรรมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อเสนอนั้น ในส่วนของเสรีภาพในการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน รัฐบาลไม่ได้ปิดกั้น แต่การใช้สิทธิเสรีภาพนั้นต้องไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพคนอื่น ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่มีนัยแอบแฝง และต้องไม่ละเมิดสถาบันฯ โดยเด็ดขาด โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมาย ตามหน้าที่ที่รับผิดชอบในทุกกรณี