กลุ่มเยาวชนปลดแอก ยกคณะรวมตัวหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ลั่นไม่ใช่เป็นม็อบมุ้งมิ้ง โวยถูกคุกคาม จี้แยกอำนาจกับสิทธิและฟังประชาชน ขณะเจ้าหน้าที่คุมเข้ม
วันนี้ (20 ก.ค.) เวลา 16.30 น. ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน กลุ่มเยาวชนปลดแอก-Free YOUTH และกลุ่มสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) นำโดย นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคอนาคตใหม่ นายอานนท์ นำภา ทนายความคนเสื้อแดง นายภาณุพงษ์ จาดนอก หรือ ไมค์ เยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย และ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ได้ทยอยเดินทางมาร่วมตัวชุมนุมทำกิจกรรมทางการเมือง โดยมีการใช้เครื่องขยายเสียง พร้อมตั้งเวทีปราศรัยขนาดเล็ก สืบเนื่องจากที่ พ.อ.หญิง นุสรา วรภัทราทร หรือ ผู้พันเจี๊ยบ นายทหารประจำกรมยุทธการทหารบก ซึ่งเป็นอดีตรองโฆษกกองทัพบก โพสต์แสดงความเห็นในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการชุมนุมเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ว่า เป็นม็อบมุ้งมิ้ง รวมถึงกรณีการใช้งบประมาณของกองทัพบกในการจัดซื้อเครื่องบินวีไอพี และการใช้กฎหมายคุกคามประชาชน
โดยมีมวลชนส่วนหนึ่งชูกล้วยและป้ายระบุข้อความว่า “หยุดซื้อเรือ เครื่องบิน เพื่อปากท้องประชาชน”, “ทหารคือรั้ว อย่ามั่วเป็นเจ้าของบ้าน”, “ทหารมีไว้ทำไม”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนนครบาล 1 จำนวน 1 หมวด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนนอกเครื่องแบบประมาณ 20 นาย พร้อมรถเครื่องขยายเสียง และเจ้าหน้าที่หน่วยข่าว ประมาณ 20 นาย คอยทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารบก กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ได้ปิดประตูทางเข้าด้านหน้าในเวลา 17.00 น. ทั้งนี้ ก่อนที่แกนนำจะเริ่มทำกิจกรรม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ได้อ่านประกาศและข้อกำหนดโทษที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 พ.ร.บ.ควบคุมโรค และ พ.ร.บ.การจราจร ผ่านรถเครื่องขยายเสียง โดยมีการจอดรถหันลำโพงไปที่กลุ่มผู้ชุมนุม แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่ได้สนใจ
จากนั้น นายภาณุพงษ์ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ม็อบเราไม่ใช่ม็อบมุ้งมิ้ง เวลาเราทำกิจกรรมจะมีเจ้าหน้าที่แต่งกายคล้ายทหารไปหาที่บ้าน ถ่ายรูปครอบครัว และขอเบอร์โทร.คนที่บ้าน สิ่งเหล่านี้คือการคุกคามประชาชนหรือไม่ ขอให้ช่วยแยกแยะอำนาจกับสิทธิเสรีภาพประชาชนด้วย ทั้งนี้ ผู้นำควรรับฟังเสียงประชาชน ทั้งผู้เห็นด้วยและผู้เห็นต่าง