ผู้จัดการรายวัน360-6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน เตรียมเดินสายเปิดเกมซักฟอกนอกสภาฯ อดีตอนค. มั่นใจหาพรรคใหม่สังกัดได้ทันตามกรอบรัฐธรรมนูญกำหนด "ธนาธร" นัดเลี้ยงขอบคุณฝ่ายค้าน 4 มี.ค.นี้ ชี้ยุบพรรคจุดชนวนความไม่พอใจของประชาชนให้ลุกขึ้นมาโค่นล้มเผด็จการ พร้อมแนะหนังสือ "จากเผด็จการสู่ประชาธิปไตย" ให้ศึกษา ใช้เป็นแนวทางต่อสู้ "คำนูณ" ชี้เปิดสภาฯ รับฟังนักศึกษาอาจไม่ได้ผลรวดเร็ว แต่ได้ทันที คือ ได้แสดงความจริงใจที่จะหาทางออกร่วมกันของทุกฝ่าย ใช้รัฐสภาเป็นเวทีประนีประนอม ไม่ใช่เวทีใช้เสียงข้างมากรักษาความชอบธรรมให้รัฐบาล "เทพไท" ค้านเปิดประชุมวิสามัญ แนะใช้ช่องทาง กมธ.วิสามัญศึกษาแก้รัฐธรรมนูญเร็วกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุมแกนนำ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นประธานการประชุม
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรค พท. กล่าวว่า 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ควรหยุดเพียงแค่ในสภาผู้แทนราษฎร หลังจากนี้เราจะเปิดอภิปรายนอกสภา โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.การรวบรวมคำถามทั้งหมดที่ส.ส.ได้อภิปรายถาม และรัฐมนตรีไม่ได้ตอบ หรือตอบไม่ครบ โพสต์ลงในเพจพรรคฝ่ายค้านเพื่อประชาชน และ 2.การจัดอภิปรายนอกสภาฯ โดยเราจะจัดทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะแบ่งออกเป็น 4 ภาค อย่างที่เคยทำ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงกรณีที่มีข้อกังขาว่ามีฝ่ายค้านไปตกลงกับรัฐบาล เพื่อไม่อภิปรายรัฐมนตรีบางคนนั้น ในฐานะที่ตนเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันว่า ไม่ได้มีการสมยอมกัน เราคิดว่ามีเวลาถึงเที่ยงคืน ถ้าไม่ปิดปากกัน ก็จะสามารถพูดจนจบได้ ส่วนเนื้อหาในการอภิปราย คณะทำงานของฝ่ายค้านเห็นว่ามีหลายประเด็น ที่รัฐมนตรีตอบไม่ตรงคำถาม เช่น เรื่องไอโอ จึงอยากเรียนถึงนายกฯ ให้เลิกทำเสีย บางเรื่องตอบไม่ได้ เช่น คดีความที่ออสเตรเลีย และภาษีบุหรี่ เป็นต้น
นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า 1.ต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และทำงานร่วมกันในอนาคตต่อไป และ 2.จุดเริ่มต้นของพรรคฝ่ายค้าน เรารวมตัวกันเพราะมีเป้าหมายเดียวกัน คือ รักษาประชาธิปไตย และอยากให้ประชาชนได้รับการดูแล เราสู้กับผู้มีอำนาจรัฐ ที่ใช้อำนาจเกินขอบเขต ดังนั้น ฝ่ายค้านเรายังมีจุดยืนร่วมกัน และจะจับมือกันอย่างเข้มแข็ง พร้อมเดินหน้าต่อไป ทั้งนี้ ภาระหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้าน ไม่ได้อยู่เพียงในสภาฯ เราจะต้องเดินหน้าตรวจสอบทั้งในและนอกสภา โดยการร่วมมือกับประชาชน เพราะหากอาศัยเพียงมือในสภาฯ เราไม่สามารถเอาชนะอำนาจของฝ่ายรัฐบาลได้ และยืนยันว่าไม่มีอะไรที่จะมาทำลายความรัก ความสามัคคีในการทำงานร่วมกันของพรรคฝ่ายค้านได้
นายชัยธวัช ตุลาธน อดีต รองเลขาธิการ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวว่า พรรค อนค. ส่วนหนึ่งจะเดินต่อในนามของ คณะอนาตคใหม่ อีกส่วนจะทำงานในสภาฯ อดีตส.ส.ของอนาคตใหม่ เราได้สรุปบทเรียนร่วมกัน ทั้งการทำงานในพรรค และการทำงานร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งเราจะเดินหน้าทำงานร่วมกันต่อไป เพราะขณะนี้การเคลื่อนไหวของประชาชน เป็นสถานการณ์ที่แหลมคม เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจและรัฐบาลที่ไม่มีศักยภาพในการแก้ปัญหา เรื่องนี้ 6 พรรคฝ่ายค้าน และภาคประชาสังคม จะต้องทำงานร่วมกันต่อไป
ส่วนการจัดตั้งพรรคใหม่ เพื่อรองรับส.ส.ของพรรคนั้น ภายในเดือนมี.ค.นี้ จะประกาศอย่างเป็นทางการ และที่มีกระแสข่าวว่าจะเป็นวันที่ 8 มี.ค.2563 เป็นเพียงการคุยเบื้องต้นในการสัมมนา ส.ส. ทั้งนี้ ส.ส.ที่จะย้ายมาพรรคใหม่ มี 55 คน และในวันที่ 4 มี.ค.2563 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนค. จะเลี้ยงขอบคุณแกนนำพรรคฝ่ายค้านเป็นการส่วนตัว
ธนาธรแนะนำหนังสือสู้เผด็จการ
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ จากเผด็จการสู่ประชาธิปไตย : แผนการสู่อิสรภาพ โดยระบุว่า ไม่เคยมีใครคิดว่า เหตุการณ์การยุบพรรคอนาคตใหม่ จะเป็นตัวจุดชนวนความไม่พอใจของคนจำนวนมาก ให้ระเบิดออกมา เป็นการแสดงออกซึ่งความไม่พอใจต่อสภาพการเมืองการปกครอง และสภาพสังคมภายใต้เผด็จการที่ครองอำนาจมาอย่างยาวนาน คนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่ออกมาชุมนุมกันอย่างเป็นจริงเป็นจังในช่วงนี้ แต่การโค่นล้มเผด็จการที่ฝังรากในสังคมไทยมายาวนาน ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น จึงเห็นว่า เราควรจะมาร่วมกันศึกษา แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เครื่องมือ เทคนิค วิธีการ ในการต่อกรกับเผด็จการ และเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย
ทั้งนี้ นายธนาธร ยังได้แนะนำหนังสือชื่อ “From Dictatorship to Democracy” ที่แปลเป็นไทยในชื่อ "จากเผด็จการสู่ประชาธิปไตย" ของ ยีน ชาร์ป (Gene Sharp) ไว้ให้ศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการต่อสู้กับเผด็จการด้วย
"คำนูณ"ยันเปิดสภาฯแก้ปัญหาม็อบ
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีสนับสนุนให้มีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ รับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มนักศึกษาและคนหนุ่มสาว ว่า แม้แนวทางดังกล่าวนี้ อาจไม่ได้ผลเร็วทันใจทั้งหมด แม้จะลงเอยจนถึงขั้นตั้งกมธ.วิสามัญ ของรัฐสภา ที่เปิดให้มีบุคคลภายนอกเข้าร่วมด้วยได้แล้ว หรือตั้งคณะกรรมการของรัฐบาล หรือรัฐสภาก็ตาม ก็ยังต้องปรับจูนเข้าหากันอีกพอสมควร ในเบื้องต้นอาจจะไล่ไม่ทันความขัดแย้งข้างนอกระบบด้วยซ้ำ แต่ที่ได้ผลทันที คือ ได้แสดงความจริงใจ และตั้งใจจริงของรัฐบาล อย่างน้อย 2 ทาง
ทางหนึ่ง ความจริงใจ และความตั้งใจจริงที่เห็นว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาสำคัญของการบริหารราชการแผ่นดิน จำเป็นจะต้องแสวงหาทางออกร่วมกันของทุกรุ่น ทุกฝ่าย ทุกสถานะ โดยรับฟังซึ่งกันและกัน เคารพซึ่งกันและกัน พร้อมจะอยู่ร่วมกันอย่างแตกต่างไม่แตกแยก และอีกทางหนึ่ง ความจริงใจและความตั้งใจจริงที่เห็นว่ารัฐสภา คือ เวทีแห่งการประนอมอำนาจ หาใช่เพียงเวทีแห่งการใช้เสียงข้างมากสร้างความชอบธรรมในการใช้อำนาจรัฐของรัฐบาลเท่านั้น
"แม้ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทั้งหมด อาจจะไม่เห็นความจริงใจนี้ในทันที ตรงกันข้ามอาจเห็นว่าเป็นเพียงการชลอจุดเดือดที่พวกเขาเชื่อว่ามาถึงแล้วและเขาได้เปรียบ แต่เชื่อว่าคนที่เข้าใจย่อมมี ทั้งในหมู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลและฝ่ายที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งซึ่งก็มีมากเช่นกัน"นายคำนูณระบุ
"เทพไท"เสนอใช้ช่องกมธ.แก้รธน.
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอของสมาชิกรัฐสภา หลายคนเรียกร้องให้เปิดสมัยประชุมวิสามัญ เพื่อนำปัญหาการชุมนุมของนักศึกษามาพูดคุยกัน และตั้งกมธ.วิสามัญ โดยให้นักศึกษาเข้าร่วมว่า ส่วนตัวไม่ขัดข้อง ถ้าจะเปิดประชุมวิสามัญ เพื่อเสนอญัตติเรื่องนี้ แต่สิ่งที่กังวล คือ กว่าจะมีการเสนอให้เปิดวิสามัญได้ กว่าจะตั้งกมธ.ศึกษาเรื่องดังกล่าว จะเสียเวลาประมาณ 3 เดือน แต่สถานการณ์ตอนนี้กำลังร้อนแรง นักศึกษาก็กำลังชุมนุมอยู่ทุกวัน และอาจจะขยายตัวไปสู่ทุกภูมิภาคทุกจังหวัด ที่สำคัญขณะนี้ ยังลุกลามจากนิสิตนักศึกษาไปสู่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ซึ่งต่างจังหวัดก็มีความเคลื่อนไหว ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง
"การที่จะมาเปิดวิสามัญ และตั้งกมธ. เกรงว่ากว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้เสียก่อน จึงขอเสนอให้รัฐบาลไปฟังความเห็นข้อเรียกร้องข้อเสนอของกลุ่มนักศึกษาที่ชุมนุม ว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นให้นำมาพิจารณาโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อ เสนอที่เรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ให้เป็นประชาธิปไตย คิดว่าเรื่องนี้สามารถรับได้ทันที และน่าจะเป็นการปลดล็อก ชนวนได้ในระดับหนึ่ง เพราะ 1.เรามี กมธ.วิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์แนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว จึงคิดว่าใช้ช่องทางนี้ นำข้อเสนอของนักศึกษามาเข้าในชุดนี้ได้เลย หรือ 2.ถ้าจะให้รวดเร็วกว่านี้ รัฐบาลก็เปิดวิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญไปเลย โดยอาจให้กมธ. เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษา ปัญญาชน และนำสู่การแก้ไขในสภาฯ เลย แบบนี้ถือว่าสั้น ม้วนเดียว" นายเทพไทกล่าว
แนะรัฐบาลใช้วิธียื้อ ม็อบจะฝ่อไปเอง
พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ และผู้ก่อตั้งองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน โพสต์เฟซบุ๊กถึงการชุมนุม"แฟลชม็อบ" ของนศ.ว่า เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่ใช้กำลังปราบปราม แม้จะถูกยั่วยุก็ตาม และจะปล่อยให้ชุมนุมกันไปเรื่อยๆ ในขณะที่ฝ่ายรัฐก็จะนำข้อมูล ข้อเสนอที่ดีๆ จากการชุมนุมมาพิจารณาแก้ไข แล้วแจ้งให้ผู้ชุมนุมและสาธารณชนทราบเป็นระยะๆ ข้อมูลใดที่เป็นการเข้าใจผิดของผู้ชุมนุม ก็แจ้งให้ทราบเช่นกัน ส่วนข้อมูลใดที่เป็นนัยยะสื่อถึงการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ก็เก็บไว้เป็นหลักฐานในการติดตามเป็นรายบุคคลที่กระทำความผิด ถึงแม้อาจจะเป็นแค่นัยยะ แต่เมื่อรู้ตัวบุคคลแล้ว การติดตามข้อมูลส่วนตัวจะกระทำได้ง่ายขึ้น และจะสามารถสืบค้นขยายผลได้อีกเป็นกลุ่มบุคคลในโลกออนไลน์ เช่นเดียวกับกรณี “นิรนาม” ไม่ต้องรีบร้อนดำเนินคดีครับ คดีมีอายุความอีกนาน ประคับประคองไปเรื่อยๆ อย่าให้มีการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง อย่าให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย การชุมนุมจะฮึกเหิมในระยะแรกๆ นานวันเข้า พฤติกรรมการแสดงออกที่สามานย์ บ่อนทำลาย จะเป็นตัวทำลายการชุมนุมมันเอง ซึ่งจะทำให้แนวร่วมลดลงเอง ส่วนประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม ก็ต้องอดทนอดกลั้น อย่าไปวิวาทจนเกิดความรุนแรงขึ้น ปล่อยยืดเยื้อไปเรื่อยๆ แล้วแกนนำหัวโจกเหล่านี้จะไปไม่เป็นเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุมแกนนำ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นประธานการประชุม
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรค พท. กล่าวว่า 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ควรหยุดเพียงแค่ในสภาผู้แทนราษฎร หลังจากนี้เราจะเปิดอภิปรายนอกสภา โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.การรวบรวมคำถามทั้งหมดที่ส.ส.ได้อภิปรายถาม และรัฐมนตรีไม่ได้ตอบ หรือตอบไม่ครบ โพสต์ลงในเพจพรรคฝ่ายค้านเพื่อประชาชน และ 2.การจัดอภิปรายนอกสภาฯ โดยเราจะจัดทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะแบ่งออกเป็น 4 ภาค อย่างที่เคยทำ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงกรณีที่มีข้อกังขาว่ามีฝ่ายค้านไปตกลงกับรัฐบาล เพื่อไม่อภิปรายรัฐมนตรีบางคนนั้น ในฐานะที่ตนเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันว่า ไม่ได้มีการสมยอมกัน เราคิดว่ามีเวลาถึงเที่ยงคืน ถ้าไม่ปิดปากกัน ก็จะสามารถพูดจนจบได้ ส่วนเนื้อหาในการอภิปราย คณะทำงานของฝ่ายค้านเห็นว่ามีหลายประเด็น ที่รัฐมนตรีตอบไม่ตรงคำถาม เช่น เรื่องไอโอ จึงอยากเรียนถึงนายกฯ ให้เลิกทำเสีย บางเรื่องตอบไม่ได้ เช่น คดีความที่ออสเตรเลีย และภาษีบุหรี่ เป็นต้น
นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า 1.ต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และทำงานร่วมกันในอนาคตต่อไป และ 2.จุดเริ่มต้นของพรรคฝ่ายค้าน เรารวมตัวกันเพราะมีเป้าหมายเดียวกัน คือ รักษาประชาธิปไตย และอยากให้ประชาชนได้รับการดูแล เราสู้กับผู้มีอำนาจรัฐ ที่ใช้อำนาจเกินขอบเขต ดังนั้น ฝ่ายค้านเรายังมีจุดยืนร่วมกัน และจะจับมือกันอย่างเข้มแข็ง พร้อมเดินหน้าต่อไป ทั้งนี้ ภาระหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้าน ไม่ได้อยู่เพียงในสภาฯ เราจะต้องเดินหน้าตรวจสอบทั้งในและนอกสภา โดยการร่วมมือกับประชาชน เพราะหากอาศัยเพียงมือในสภาฯ เราไม่สามารถเอาชนะอำนาจของฝ่ายรัฐบาลได้ และยืนยันว่าไม่มีอะไรที่จะมาทำลายความรัก ความสามัคคีในการทำงานร่วมกันของพรรคฝ่ายค้านได้
นายชัยธวัช ตุลาธน อดีต รองเลขาธิการ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวว่า พรรค อนค. ส่วนหนึ่งจะเดินต่อในนามของ คณะอนาตคใหม่ อีกส่วนจะทำงานในสภาฯ อดีตส.ส.ของอนาคตใหม่ เราได้สรุปบทเรียนร่วมกัน ทั้งการทำงานในพรรค และการทำงานร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งเราจะเดินหน้าทำงานร่วมกันต่อไป เพราะขณะนี้การเคลื่อนไหวของประชาชน เป็นสถานการณ์ที่แหลมคม เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจและรัฐบาลที่ไม่มีศักยภาพในการแก้ปัญหา เรื่องนี้ 6 พรรคฝ่ายค้าน และภาคประชาสังคม จะต้องทำงานร่วมกันต่อไป
ส่วนการจัดตั้งพรรคใหม่ เพื่อรองรับส.ส.ของพรรคนั้น ภายในเดือนมี.ค.นี้ จะประกาศอย่างเป็นทางการ และที่มีกระแสข่าวว่าจะเป็นวันที่ 8 มี.ค.2563 เป็นเพียงการคุยเบื้องต้นในการสัมมนา ส.ส. ทั้งนี้ ส.ส.ที่จะย้ายมาพรรคใหม่ มี 55 คน และในวันที่ 4 มี.ค.2563 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนค. จะเลี้ยงขอบคุณแกนนำพรรคฝ่ายค้านเป็นการส่วนตัว
ธนาธรแนะนำหนังสือสู้เผด็จการ
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ จากเผด็จการสู่ประชาธิปไตย : แผนการสู่อิสรภาพ โดยระบุว่า ไม่เคยมีใครคิดว่า เหตุการณ์การยุบพรรคอนาคตใหม่ จะเป็นตัวจุดชนวนความไม่พอใจของคนจำนวนมาก ให้ระเบิดออกมา เป็นการแสดงออกซึ่งความไม่พอใจต่อสภาพการเมืองการปกครอง และสภาพสังคมภายใต้เผด็จการที่ครองอำนาจมาอย่างยาวนาน คนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่ออกมาชุมนุมกันอย่างเป็นจริงเป็นจังในช่วงนี้ แต่การโค่นล้มเผด็จการที่ฝังรากในสังคมไทยมายาวนาน ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น จึงเห็นว่า เราควรจะมาร่วมกันศึกษา แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เครื่องมือ เทคนิค วิธีการ ในการต่อกรกับเผด็จการ และเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย
ทั้งนี้ นายธนาธร ยังได้แนะนำหนังสือชื่อ “From Dictatorship to Democracy” ที่แปลเป็นไทยในชื่อ "จากเผด็จการสู่ประชาธิปไตย" ของ ยีน ชาร์ป (Gene Sharp) ไว้ให้ศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการต่อสู้กับเผด็จการด้วย
"คำนูณ"ยันเปิดสภาฯแก้ปัญหาม็อบ
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีสนับสนุนให้มีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ รับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มนักศึกษาและคนหนุ่มสาว ว่า แม้แนวทางดังกล่าวนี้ อาจไม่ได้ผลเร็วทันใจทั้งหมด แม้จะลงเอยจนถึงขั้นตั้งกมธ.วิสามัญ ของรัฐสภา ที่เปิดให้มีบุคคลภายนอกเข้าร่วมด้วยได้แล้ว หรือตั้งคณะกรรมการของรัฐบาล หรือรัฐสภาก็ตาม ก็ยังต้องปรับจูนเข้าหากันอีกพอสมควร ในเบื้องต้นอาจจะไล่ไม่ทันความขัดแย้งข้างนอกระบบด้วยซ้ำ แต่ที่ได้ผลทันที คือ ได้แสดงความจริงใจ และตั้งใจจริงของรัฐบาล อย่างน้อย 2 ทาง
ทางหนึ่ง ความจริงใจ และความตั้งใจจริงที่เห็นว่าความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาสำคัญของการบริหารราชการแผ่นดิน จำเป็นจะต้องแสวงหาทางออกร่วมกันของทุกรุ่น ทุกฝ่าย ทุกสถานะ โดยรับฟังซึ่งกันและกัน เคารพซึ่งกันและกัน พร้อมจะอยู่ร่วมกันอย่างแตกต่างไม่แตกแยก และอีกทางหนึ่ง ความจริงใจและความตั้งใจจริงที่เห็นว่ารัฐสภา คือ เวทีแห่งการประนอมอำนาจ หาใช่เพียงเวทีแห่งการใช้เสียงข้างมากสร้างความชอบธรรมในการใช้อำนาจรัฐของรัฐบาลเท่านั้น
"แม้ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลทั้งหมด อาจจะไม่เห็นความจริงใจนี้ในทันที ตรงกันข้ามอาจเห็นว่าเป็นเพียงการชลอจุดเดือดที่พวกเขาเชื่อว่ามาถึงแล้วและเขาได้เปรียบ แต่เชื่อว่าคนที่เข้าใจย่อมมี ทั้งในหมู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลและฝ่ายที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งซึ่งก็มีมากเช่นกัน"นายคำนูณระบุ
"เทพไท"เสนอใช้ช่องกมธ.แก้รธน.
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอของสมาชิกรัฐสภา หลายคนเรียกร้องให้เปิดสมัยประชุมวิสามัญ เพื่อนำปัญหาการชุมนุมของนักศึกษามาพูดคุยกัน และตั้งกมธ.วิสามัญ โดยให้นักศึกษาเข้าร่วมว่า ส่วนตัวไม่ขัดข้อง ถ้าจะเปิดประชุมวิสามัญ เพื่อเสนอญัตติเรื่องนี้ แต่สิ่งที่กังวล คือ กว่าจะมีการเสนอให้เปิดวิสามัญได้ กว่าจะตั้งกมธ.ศึกษาเรื่องดังกล่าว จะเสียเวลาประมาณ 3 เดือน แต่สถานการณ์ตอนนี้กำลังร้อนแรง นักศึกษาก็กำลังชุมนุมอยู่ทุกวัน และอาจจะขยายตัวไปสู่ทุกภูมิภาคทุกจังหวัด ที่สำคัญขณะนี้ ยังลุกลามจากนิสิตนักศึกษาไปสู่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ซึ่งต่างจังหวัดก็มีความเคลื่อนไหว ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง
"การที่จะมาเปิดวิสามัญ และตั้งกมธ. เกรงว่ากว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้เสียก่อน จึงขอเสนอให้รัฐบาลไปฟังความเห็นข้อเรียกร้องข้อเสนอของกลุ่มนักศึกษาที่ชุมนุม ว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นให้นำมาพิจารณาโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อ เสนอที่เรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ให้เป็นประชาธิปไตย คิดว่าเรื่องนี้สามารถรับได้ทันที และน่าจะเป็นการปลดล็อก ชนวนได้ในระดับหนึ่ง เพราะ 1.เรามี กมธ.วิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์แนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว จึงคิดว่าใช้ช่องทางนี้ นำข้อเสนอของนักศึกษามาเข้าในชุดนี้ได้เลย หรือ 2.ถ้าจะให้รวดเร็วกว่านี้ รัฐบาลก็เปิดวิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญไปเลย โดยอาจให้กมธ. เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษา ปัญญาชน และนำสู่การแก้ไขในสภาฯ เลย แบบนี้ถือว่าสั้น ม้วนเดียว" นายเทพไทกล่าว
แนะรัฐบาลใช้วิธียื้อ ม็อบจะฝ่อไปเอง
พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ และผู้ก่อตั้งองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน โพสต์เฟซบุ๊กถึงการชุมนุม"แฟลชม็อบ" ของนศ.ว่า เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่ใช้กำลังปราบปราม แม้จะถูกยั่วยุก็ตาม และจะปล่อยให้ชุมนุมกันไปเรื่อยๆ ในขณะที่ฝ่ายรัฐก็จะนำข้อมูล ข้อเสนอที่ดีๆ จากการชุมนุมมาพิจารณาแก้ไข แล้วแจ้งให้ผู้ชุมนุมและสาธารณชนทราบเป็นระยะๆ ข้อมูลใดที่เป็นการเข้าใจผิดของผู้ชุมนุม ก็แจ้งให้ทราบเช่นกัน ส่วนข้อมูลใดที่เป็นนัยยะสื่อถึงการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ก็เก็บไว้เป็นหลักฐานในการติดตามเป็นรายบุคคลที่กระทำความผิด ถึงแม้อาจจะเป็นแค่นัยยะ แต่เมื่อรู้ตัวบุคคลแล้ว การติดตามข้อมูลส่วนตัวจะกระทำได้ง่ายขึ้น และจะสามารถสืบค้นขยายผลได้อีกเป็นกลุ่มบุคคลในโลกออนไลน์ เช่นเดียวกับกรณี “นิรนาม” ไม่ต้องรีบร้อนดำเนินคดีครับ คดีมีอายุความอีกนาน ประคับประคองไปเรื่อยๆ อย่าให้มีการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง อย่าให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย การชุมนุมจะฮึกเหิมในระยะแรกๆ นานวันเข้า พฤติกรรมการแสดงออกที่สามานย์ บ่อนทำลาย จะเป็นตัวทำลายการชุมนุมมันเอง ซึ่งจะทำให้แนวร่วมลดลงเอง ส่วนประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม ก็ต้องอดทนอดกลั้น อย่าไปวิวาทจนเกิดความรุนแรงขึ้น ปล่อยยืดเยื้อไปเรื่อยๆ แล้วแกนนำหัวโจกเหล่านี้จะไปไม่เป็นเอง